หนุ่มชาวบ้านวัยฉกรรค์คนหนึ่งสมัครเป็นคนตัดฟืนให้กับเถ้าแก่ประจำหมู่บ้านแห่งหนึ่ง วันแรกของการทำงานเขาเดินเข้าป่าด้วยความมุ่งมั่น และตัดต้นไม้เพื่อทำเป็นฟืนได้ถึง 20 ต้น เย็นวันนั้นเถ้าแก่ชื่นชมเขาเพราะเขาสามารถตัดต้นไม้ได้มากที่สุดในบรรดาคนตัดไม้ด้วยกัน เขาจึงคิดว่าเขาต้องทุ่มเททำให้ดีขึ้นอีก ในวันรุ่งขึ้นเขามุ่งเข้าป่าเพื่อตัดต้นไม้แต่เช้า จนถึงเย็นเขาตัดต้นไม้ได้ 18 ต้น แต่เถ้าแก่ก็ยังชื่นชมในความตั้งใจของเขา เช้าวันรุ่งขึ้นเขาเริ่มทำงานเช้ากว่าเดิม และตัดไม้จนแทบจะไม่ได้พัก ตกเย็นปรากฎว่าเขาตัดต้นไม้ได้เพียง 16 ต้นเท่านั้น เขารู้สึกเศร้าใจมากที่ทำงานเต็มที่แล้วแต่กลับทำได้ไม่ดี และรู้สึกผิดจึงเดินไปขอโทษเถ้าแก่ หลังจากได้รับการขอโทษจากคนตัดไม้แล้วเถ้าแก่ก็ถามคนตัดไม้ว่า “เธอลับขวานครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่” ชายคนนั้นตอบว่า เขาไม่ได้ลับขวานเลยเพราะแค่ตัดต้นไม้ให้ได้ตามที่ต้องการการแทบจะไม่มีเวลาพักแล้ว เถ้าแก่จึงสอนชายคนนั้นว่า “หากเธอเสียเวลาเพียงเล็กน้อยเพื่อลับขวานให้คมอยู่เสมอ เธอคงจะตัดต้นไม้ได้มากกว่านี้และเหนื่อยน้อยกว่านี้ด้วย”
แนวคิดในการสอนงาน
การทุ่มเททำงานนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่สิ่งที่สำคัญคือในโลกของการทำงานปัจจุบัน เราต้องหมั่นหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ เพราะความรู้เปรียบเสมือนอาวุธคู่กายที่ไม่มีใครแย่งไปจากเราได้ และถ้าเรายิ่งหมั่นเพิ่มความรู้ให้กับตัวเองก็เหมือนกับการลับขวานให้คมอยู่เสมอ ซึ่งจะช่วยให้เราทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นแต่เหนื่อยน้อยลง ข้อคิดอีกประการหนึ่งคือต้องแบ่งเวลาพักผ่อนให้กับตัวเองบ้าง เพราะการโหมทำงานหนัก ร่างกายจะอ่อนล้า แม้จิตใจจะเข้มแข็งเพียงใดสักวันหนึ่งอาจะเจ็บป่วยไม่สบาย จนถึงขั้นทำงานไม่ไหวก็เป็นต้น …