เนื่องจากหนีร้อนจากเกาะไปเที่ยวเหนือหลายวัน และกำลังเขียน “บันทึกการเดินทาง เชียงใหม่-เชียงราย” อยู่ จึงขอคั่นเวลาเพื่อน ๆ ด้วยโจ๊กวันละหนึ่งจาน เอ้ยหนึ่งเรื่องนะครับ ซึ่งวันนี้ก็เป็นวันที่สองแล้วยังเขียนไม่เสร็จซะที หวังว่าคงไม่เบื่อโจ๊กกันก่อนที่บันทึกการเดินทางจะคลอดนะคร้าบ
…………………………………………………………………………
ชายสามคนยืนอยู่หน้าประตูสวรรค์ เทวทูตบอกพวกเขาว่าที่ว่างในสวรรค์เหลือเพียงอีกหนึ่งที่ ดังนั้นจะพิจารณาให้คนที่ตายอย่างน่าอนาถที่สุดได้เข ้ามาอยู่ในสวรรค์ ดังนั้นชายคนแรกจึงเริ่มเล่า
“ผมได้ข่าวลือมาว่าเมียผมมีชู้ ผมก็เลยแอบกลับบ้านไปดูในตอนกลางวัน เมื่อไปถึงบ้านผมก็พบเมียผมแก้ผ้านอนอยู่บนเตียง ผมค้นห้องนอนดูจนทั่วจึงพบว่ามีไอ้หนุ่มคนหนึ่งเกาะอ ยู่ตรงหน้าต่างใส่แต่กางเกงขาสั้นตัวเดียว ผมโกรธมากจึงทุบมือของเขาจนร่วงหล่นลงไป แต่เขาโชคดี เพราะถึงแม้ว่าบ้านผมอยู่บนคอนโดชั้น ๒๕ แต่เขาดันตกลงบนพุ่มไม้และไม่เป็นอะไร ผมเห็นอย่างนั้นเลยไปยกตู้เย็นมาทุ่มใส่เขา ผมไม่ทันได้เห็นว่าเขาตายรึเปล่าด้วยซ้ำเพราะโรคหัวใ จของผมมันกำเริบขึ้นมาพอดี แล้วก็มาอยู่ที่นี่แหละ”
“นั่นเป็นการตายที่น่าเศร้ามากนะ” เทวทูตแสดงความเห็นใจ “แต่ลองมาฟังคนอื่นดูบ้าง”
ชายคนที่สองจึงเริ่มเล่า
“ผมกำลังออกกำลังกายอยู่ที่ระเบียงบ้าน โชคร้ายจริงๆที่ผมลื่นตกลงมา บ้านผมอยู่บนคอนโดชั้นที่ ๒๖ ถ้าผมหล่นลงไปผมตายแน่ แต่โชคยังดีที่ผมคว้าหน้าต่างห้องข้างใต้ได้ แต่ในขณะที่ผมกำลังจะปีนกลับขึ้นมา ไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้โผล่มา ทุบมือผมจนผมร่วงตกลงไปอีก ผมร่วงตกลงมาบนพุ่มไม้ก็เลยไม่ตายแต่จุกจนลุกไม่ขึ้น เงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็เห็นตู้เย็นหล่นลงมาใส่ผม ผมก็เลยได้มาอยู่ที่นี่”
“คุณนี่น่าเห็นใจจริงๆนะ แต่ผมขอฟังพ่อหนุ่มคนสุดท้ายนี่ก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ ”
ชายคนสุดท้ายเริ่มเล่า
“ผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน วันหนึ่งขณะที่เรากำลังมีความสุขกัน สามีเธอดันกลับมาที่บ้าน ผมก็เลยเข้าไปซ่อนในตู้เย็น
นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า
… อย่ายอมรับ ถ้าจับไม่ได้คาหนังคาเขา!
: )