—————————————————————————————————————————————————-
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของบทความ 9 ตอนของทริป เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน-เชียงราย
1. อรุณสวัสดิ์เชียงใหม่ – ไหว้พระวัดพระสิงห์
2. จากแม่ริม ถึงห้วยน้ำดัง
3. เส้นทางรับน้องที่ ขุนแม่ยะ กับซากุระที่หายไป
4. เก็บตกเมืองปาย
5. ป่าสนวัดจันทร์ คำปลอบใจจากธรรมชาติ
6. แม่ตะมาน รางวัลสำหรับนักเดินทางที่ไม่ยอมถอยหลัง
7. “แม่สลอง” เมืองบนดอย
8. “ดอยตุง” หุบเขาแห่งดอกไม้
9. ดอกเสี้ยวบานที่ภูชี้ฟ้า กับ ทิวลิปที่ผาหม่น
หลังจากไหว้พระที่วัดพระสิงห์กันแล้ว ผมก็ออกเดินทางจากเมืองเชียงใหม่มุ่งไปตามทางหลวงหมายเลข 107 (เชียงใหม่-ฝาง) เพื่อมุ่งสู่จุดหมายของเราในวันนี้คือขุนแม่ยะซึ่งอยู่ห่างออกไปราวหนึ่งร้อยกิโลเมตรเศษ ๆ จากตัวเมืองเชียงใหม่ เมื่อลองคำนวณเวลาการเดินทางแล้วผมมั่นใจว่ายังมีเวลาเหลือพอที่จะแวะที่ท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้อีก กอปรกับได้รับคำแนะนำจากเพื่อน ๆ ให้ลองไปทานอาหารเที่ยงที่ร้านโป่งแยงแอ่งดอยซึ่งบรรยากาศดีมาก ๆ ผมจึงใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่แวะเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวบนถนนสายแม่ริม-สะเมิง ซึ่งปากทางเข้าอยู่ที่อำเภอแม่ริมซึ่งห่างจากเมืองเชียงใหม่ราว 12 กม.เท่าเท่านั้น บนเส้นทางสายแม่ริม-สะเมิงจะเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทมากมาย ซึ่งล้วนแล้วแต่บรรยากาศดีเพราะอยู่ติดริมน้ำ และอยู่ใกล้ภูเขาได้บรรยากาศแบบเมืองเหนือมาก ๆ
ก่อนที่จะทานข้าวเที่ยงผมแวะที่น้ำตกแม่สา เพื่อฆ่าเวลาพร้อมเก็บภาพเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาพสะพานไม้มากกว่าภาพน้ำตก เพราะน้ำตกแม่สานั้นไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ (ในความคิดของผมนะ) อาจจะเป็นเพราะช่วงนี้น้ำน้อยก็เป็นได้ครับ
น้ำตกแม่สากับบรรยากาศในอุทยาน
เลยจากน้ำตกแม่สาไปก็จะเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทมากมายอย่างที่ผมเกริ่นไว้ครับ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของปางช้างแม่สาซึ่งเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว ซึ่งผมไม่ได้แวะเพราะทุกคนเริ่มหิวกันแล้ว ถ้าขืนเข้าไปดูช้างคงได้กินช้างเป็นอาหารเที่ยงแน่ ๆ … ขับรถชมวิวเรื่อย ๆ มาราว 15 นาที (ประมาณ 8 กม.) ก็ถึง “โป่งแยง แอ่งดอย” ที่เราจะฝากท้องมื้อเที่ยงของวันนี้ ป้อมยามด้านหน้ารีสอร์ทถูกปกคลุมไปด้วยดอกพวงแสดสีสันสดใสตัดกับสีน้ำครามเข้มของท้องฟ้า จนพวกเราอดใจไม่ไหวที่จะต้องเก็บภาพกันก่อนที่จะทานมื้อเที่ยง
ดอกพวงแสดสีสวยสดใส
สำหรับห้องอาหารนั้นตกแต่งแบบธรรมชาติและเรียบง่าย มีที่นั่งทั้งแบบมีหลังคาและแบบระเบียงเปิด ตั้งอยู่บนเนินสูงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของรีสอร์ทได้อย่างดี นอกจากนี้ยังมีน้ำตกขนาดกลางในรีสอร์ทที่เห็นได้อย่างชัดเจนจากห้องอาหาร ช่วยเสริมบรรยากาศการทานไม่ว่าจะเป็นมื้อเที่ยงหรือมื้อเย็นได้เป็นอย่างดี สำหรับรถชาติอาหารก็นับว่าอร่อยถูกปาก สนนราคาก็ไม่แพงกว่ามาตรฐานร้านอาหารในแหล่งท่องเที่ยวทั่วไป ถ้ามีโอกาสก็ลองแวะมานะครับคิดว่าคงไม่ผิดหวัง หรือจะลองร้านอื่น ๆ ซึ่งมีอยู่ตลอดทางก็ได้เช่นกัน
บรรยากาศส่วนหนึ่งของ โป่งแยงแอ่งดอย
ความจริงแล้วที่นี่ไม่ใช่เป็นเพียงร้านอาหารแต่เป็นรีสอร์ทด้วย ซึ่งบรรยากาศดีมาก เหมาะสำหรับผู้ที่จะมาเที่ยวเชียงใหม่ เพราะได้บรรยากาศรีสอร์ทธรรมชาติมากกว่าในตัวเมืองและการเดินทางไปเมืองเชียงใหม่และแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ก็ไม่ไกลเกินไป
หลังจากอาหารเที่ยงและล้างหน้าล้างตาด้วยน้ำเย็น ๆ ชื่นใจจากภูเขาแล้ว ผมก็ขับรถย้อนกลับมายังอำเภอแม่ริมและขับรถต่อบนเส้นทางสาย 107 ราว 18 กม.ก็ถึงตลาดแม่มาลัย (ก่อนถึงอำเภอแม่แตงเล็กน้อย) จึงเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1095 (แม่มาลัย-ปาย) หลังจากช่วงนี้ก็ขับบนเส้นทางที่แคบลง ผ่านหมู่บ้านสลับกับเทือกเขาสูงชันเป็นระยะ โดยเฉพาะช่วง 20 กม.สุดท้ายก่อนถึงห้วยน้ำดังจะมีโค้งหักศอกอยู่หลายโค้งต้องขับอย่างระมัดระวัง ซึ่งผมใช้เวลาขับรถบนระยะทาง 67 กม.นี้ราว 1 ชม. 30 นาที
ปกติแล้วผมจะมาเยือนห้วยน้ำดังทุกครั้งที่มาเที่ยวแถบนี้ แต่ครั้งนี้แปลกกว่าครั้งอื่น ๆ ตรงที่มาเที่ยวในช่วงเย็นแทนที่จะมาดูทะเลหมอกยามเช้าเหมือนครั้งอื่น ๆ ซึ่งในช่วงเย็นแบบนี้จะมีนักท่องเที่ยวไม่มากนักและสามารถมองเห็นขุนเขาเบื้องหน้าได้อย่างชัดเจน ไม่มีทะเลหมอกมาบดบัง อีกทั้งแสงยามเย็นก็สวยงามและแต่งแต้มห้วยน้ำดังให้งดงามและมีเสน่ห์อีกแบบหนึ่งไม่แพ้ยามเช้าเลย
ผมเปลี่ยนเลนส์ถ่ายภาพเป็นแบบมุมกว้างเพื่อให้สามารถเก็บภาพท้องฟ้าสีครามเข้มกับทิวทัศน์ของห้วยน้ำดังที่ฉาบด้วยแสงสีทองอบอุ่นยามเย็น สลับกับการถ่ายภาพดอกไม้สีสันสดใสซึ่งมีอยู่มากมายทีนี่ ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังจุดหมายของวันนี้ “ขุนแม่ยะ”