ตอนที่แล้ว : เงาสะท้อนสีครามที่ Lake Matheson และธารน้ำแข็งแห่ง Franz Josef Glacier
บทความทั้ง 12 ตอน
ก่อนเดินทาง : วันเดินทาง : Lake Tekapo/MT. Cook :
Arrow Town/Queenstown : Milford Sound : Teanau :
Wanaka/Fox Glacier : Lake Matheson/Franz Josef Glacier :
Pancake Rock/Arthur Pass : Christchurch : บทสรุป
– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –
เช้าวันนี้อากาศค่อนข้างเย็น และมีหมอกเยอะเนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมาฝนตกหนัก ทำให้เส้นทางที่เราใช้เพื่อไปชม Pancake Rock ซึ่งอยู่ตอนเหนือของ Graymount เต็มไปด้วยหมอกงดงามไปอีกแบบ และโชคดีที่วันนี้ผมเป็นคนนั่งข้างคนขับก็เลยถ่ายภาพได้เต็มที่แม้จะไม่ได้จอดรถก็ตาม
บรรยากาศช่วงออกเดินทางจาก Greymount มีแต่หมอกเต็มไปหมด
ทิวทัศน์ก่อนถึง Pancake Rock
ผมเห็นภาพและได้ข้อมูลของ Pancake Rock มาบ้างแล้วจากการอ่านหนังสือและค้นคว้าจาก Internet ซึ่งก็ไม่ได้ตั้งความหวังไว้มากนักเพราะจินตนาการไว้ว่าคงเป็นแนวโขดหินที่มีคลื่นซัดแรงจนน้ำพุ่งสูงขึ้นมาเหมือนกับที่ปรากฏอยู่บน Postcard
การเดินเข้าชม Pancake Rock นั้นฟรีเช่นเดียวกับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่น ๆ ของ New Zealand โดยจะมีจุดให้ชมวิวเป็นระยะ แต่ Highlight นั้นอยู่ที่จุดซึ่งเป็นภาพใน Post Card นั่นเอง เพราะที่จุดนี้และจุดใกล้ ๆ กันจะมีคลื่นซัดเข้าสู่ช่องว่างระหว่างโขดหินทำให้เกิดภาพเหมือนทะเลคลั่ง บางจุดมีเสียงเหมือนไอน้ำจากหวูดรสไฟ บางจุดมีมีละอองน้ำทะเลพุ่งขึ้นมาเป็นระยะ และตรงจุดสำคัญเมื่อคลื่นลูกใหญ่เข้ามากระทบจะเกิดน้ำพุ่งขึ้นสูงจนเปียกไปทั่วจุดชมวิว จนทำให้ผมต้องนำผ้าเช็ดเลนส์ไว้ในกระเป๋ากางเกงเพื่อความสะดวกในการใช้งาน และต้องคอยเอาตัวบังละอองน้ำอยู่ตลอดเวลา ปกติแล้วถ้ามาชม Pancake Rock ตอนเช้าจะมีโอกาสเห็นรุ้งเมื่อมีน้ำพวยพุ่งขึ้นมาเพราะเกิดละอองน้ำในอากาศ แต่เนื่องจากวันนี้มีฝนพรำ ๆ ทำให้เกิดรุ้งขึ้นที่ทะเลซึ่งฉากหลังด้วย นับว่าเป็นโชคดีของผมจริง ๆ ที่ฝนมาตกเอาในวันที่เหมาะกับสถานการณ์แบบนี้
Pancake Rock
และที่ Pancake Rock แห่งนี้ก็ได้พิสูจน์อีกครั้งว่า บางครั้งภาพถ่ายก็ไม่สามารถถ่ายทอดความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติได้เท่ากับการมาสัมผัสด้วยตัวเอง ผมต้องยอมรับว่าที่นี่ surprise ผมมาก ๆ เพราะมันไม่ใช่แค่น้ำซัดโขนหินที่พุ่งสูงเท่านั้น แต่มีองค์ประกอบอีกมากมายที่สร้างความสมบูรณ์ให้กับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้
หลังจากสนุกสนานกับการวิ่งหนีละอองน้ำกันแล้ว เราเดินทางกลับไปยัง Graymount เพื่อซื้อของเพิ่มเติมและเดินชมเมืองกันเล็กน้อย จากนั้นจึงมุ่งหน้าเข้าถนนสาย 73 ซึ่งเชื่อมไปยัง Christchurch จุดหมายของเราในวันนี้ ซึ่งเส้นทางนี้จะผ่านแนวเขาสูงที่สำคัญอีกแนวหนึ่งที่เรียกว่า Arthur’s Pass ซึ่งช่วงนี้ปกคลุมไปด้วยหิมะ โดยเฉพาะก่อนถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว Arthur’s Pass เล็กน้อยนั้นมีหิมะตกด้วยแต่ไม่หนาแน่นมากนัก และวิวสองข้างทางก็สวยมาก ๆ เสียดายที่ในช่วงนี้ผมรับหน้าที่เป็นคนขับจึงได้แต่เก็บภาพเหล่านั้นไว้ในความทรงจำ
ในช่วงหลังของเส้นทาง Arthur’s Pass หัวหน้าทัวร์คงสงสารผมจึงอาสาขับรถให้ ผมจึงได้ทำหน้าที่ช่างภาพอีกครั้ง และพยายามเก็บบรรยากาศสองข้างทางมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งแม้ว่าวันนี้ฟ้าจะไม่แจ่มใสและเต็มไปด้วยเมฆแต่ทิวทัศน์นั้นถือว่าสวยงามสุดยอด โดยเฉพาะช่วงที่พวกเราอยู่ในวงล้อมของภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะจนผมเลือกไม่ถูกว่าจะถ่ายภาพมุมไหนดี นี่เองกระมังครับที่หลายคนพูดว่าที่นี่นั้น “สวยไปหมด” ซึ่งเป็นคำสั้น ๆ ที่ตรงกับความหมายจริง ๆ
เส้นทางที่งดงามและหลากหลายของ Arthur’s Pass
ช่วงใกล้ค่ำสภาพแสงก็เปลี่ยนไป
ผ่านพ้นจากแนวเทือกเขาที่เราได้แอบแวะไปสัมผัสกับหิมะอีกครั้งแล้ว ก็เริ่มเข้าสู่เขตทุ่งหญ้าเป็นการบ่งบอกว่า Christchurch นั้นอยู่ไม่ไกลแล้ว โดย 2 คืนต่อจากนี้พวกเราพักกันที่ Bush Inn Court Motel ซึ่งเป็นโรงแรมเดิม และห้องเดิมเหมือนที่เรามาพักในคืนแรก
ตลอดคืนผมนอนคิดถึงบรรยากาศแต่ละวันที่ผ่าน ๆ มา พร้อม ๆ กับการขอให้เวลาผ่านไปช้า ๆ อย่าได้ถึงวันที่ต้องอำลาที่นี่ไปเลยจนหลับไปโดยไม่รู้ตัว
– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –
ตอนต่อไป : สำรวจ Christchurch
สวยจิงๆเร้ยยย
ขอบคุณมากครับ ชมซะผมตัวลอยเลย หุหุ
ฝีมือถ่ายภาพ ถ้าเต็ม 10 ผม ให้ 11.5 เลย สวยมาก นิวซีแลนด์ เป็นประเทศที่มองกับตาก็งั้นๆ แต่ถ่ายภาพออกมาแล้วดูสวยมาก honestly!!