เมื่อเดือนที่แล้วได้มีโอกาสดูช่วง amazing ต่างแดนของรายการ tonight show ซึ่งผมติดตามเป็นประจำเพราะคุณณวัฒน์ซึ่งเป็นผู้ดำเนินรายการมักพาไปเสาะแสวงหาแง่มุมใหม่ ๆ ของสถานที่ท่องเที่ยวรอบโลกมาให้ได้ชมกัน โดยในวันนั้นนำเสนอเรื่องราวของโรงแรม Panacee กับเมืองแห่งสุขภาพที่ชื่อบาเด็นไวเลอร์ (Badenweiler)ซึ่งอยู่ในเขตป่าดำ (Black forest) ของประเทศเยอรมนี ที่ผมเองก็เคยไปเที่ยวในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิของปี 2556 และหมายมั่นปั้นมือว่าจะไปเยือนป่าดำอีกครั้งให้ได้สักครั้งในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
ช่วง amazing ต่างแดนคืนวันนั้นทำให้อารมณ์อยากกลับไปที่นี่เพิ่มเป็นทวีคูณเพราะบรรยากาศของตึกเก่าแก่สุดคลาสสิคของโรงแรม Panacee ในเมืองบาเด็นไวเลอร์ท่ามกลางหุบเขาที่เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีทำให้ผมเคลิ้มไปเลย เพราะมันเหมือนภาพฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของป่าดำที่ผมฝันไว้เลย
รายการ tonight show ช่วง amazing ต่างแดนทางช่อง 3 ที่ทำให้ผมนึกถึงป่าดำขึ้นมาอีกครั้ง
เมือง Badenweiler ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเยอรมนี ซึ่งมีอาณาเขตติดกับประเทศฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์ รายล้อมด้วยพรรณไม้อันอุดมสมบูรณ์ของป่าดำ อากาศที่นี่บริสุทธิ์จนได้รับการยกย่องว่าเป็นแหล่งโอโซนที่สำคัญของโลกเลยทีเดียว ทั้งนี้คำว่า Bad ในภาษาเยอรมันหมายถึง “โรงอาบน้ำ” (ไม่ได้หมายถึง เลวหรือแย่แบบภาษาอังกฤษนะครับ อิอิ) สังเกตได้ว่าหลาย ๆ เมืองในเขตประเทศเยอรมัน, ออสเตรีย จะมีชื่อที่ประกอบด้วยคำว่า “Bad” ก็เพราะเป็นเมืองที่มีโรงอาบน้ำจากแหล่งน้ำแร่ธรรมชาตินั่นเอง โดยเมือง Badenweiler นั้นยังคงมีโรงอาบน้ำยุคโรมันที่ยังอยู่ในสภาพดี และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเยอรมนีให้เป็นเมืองแห่งสุขภาพของประเทศ เพราะนอกจากอากาศที่บริสุทธิ์แล้ว น้ำแร่บริสุทธิ์จากธรรมชาติที่เมืองนี้ยังช่วยบำบัดร่างกายจากความเหนื่อยล้าและโรคภัยต่าง ๆ ได้นั่นเอง
การเดินทางมายัง Badenweiler นั้นสะดวกสบาย เพราะเมืองนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากถนนสายหลักริมชายแดนประเทศเยอรมัน ซึ่งเชื่อมต่อกับเมืองใหญ่อย่าง Strasboug ของฝรั่งเศส หรือ Basel, Luzern และ Zurich ของสวิสเซอร์แลนด์ รวมถึง Freiburg ของเยอรมนีเอง เรียกได้ว่านั่งเครื่องหรือรถไฟมาลงยังเมืองเหล่านี้ แล้วขับรถต่อราวชั่วโมงเศษ ๆ ก็ถึง Badenweiler แล้ว … เมือง Badenweiler แห่งนี้จึงเปรียบเสมือน 3 เหลี่ยมทองคำที่เป็นศูนย์กลางของจุดท่องเที่ยวมากมายใน 3 ประเทศนี้ ดังนั้นจึงสะดวกมากสำหรับการเข้าพักที่นี่แล้วเที่ยวบริเวณรอบ ๆ โดยไม่ต้องย้ายที่พักให้เหนื่อย เพราะสามารถไปท่องเที่ยวแบบ day trip ได้สบาย ๆ แถมแหล่งท่องเที่ยวยังมีความหลากหลายมาก ๆ ด้วย
สำหรับ PANACÉE GRAND HOTEL RÖMERBAD หรือเรียกสั้น ๆ ว่า Panacee เป็นโรงแรมสวยคลาสสิคที่บริหารโดยคนไทย ซึ่งแน่นอนว่าการบริการนั้นผสมผสานความอบอุ่นตามสไตล์คนไทยที่ชาติไหนก็เลียนแบบเราไม่ได้ และที่รับรองได้ว่าถูกใจนักท่องเที่ยวอย่างเราคืออาหารไทยการันตีมิชลินสตาร์ที่มีบริการในห้องอาหารของโรงแรม ซึ่งคนไทยอย่างเรานั้นมักโหยหาอาหารไทยเมื่อต้องเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศหลาย ๆ วัน โดยส่วนใหญ่แล้วจะหาอาหารไทยทานยากเหลือเกินเมื่อต้องเดินทางไปท่องเที่ยวในแถบนี้
แต่สิ่งที่โดดเด่นมากของ Panacee ที่อยากแนะนำคือโปรแกรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (wellness travel) เพราะอย่างที่เกริ่นไปแล้วว่าเมือง Badenweiler นั้นเป็นเมืองที่ได้รับการส่งเสริมให้เป็นเมืองแห่งสุขภาพ ดังนั้นโรงแรม Panacee จึงคัดสรรกิจกรรมสุขภาพมาผสานกับการท่องเที่ยวไปยังแหล่งท่องเที่ยวโดยรอบใน 3 ประเทศคือเยอรมนี-ฝรั่งเศส-สวิสฯ ที่มีทั้งเมืองเก่าสวยคลาสสิค, น้ำตก, ทะเลสาบ, เทือกเขาสูง, สวนดอกไม้, แหล่งช้อปปิ้ง โดยมีพนักงานและรถนำเที่ยวให้โดยเฉพาะ แถมยังสามารถเลือกท่องเที่ยวได้ตามความชอบของแต่ละคนจริง ๆ เช่นเราไปเดิน trekking สำรวจเส้นทางสวยบนยอดเขาแล้วปล่อยให้คุณผู้หญิงไปเดินช้อปปิ้งในเมือง (เราจะได้ไม่ต้องไปนั่งเซ็งหน้าร้าน ส่วนสาว ๆ คงถูกใจเพราะไม่มีคนขัดคอ 555) … แบบนี้เรียกว่าได้ทั้งความสนุกและสุขภาพที่ดีกลับบ้านไปเต็ม ๆ สำหรับรายละเอียดโปรแกรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพพร้อมข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวสามารถ download ได้จาก link นี้เลยครับ
อาคารของโรงแรม Panacee นั้น เดิมเป็นบ้านเก่าแก่ของเศรษฐีชาวเยอรมัน ก่อนที่จะได้รับการรังสรรค์ให้เป็นโรงแรมมาตรฐาน 5 ดาวด้วยสถาปัตยกรรมดั้งเดิมแบบยุโรป และแต่งแต้มด้วยงานศิลป์ชิ้นงามจากทั่วโลก ที่โรงแรมแห่งนี้นอกจากมีห้องพักกว่า 80 ห้องไว้คอยให้บริการแล้ว ยังมีกิจกรรมหลากหลายตั้งแต่การฝึกสมาธิ, โยคะ, ปั่นจักรยาน (อันนี้น่าจะถูกใจขาปั่น) ไปจนถึงโปรแกรมที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายในระดับเซลล์เลยทีเดียว การได้มีโอกาสไปพักผ่อนที่นี่ท่ามกลางบรรยากาศอันสงบสวยงามของบาเด็นไวเลอร์ จึงนับว่าเป็นสิ่งที่ห้ามพลาดเลยสำหรับผู้ที่วางแผนมาเที่ยวในเขตป่าดำ และที่น่าภูมิใจคือเราจะได้เห็นธงชาติไทยปักคู่อยู่กับธงชาติเยอรมันที่หน้าโรงแรมนี้ด้วย
บรรยายสรรพคุณของเมืองบาเด็นไวเลอร์ กับโรงแรม Panacee มาซะเยอะ หลาย ๆ คนคงคิดว่าราคาค่าที่พักคงเอื้อมไม่ถึงสำหรับมนุษย์เงินเดือน ผมก็เลยแอบไปส่องมาให้แล้ว ราคาห้องแบบ Superior สำหรับสองท่านเริ่มต้นที่สี่พันต้น ๆ หรือจะเป็นห้องสูทแบบหรู ๆ ก็ไม่ถึง 7 พันบาทเท่านั้น (ผมเช็คผ่าน booking.com สำหรับช่วงเข้าพักกลางเดือน ตค.) ดังนั้นจึงสบายใจได้ว่าคนไทยอย่างเรา ๆ สามารถพักได้สบาย ๆ หุหุ
ด้านล่างเป็น link ไปยังรีวิวที่ผมเคยเขียนไว้ทั้งใน blog 9mot.com และ pantip โดยสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งซึ่งผมเคยเดินทางไปเหล่านี้อยู่ใกล้กับ Badenweiler มาก สามารถจัดไว้ในทริปเดียวกันได้เลยครับ
รีวิวมือง Riquewihr และ Colmar ของฝรั่งเศส
ข้อมูลโรงแรมและสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
PANACÉE GRAND HOTEL RÖMERBAD และเมือง บาเด็นไวเลอร์ (Badenweiler) ทางรายการทีวี
ข่่าว 3 มิติ
รายการเปรี้ยวปาก
สำหรับข้อมูลของโรงแรม PANACÉE GRAND HOTEL RÖMERBAD ทั้งในส่วนที่พักและโปรแกรมสุขภาพ สามารถดูได้จาก facebook page ของโรงแรมที่ https://www.facebook.com/panaceewellnesstravel ครับ … สำหรับผมเองหากมีโอกาสไปเที่ยวบนเส้นทางแถบนั้นอีกครั้ง คงไม่พลาดการไปนอนแช่น้ำแร่ที่นี่แน่นอน