วันนี้ต้องถือว่าสิ้นสุดช่วงเวลาท่องเที่ยวของฤดูหนาวแล้ว เพราะภาพทะเลหมอกกับดอกไม้บน facebook time line เริ่มห่างหายไป และเปลี่ยนไปเป็นภาพทะเลแทน … นี่เป็นสัญญาณบอกว่า ได้เวลาออกไปเติมวิตามิน-sea กันอีกแว้วววว และวันหยุดยาวหน้าร้อนของปีนี้ก็ใกล้เข้ามาทุกที … เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนคงกำลังนั่งหน้าคอมฯ เปิด pantip, search google หาข้อมูลกันอยู่เป็นแน่ว่าจะไปสูดไอทะเลกันที่ไหนดี ส่วนบางคนคงเตรียมกระสุนเต็มพิกัดไปล่าดีลกระแทกใจในงานไทยเที่ยวไทย ที่กำลังจะเปิดให้แฟนพันธุ์แท้นักเดินทางได้ไปถล่มกันในไม่กี่วันข้างหน้าที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
วันนี้ผมมีรีวิวที่พักริมทะเลบนหาดกะตะของภูเก็ตมาฝาก สำหรับเพื่อน ๆ ที่เล็ง ๆ ภูเก็ตไว้เป็นจุดหมายสำหรับพักร้อนปีนี้ รวมถึงคนที่วางแผนมา honeymoon หรือ celebrate ครบรอบแต่งงาน ขอบอกว่าที่นี่ใช่เลย …
รีสอร์ทแห่งนี้ชื่อ Boathouse by Montara ตั้งอยู่สุดหาดกะตะทางฝั่งทิศใต้ … หาดกะตะเป็นหนึ่งในหาดที่มีชื่อเสียงมากของภูเก็ต เพราะน้ำใส ทรายขาวละเอียด และที่สำคัญหาดกะตะเหมาะสำหรับการเล่นน้ำเนื่องด้วยลักษณะท้องทะเลที่ลาดชันน้อย อีกทั้งคลื่นลมที่หาดแห่งนี้จะเบาบางกว่าหาดอื่น ๆ เนื่องจากมีเกาะเล็ก ๆ ที่ชื่อเกาะปูและปลายแหลมทั้งสองฝั่งของอ่าวกะตะคอยบังลมไว้ ทำให้สามารถเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย …
Boathose เป็นโรงแรมขนาดเล็ก อยู่ในทำเลที่เรียกได้ว่ายอดเยี่ยมมาก … มีรีสอร์ทในภูเก็ตไม่มากนักที่อยู่ติดชายหาดแบบที่นี่ … สำหรับคนที่เช่ารถขับ ก็สามารถเดินทางไปจุดชมวิวและชายหาดต่าง ๆ ของภูเก็ตได้อย่างสะดวกสบายเพราะอยู่ห่างออกไปไม่ไกลเลย
ผมเดินทางถึง Boathouse ตอนเย็น ๆ ของวันศุกร์ โชคดีที่มาทันเวลาได้ชมพระอาทิตย์ตกพอดี ก็เลยถือโอกาสเก็บภาพบรรยาศก่อนเลย
จิบ welcome drink ไปพร้อม ๆ กับชมพระอาทิตย์ตกที่หาดกะตะ ได้บรรยากาศสุด ๆ เลย
ห้องพักของผมเป็นแบบ Beach Front Suite ตั้งอยู่บนชั้นสองและหันหน้าเข้าหาทะเล ทำให้ได้ซึมซับกับบรรยากาศสวย ๆ ของท้องทะเลได้ตลอดวันตลอดคืน หรือถ้าอยากจะสูดไอทะเลก็แค่เปิดบานกระจกขนาดใหญ่ เพื่อออกไปนั่งเล่นตรงระเบียงได้เช่นกัน … ภายในห้องพักนอกจากจะมีเตียงขนาดใหญ่ที่เห็นวิวทะเลแล้ว ยังมี living area, โต๊ะทำงาน เครื่องชงกาแฟพร้อมชาและกาแฟหลากรสชาติให้เลือกได้ตามใจ
ห้องน้ำเป็นแบบ double sink ที่บานกระจกสามารถ slide ออกเพื่อชมบรรยากาศทะเลตรงหน้า หรือจะนอนแช่ในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ไปชมวิวไปก็ได้ อย่างที่บอกไปตอนต้นครับว่า บรรยากาศและการออกแบบห้องนี้เหมาะมาก ๆ กับคู่ Honeymoon
สำหรับงานตกแต่งในห้องที่ผมพักนั้นสวยหรูและคลาสสิค ผสมผสานระหว่างงานไม้, พรม, เซรามิค และงานศิลป์ตกแต่งผนังที่เข้ากับบรรยากาศทะเล … สำหรับผู้ที่ว่างเว้นจากโลก social ไม่ได้ นอกจากมีรหัส wifi สำหรับใช้ในพื้นที่อื่นรอบ ๆ รีสอร์ทแล้ว ยังมี high speed wifi สำหรับใช้ในห้องเป็นพิเศษด้วย
หลังจากเก็บภาพบรรยากาศในห้องพักแล้ว ก็ได้เวลาสำหรับมื้อค่ำพอดี และห้องอาหาร Boathouse Wine & Grill ก็เป็นอีกหนึ่งความโรแมนติกของรีอรีสอร์ทแห่งนี้ที่ผมอยากเล่าให้ฟัง … โต๊ะริมทะเลกับเสียงของเปียโนและนักร้องสาว สร้างบรรยากาศที่ลงตัวสำหรับคู่รักจริง ๆ … เมนูของร้านอาหารแห่งนี้เสิร์ฟทั้งอาหารไทยและ western.. และเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศเสียงเพลงสากล ผมจึงลองสั่งอาหาร western สำหรับมื้อค่ำวันนี้ … หลายรายการเป็นอาหารฝรั่งเศสที่ผมเองก็ยังไม่เคยทานเหมือนกัน
เร่ิมจากเกี้ยวไก่กรอบ เป็นเมนูเรียกน้ำย่อยที่เป็น complimentary จากห้องอาหาร เมนูนี้รสชาติอร่อยถูกปากมากครับ … เมนูถัดมาเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย (ผมไม่ทราบว่าจะมีเกี๊ยวไก่กรอบเสิร์ฟ ก็เลยสั่งมาซ้ำซ้อน อิอิ) มีหอยเชลล์เนื้อนุ่มกับเนื้อปูกับกุ้งห่อด้วยแตงกวาญี่ปุ่น
ตามมาด้วยสลัดที่ dressing รสบาง ๆ หน่อย เน้นไปที่รสชาติและความสดของผัก แต่ส่วนตัวผมยังรู้สึกชอบสไตล์ของญี่ปุ่นหรือพวกงาขาวมากกว่า
ถัดมาเป็นซุปมะเขือเทศ Gazpacho … ผมไม่คุ้นลิ้นนัก อันนี้พลาดเองเพราะไม่ทราบว่าซุปประเภทนี้เขาเสิร์ฟแบบเย็น อิอิ … ส่วนอีกถ้วยเป็นซุปหัวหอมรสชาติกลมกล่อมดีครับ
จากหลักของผมเป็น salmon pasta ส่วนของคุณภรรยาเป็นปลากะพงกับครีมซอส ซึ่งปลาสดและอร่อยมาก ๆ … ส่วนของหวานปิดท้ายเป็น Berries เปรี้ยว ๆ หวาน ๆ ดับคาวและแก้เลี่ยนครับ
วันรุ่งขึ้นผมตื่นสาย ๆ ก็เลยถือโอกาสทาน brunch แทนมื้อเช้าซะเลย ซึ่งห้องอาหาร RE KÁ TA ที่ให้บริการอาหารเช้าและ brunch ก็อยู่ติดกับ beach club ของรีสอร์ทนั่นเอง … เมนู brunch ของที่นี่มีหลากหลายและน่าทานมาก ๆ … เนื่องจากอยู่ในอารมณ์หิวก็เลยสั่งมาซะเยอะ ลองดูจากภาพละกันครับ ทานกันสองคนเล่นเอาเหนื่อยเลย …
เห็นเยอะ ๆ แบบนี้ แต่ทานกันแทบไม่เหลือเลยครับ เพราะมันอร่อยมัก ๆ อิอิ
สาย ๆ แบบนี้อากาศก็ดี๊ดี ผมเลยถือโอกาสเก็บภาพบรรยากาศโดยรอบไว้ซะหน่อย … ติดกับร้านอาหารจะเป็น RE KÁ TA Beach Club ที่มีเตียงพร้อมร่มให้ได้นั่งพักผ่อน … ที่เก๋คือมีที่นั่งแบบลอยน้ำสำหรับ relax ในสระด้วย
บ่าย ๆ หลังปล่อยให้อาหารมื้อใหญ่ย่อยไปบ้างแล้ว ก็ได้เวลาเข้าสปา กิจกรรมโปรดที่ผมแทบไม่พลาดเมื่อมีโอกาสไปพักตามโรงแรมต่าง ๆ … สปาของที่นี่ใช้ชื่อ RE KÁ TA เหมือนกับ Beach Club โดยมีห้องนวดให้บริการ 5 ห้องด้วยกัน แม้ห้องทรีทเม้นต์จะไม่โอ่โถงมากนัก แต่ก็สะดวกสบายและเป็นส่วนตัว มีห้องน้ำและบริเวณเปลี่ยนเสื้อผ้าด้านใน สำหรับฝีมือพนักงานนวดก็เยี่ยมยุทธจนรู้สึกว่า 1 ชั่วโมงนั้นหมดไปเร็วเหลือเกิน 🙂
ช่วงเย็น ๆ หลังจากแดดเริ่มอ่อนลง ผมได้มีโอกาสลองกิจกรรม stand up paddle board ที่ให้บริการอยู่ริมหาดด้านหน้าโรงแรม … แรก ๆ ก็ยังไม่กล้ายืนพายนัก แต่พอเริ่มชินก็สนุกสนานกับการได้ทรงตัวบน board และพายออกไปไกล ๆ ให้ความรู้สึกสนุกและท้าทายไปอีกแบบ … จะว่าไปราคาค่าเช่า 300 บาท/ชั่วโมงนั้นไม่แพงแถมถูกกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลย หุหุ
ช่วง High season … หาดกะตะจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะฝรั่งจากทางฝั่งยุโรปที่หนีหนาวมารับแดดอุ่น ๆ บ้านเรา … แต่เมื่อเริ่มเข้าเดือนเมษา นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะค่อย ๆ ลดลงทำให้ชายหาดไม่หนาแน่นมากนัก (จริง ๆ นักท่องเที่ยวชาวเอเซียจะเยอะขึ้น แต่อาจไม่ชอบอาบแดดเหมือนฝรั่ง)
หาดกะตะและกิจกรรมริมหาด
หากไม่อยากนั่งบนชายหาด ผมแนะนำนั่งชมวิวจากในสระว่ายน้ำของโรงแรมเลยครับ วิวจากมุมนี้พระอาทิตย์ตกสวยมาก
บรรยากาศยามเย็นที่บริเวณห้องอาหาร
คืนวันนั้นผมทานมื้อค่ำที่ร้านอาหาร Boathouse Wine & Grill อีกรอบ มื้อนี้อยากนั่งสบาย ๆ ก็เลยไม่ได้เก็บภาพอาหารไว้ แต่เมนูที่เลือกต่างจากวันก่อนหน้า โดยลองสั่งผสมผสานระหว่างอาหารไทย, สลัดและเสต็ก โดยรวมรสชาติถูกปากกว่าคืนก่อนหน้า ทั้งนี้จานที่ผมชอบเป็นพิเศษคือสลัดแขกกับเสต็กครับ (ชอบซอสไวน์แดงที่มากับเสต็ก อิอิ) ส่วน wine ที่พนักงานแนะนำก็รสชาติดีมาก ไม่หนักจนเกินไป … อันที่จริงแต่ละเมนูจะมีการแนะนำ wine ที่ทานคู่กันกับอาหารจานนั้น ๆ ด้วย แต่พนักงานก็ให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่าบางครั้งอาจไม่ถูกปากชาวเอเซียนัก และคุณภรรยาเองก็อยากได้ wine ที่ดื่มง่ายๆ พนักงานจึงนำเสนอ wine ที่หอมกลิ่นผลไม้และรสชาติหวานอ่อน ๆ เป็นที่ถูกใจคุณเธอยิ่งนัก … แต่นั่นไม่เท่ากับ surprise จากทางรีสอร์ทด้วยเพลง Happy birthday และเค้กวันเกิดที่น้อง ๆ พนักงานนำมามอบให้ถึงโต๊ะอาหาร เรียกได้ว่าปลื้มสุด ๆ เลยทีเดียว …นับเป็นการปิดท้ายโปรแกรมวันหยุดสุดโรแมนติกที่น่าประทับใจจริง ๆ นี่ถ้าไม่ติดว่าเช้าตรู่วันรุ่งขึ้นมีภาระกิจแล้วล่ะก็ คงต้องขออยู่ต่ออีกซักคืนแน่ ๆ 🙂
เล่ามายาวเหยียดแล้ว จะไม่เอ่ยถึงเรื่องที่ยังไม่ค่อยถูกใจซะเลยก็จะหาว่าผมแอบมีหุ้นอยู่ที่นี่ (อันที่จริงก็อยากมีเหมือนกันนะ อิอิ) … อย่างแรกเลยคือสระว่ายน้ำครับที่ผมว่าเล็กไปหน่อย อาจไม่ถูกใจคนที่ชอบว่ายน้ำไกล ๆ เพราะสระที่นี่เหมาะสำหรับลอยคอชมวิวทะเลตรงหน้ามากกว่า ถ้าอยากว่ายน้ำจริง ๆ จัง ๆ แนะนำให้เดินลงไป 3 ก้าวจากสระว่ายน้ำก็จะถึงหาดทรายขาว ๆ ของกะตะ ทีนี้จะเดินลงทะเลแล้วว่ายน้ำไปเกาะปูก็ไม่มีใครว่า 555 … อีกเรื่องที่ไม่สะดวกนักสำหรับคนที่นำรถมา คือการเลี้ยวเข้า-ออกโรงแรมต้องใช้ความระมัดระวังพอสมควร เพราะถนนหน้าโรงแรมค่อนข้างแคบ และบรรดานักท่องเที่ยวขาโจ๋บางคนก็ขับรถน่ากลัวพอ ๆ กับคนพื้นที่ ยังดีที่ทางโรงแรมจัดเจ้าหน้าที่คอยดูต้นทาง เอ้ย! เคลียร์ทางให้เมื่อต้องการเข้า-ออก ทำให้ปลอดภัยขึ้นเยอะ … อ้ออีกอย่างคือไม่มีที่จอดรถในร่มนะครับ ถ้าจอดหลายวันก็แอบสงสารรถเหมือนกัน 🙂
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมของรีสอร์ท สามารถดูได้ที่ website ของโรงแรม www.boathousephuket.com หรือ facebook page | boathousephuket
หวังว่ารีวิวนี้คงเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาห้องพักสำหรับวันหยุดริมทะเล หรือมองหาสถานที่ honeymoon นะคร้าบ