ผมเขียนรีวิวทริปขับรถท่องเที่ยวในต่างประเทศมาหลายตั้งครั้งแล้ว แต่กลับไม่เคยเขียนแนะนำการใช้รถส่วนตัวเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตบ้านเกิดเลยซักที … จะว่าไปในปีสองปีนี้ภูเก็ตมีจุดน่าสนใจใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมาไม่น้อย ผมเลยคิดว่าน่าจะพาเพื่อน ๆ ขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวชมเมืองภูเก็ตดูบ้าง เพื่อระลึกความหลังสมัยวัยรุ่นที่เคยขี่รถมอเตอร์ไซค์เที่ยวรอบเกาะไปด้วยในตัว อิอิ … สมัยนั้น (อย่าถามว่าสมัยไหน ถือเป็นคำถามหยาบคาย หุหุ) ใช้ Honda Dream รุ่นยอดนิยมของเหล่านักเรียนมัธยมในภูเก็ต แต่งานนี้อยากได้อารมณ์เท่ ๆ หน่อย รถรุ่นนั้นคงเข้าพิพิธภัณฑ์ไปหมดแล้ว เลยขอเอาเจ้า Zoomer-X ใหม่ มาเป็นพาหนะพาเที่ยวดีกว่า เพราะหน้าตาหล่อเหลาทำให้รู้สึกกลมกลืนกับวัยรุ่นหน่อย อิอิ … งานนี้บังคับน้องชายมาช่วยเป็นแบบให้ด้วย 555
ปล. มีบางช่วงฟ้าเน่ามาก ผมเลยเอาภาพที่ถ่ายวันอื่นมาแซมด้วยนิดหน่อยนะครับ
เริ่มสาย ๆ ของวันหลังจัดการขนมจีนแม่ติ่งใกล้ที่ว่าการอำเภอมื้อเช้าเป็นที่เรียบร้อย พาขึ้นไปชมวิวเมืองภูเก็ตบน ”เขารัง” กันก่อนเลย … ที่ต้องพาเพื่อน ๆ ขึ้นมาสำรวจที่นี่เพราะวันนี้บนเขารังได้จัดทำพื้นที่ชมวิวให้มากขึ้นด้วยการสร้างระเบียงยื่นออกไปให้ชมวิวกันได้แบบเต็มตา 180 องศาที่ชื่อว่า “ลานชมเมือง” และมีหอเกียรติยศ 100 ปีพระยารัษฎานุประดิษฐ์โดดเด่นเป็นสง่าอีกด้วย นอกจากวิวของตัวเมืองภูเก็ตแล้ว ยังได้เห็นอ่าวฉลอง, พระใหญ่และเกาะน้อยใหญ่ทางทิศตะวันออก หากเป็นวันฟ้าใสจะสามารถมองเห็นเกาะพีพี ได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว
“หอเกียรติยศ” กับ “ลานชมเมือง”
ลานชมเมืองที่ทำยื่นออกไปทำให้เห็นวิวชัดเจนขึ้น (ตอนเดินออกไปครั้งแรกแอบเสียวนิดๆ เพราะยื่นออกไปเยอะเหมือนกัน)
วิวสวยๆ บนเขารัง
หอเกียรติยศ 100 ปี พระยารัษฎานุประดิษฐ์
จริงๆ แล้ววิวช่วงพลบค่ำบนเขารังก็สวยงามไม่น้อย หากเพื่อนๆ ไม่สะดวกช่วงกลางวันจะมาชมวิวช่วงพระอาทิตย์ตกแล้วทานอาหารค่ำด้านบนก็ได้เช่นกัน มีทั้งแบบที่เป็นสไตล์ภูเก็ตหน่อยกับร้านนั่งกินดื่มชิลๆ ให้เลือก
มองจากเขารัง เราจะเห็นเนินเขาด้านหน้าเป็นแหลมยื่นออกไปในทะเล เดี๋ยวเราจะไปชมวิวตรงนั้นกันครับ …
จากตัวเมืองภูเก็ตใช้เส้นทางมุ่งสู่แหลมพันวา เลี้ยวเข้าถนนสายเขาขาดซึ่งจะนำเราไปยังจุดชมวิวเขาขาด … ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยรู้จักนัก แต่บอกได้เลยว่าวิวเทพมากๆ
ชายหาดแถวนี้ไม่เหมาะกับการเล่นน้ำนักเพราะพื้นทะเลเป็นโคลนหรือมีหินเยอะ แต่ตอนน้ำขึ้นจะสวยมาก … ทั้งนี้ได้มีการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้ดูสวยงามสบายตาด้วยการทำศาลาชมวิวและระเบียงชมวิว
มองเห็นเรือใบสีขาวกับพระใหญ่เด่นเป็นสง่าอยู่ไกลๆ
ถนงถนนสวยไปหมด
โปรแกรมต่อไปขอพาไปเติมพลังด้วยอาหารพื้นเมืองภูเก็ตกันที่ร้านลกเที้ยนใกล้ย่านเมืองเก่ากันครับ … สำหรับคนภูเก็ตรุ่นเก่า มักจะเรียกติดปากว่า “สยาม” เพราะติดกันเคยเป็นโรงภาพยนตร์เก่าที่ชื่อสยามนั่นเอง
ผมอยากเรียกว่านี่คือ food center ของอาหารพื้นเมืองภูเก็ตมากกว่า เพราะมาที่เดียวได้เจอเมนูเฉพาะถิ่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นปอเปี๊ยะสดสูตรภูเก็ต, “หมี่หุ้นบ้าฉ่าง”, “โลบะ”, “โอเอ๋ว” และหมี่ฮกเกี้ยนรวมถึงอีกหลากหลายเมนู …
ปอเปี๊ยะสดแบบภูเก็ต (สูตรฮกเกี้ยน) ของโปรดผมตั้งแต่จำความได้
ใส้ปอเปี๊ยะประกอบด้วยผัดมันแกว, เนื้อปู, เนื้อหมูแดง ผักกาดหอม ราดด้วยน้ำจิ้มรสหวาน ๆ เค็ม ๆ
วันนี้ผมทานปอเปี๊ยสดกับ “หมี่หุ้นหมี่ใส่ไข่” (หมี่ขาวเส้นเล็ก ๆ ผสมกับหมี่เหลืองผัดสไตล์ฮกเกี้ยน) เมนูโปรดปรานประจำตัวอีกอย่าง อิอิ
ทานเสร็จก็เดินเข้าซอยใกล้ ๆ กับร้านลกเที้ยนไปหาซื้อ “อาโป้ง” ขนมพื้นเมืองอีกอย่าง … ลักษณะเป็นแผ่นแป้งรอบนอกบางกรอบด้านหนานุ่มนุ่ม รสหวานเหมาะสำหรับทานเล่นระหว่างมื้ออาหาร (จริงๆ จะทานโอเอ๋วเจ้าดั้งเดิมด้วยแต่อาแปะยังไม่เปิดร้านเลยอด)
เสร็จสรรพจากอาหารคาวและหวานแล้วก็ได้เวลาเที่ยวต่อครับ … ไม่ต้องควบเจ้า All New Zoomer-X ไปไหนไกลเพราะเราอยู่ย่านตึกเก่าอยู่แล้ว ก็เลยเริ่มถ่ายภาพกับตึกเก่าสวยคลาสสิกสไตล์ชิโนโปรตุกีสที่อยู่ละแวกนั้นได้เลย
อันนี้ตึกเก่าตรงข้ามลกเที้ยนเลย เป็นอีกมุมมหาชนของย่านนี้
ไม่ไกลจากลกเที้ยนเป็นบ้านเก่าที่ปัจจุบันเป็นร้าน Blue Elephant … ร้านอาหารไทยชื่อดังระดับโลก
รถเจ้าของบ้านครับ อิอิ …
ถัดมาเป็นบ้านเก่าตรงสามแยก ถนนดีบุกตัดกับถนนสตูล … เสียดายบ้านนี้ไม่ค่อยได้รับการบูรณะสักเท่าไหร่ แต่ผมก็ชอบนะ ดูเก๋าดี แปลกที่ไม่ค่อยมีใครสนใจถ่ายภาพเท่าไหร่ …
ถ้าผมเป็นเจ้าของบ้านจะเอาไปปล่อยเช่าใน Airbnb … บ้านเก๋ ที่จอดรถเพียบ อยู่ใจกลางเมืองภูเก็ต รับรองขายดี … แต่ในเมื่อไม่ได้เป็นเจ้าของ ขอแค่เก็บภาพก่อนละกัน จะได้เอาไปมโนต่อ 555 …
ใครเช่าแถม Zoomer-X ไว้ขับหล่อ ๆ ด้วยเลยนะเออ … บ้านหรือมอเตอร์ไซค์ใครดิบกว่ากัน
ใกล้ๆ กันก็เป็นตึกสวยบนถนนดีบุก … ตึกเหล่านี้ฝั่งนึงเป็นบ้านอาศัยไม่ได้เป็นร้านค้าก็เลยค่อนข้างเป็นระเบียบ ไม่มีป้ายชื่อร้านมาบดบังความสวยงามของตึกมากนัก ต่างกับถนนถลางที่ป้ายร้านแข่งขันกันยื่นออกมาเรียกร้องความสนใจจากนักท่องเที่ยว
ผมว่าถ่ายภาพที่ถนนดีบุกจะง่ายกว่าถนนถลางเพราะดูเป็นระเบียบมากกว่า
ถ้าใช้รถยนต์อาจเจอปัญหาเรื่องที่จอดรถหายากสักหน่อย แต่สำหรับการท่องเที่ยวด้วยมอเตอร์ไซค์ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะเลย … ใครมาภูเก็ตก็คงรู้ว่าในเมืองนั้นจากแยกถึงแยกบางทีห่างกันแค่ 3-4 ร้อยเมตร แถมรถก็เยอะ นักท่องเที่ยวจำนวนมากจึงเลือกใช้มอเตอร์ไซค์เพราะคล่องตัวกว่ามาก ยิ่งได้มอเตอร์ไซค์เกียร์ออโต้แบบ All New Zoomer-X ยิ่งสะดวกเลย แถมช่วยประหยัดด้วยตอนจอดรอไฟแดงตรง 4 แยกอีกต่างหากเพราะมีระบบหยุดเครื่องยนต์อัตโนมัติ Idling stop
ที่จอดรถยนต์มักไม่ค่อยมี แต่ที่จอดรถมอเตอร์ไซค์มักจะว่างเสมอ
ต่อไปอีกหน่อยเป็นซอยรมณีย์ กับถนนถลาง … สองแห่งนี้ผู้คนพลุกพล่านครับ ถ้าเป็นไปได้มาช่วงเช้าๆ หน่อยอาจพอหลบหนีผู้คนได้
ตึกสีสวยในซอยรมณีย์
พยายามหามุมที่ไม่ติดคนบนถนนถลาง หายากหน่อยนะครับ
แต่ถ้าหาร้านกาแฟเก๋ๆ รสชาติดี ที่นี่มีให้เลือกเพียบเลย … วันนี้แนะนำเป็นใต่ตงละกันครับ ชื่อและการตกแต่งเข้ากันกับ concept เที่ยวเมืองเก่าวันนี้
หากใครชอบหามุมเท่ๆ ดิบๆ สำหรับถ่ายรูปล่ะก็ แถวนี้มีให้เลือกเยอะเลย …
จากถนนถลางเดินมาอีกไม่กี่ร้อยเมตรก็ถึงอีกหนึ่งจุด signature ของย่านเมืองเก่า นั่นก็คือตึกชาเตอร์เก่าที่ปัจจุบันได้รับการบูรณะใหม่เรียบร้อยแล้ว แต่เสียดายที่หอนาฬิกาฝั่งตรงกันข้ามยังอยู่ระหว่างการปรับปรุง คาดว่าปลายๆ ปีนี้คงแล้วเสร็จและคงเป็นจุดถ่ายภาพที่สวยมากอีกจุดหนึ่งเพราะสายไฟและสายโทรศัพท์ถูกนำลงใต้ดินเรียบร้อยแล้วทำให้ไม่บดบังความสวยงามของอาคารอีกต่อไป
รถไม้ที่เห็นในภาพคือรถโดยสารประจำทางสไตล์ภูเก็ตที่เรียกกว่าโพถ้องครับ (ไม่ใช่คันที่มีผ้าใบคลุมนะ 555)
ภูเก็ตเป็นเมืองที่มีหอนาฬิกาประจำเมือง 2 แห่ง นอกจากที่มุมถนนพังงาแล้วก็ยังมีอีกแห่งที่วงเวียนสุรินทร์ใกล้กับโรงแรมเมโทรโพล … หอนาฬิกาแห่งนี้เพิ่งได้รับการทาสีใหม่เมื่อเร็ว ๆ นี้หลังจากบูรณะโครงสร้างครั้งใหญ่เมื่อหลายปีก่อน … รอบนี้เปลี่ยนจากสีชมพูเป็นสีฟ้าหม่น
ใกล้ๆ กันกับวงเวียนสุรินทร์มีร้านอาหารพื้นเมืองชื่อดังไม่ว่าจะเป็นหมี่ต้นโพธิ์, หมี่สมจิตต์ รวมถึงร้านกาแฟเก๋ๆ อย่าง The Circle ด้วย (แต่ตอนนี้ท้องยังตึง เลยไม่พาไปชิมนะครับ)
ออกจากย่านเมืองเก่าแล้วเย็นวันนี้ ผมมีแผนจะไปดูพระอาทิตย์ตกที่จุดชมวิวกังหันลม โดยใช้ถนนเจ้าฟ้าตะวันตกซึ่งเป็นเส้นที่ผ่านบ้านผมเอง … และมีจุดนึงที่ไม่ได้เป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่ผมผ่านทุกวันรู้สึกว่าบรรยากาศแปลกตาเหมือนไม่ใช่ภูเก็ตและคิดจะแวะถ่ายภาพหลายครั้งแล้วแต่ไม่มีโอกาสซักที วันนี้ไหนๆ ก็ผ่านไปใกล้ๆ แล้วก็แวะซักหน่อย …
สถานที่นี้เป็นบึงที่เกิดจากขุดแร่เมื่อ 30-40 ปีก่อน ลักษณะบึงเหล่านี้น้ำจะเขียวเข้มเพราะลึกมาก แต่ที่ผมรู้สึกว่ามันน่าสนใจ (สำหรับถ่ายภาพ) เพราะมีตอไม้ที่ตายแล้วอยู่ในน้ำ เหมือนกับตามเขื่อนนั่นเอง … วันไหนน้ำนิ่งสงบจะดูสวยเป็นพิเศษ เสียดายที่วันนี้ผมมาถึงช่วงบ่ายๆ แล้วและน้ำไม่นิ่งนักก็เลยไม่ค่อยได้บรรยากาศเท่าไหร่ แต่ก็ถือโอกาสเก็บภาพคู่กับเจ้า Zoomer-X ไว้สักหน่อย
บริเวณนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงครั้งใหญ่เพื่อรองรับธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ถนนก็เลยมีหลุมเป็นระยะ เพราะมีรถบรรทุกวิ่งผ่านเยอะกว่าปกติ การขี่รถผ่านจุดนี้ทำให้รู้สึกว่าโช้กของเจ้า Zoomer-X คันนี้หนึบนุ่มกำลังดีทีเดียว
บนเส้นทางเจ้าฟ้าตะวันตก ต้องผ่านวัดที่เคารพนับถือของชาวภูเก็ตและนักท่องเที่ยว 2 วัดได้แก่ วัดหลวงปู่สุภาและวัดฉลอง หากเพื่อนๆ มาเที่ยวภูเก็ตก็อย่าลืมแวะไหว้พระที่วัดใดวัดหนึ่งนะครับ จะได้เป็นสิริมงคลกับชีวิต … วันนี้ขอพาเที่ยววัดหลวงปูสุภานะครับเพราะคดว่าเพื่อนๆ รู้จักน้อยกว่าวัดฉลอง
หากมาจากเมืองภูเก็ต ทางเข้าวัดหลวงปู่สุภาจะอยู่ทางขวามือก่อนถึงวัดฉลองราว 1 กม. … ตรงปากทางมีร้านขายของที่ระลึก (ขายให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มากับทัวร์) ที่จริงผมอยากแวะถ่ายภาพมาก ๆ เพราะตัวอาคารสร้างเลียนแบบศิลปะโคโลเนียลสวยทีเดียว แต่วันนี้นักท่องเที่ยวเยอะมาก ก็เลยตัดใจขับเลยเข้าไปในวัดดีกว่า
วัดหลวงปู่สุภาจะมีนักท่องเที่ยวไม่เยอะนัก ไม่เหมือนวัดฉลอง เลยได่ถ่ายภาพศาลากลางน้ำอย่างสบายใจไม่ต้องกลัวใครมาบังกล้อง
หากมีโอกาส ลองเข้าไปในอุโบสถกลางน้ำนะครับ ภาพวาดบนผนังสวยดีเหมือนกัน
ด้านหลังวัดหลวงปู่ เป็นพื้นที่ทำเหมืองเก่า (อีกแล้ว) ที่ทุกวันนี้เริ่มมีการพัฒนาให้เกิดเป็นเส้นทางสำหรับออกกำลังกาย จึงมีชาวภูเก็ตมาวิ่งและปั่นจักรยานกันทุกเย็น … จะว่าไปถนนที่สร้างขึ้นใหม่ราว 4 km รอบ ๆ เหมืองเก่านี่ก็สวยดีนะครับ เหมาะกับการถ่ายภาพ pre wedding ดี แต่ผมไม่มีเจ้าสาวติดตัวมาด้วยก็เอาน้องชายกับเจ้า Zoomer-X เป็นแบบแทนละกัน 555
บริเวณที่เป็นเหมืองเก่า ทราบมาว่าตั้งใจจะทำเป็นที่เก็บน้ำ แต่เหมือนจะยังไม่สำเร็จ
แต่จุดที่ผมว่าสวยดีคือถนนเส้นรอบๆ นี่แหละครับ
บางจุดมองเห็นทั้งวัดหลวงปู่สุภา, วัดฉลองและวิวทะเลด้วย
แสงอาทิตย์เริ่มคล้อยลงหลังภูเขาที่คั่นชายทะเลฝั่งตะวันตกกับเมืองภูเก็ต บ่งบอกว่าเราต้องรีบเดินทางไปยังจุดชมพระอาทิตย์ตกกันแล้ว
จากวัดหลวงปู่สุภาขี่มอเตอร์ไซค์ไปอีกราว 10 กว่า กม.ก็จะถึงจุดหมายของเรา ซึ่งเป็นเนินเขาริมทะเลไม่ห่างจากแหลมพรมเทพ ที่นี่จะมีนักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่านนักเมื่อเทียบกับแหลมพรมเทพ จึงเหมาะกับการมาชมวิวแบบไม่ต้องแย่งพื้นที่ (แต่ถ้าช่วงเทศกาลก็แน่นไม่แพ้กัน 555) … ทางขึ้นจุดชมวิวนี้ค่อนข้างชัน และบางช่วงก็คดเคี้ยว ดังนั้นถ้าเพื่อน ๆ ขี่มอเตอร์ไซค์ไม่คล่องก็ต้องใช้ความระมัดระวังนะครับ … ส่วนเจ้า All New Zoomer-X สามารถขึ้นได้สบายแต่รู้สึกว่าหน่วง ๆ หน่อยไม่ปรื้ดปราดดั่งใจนัก จะว่าไปรถคันนี้คล่องตัวและเวิร์คมากสำหรับการขับขี่ในเมือง แต่ถ้าต้องขึ้นเขาขึ้นดอยอาจไม่ใช่ทางของเค้านัก
เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม เห็นเงาของเมฆรึปล่าว … ฮือ ๆ อุตส่าห์จะมาดูพระอาทิตย์ตก ดูท่าจะเจอฝนแทน
ที่จุดชมวิวกังหันลมนอกจากวิวสวย ๆ ของพระอาทิตย์ตกแล้ว (ในวันที่อากาศดีนะ ไม่ใช่วันนี้) บางวันยังมีคนมาทำกิจกรรมเล่นพารามอเตอร์ด้วย … เห็นเค้าเล่นแล้วแอบเสียว แต่ใจนึงก็อยากขึ้นไปเห็นวิวแบบนั้นบ้างเหมือนกัน
เป็นไปตามคาด เมฆฝนเข้าปกคลุมตามด้วยสายฝนโปรยปรายเต็มพื้นที่ ภารกิจล่าแสงยามเย็นของผมวันนี้จึงมีอันแห้วไป
แต่ยังครับ ยังไม่หมด เรากลับเข้าเมืองกันอีกครั้งไปชมอีกอารมณ์นึงของย่านเมืองเก่ายามค่ำกันบ้าง … จุดที่ผมแนะนำคือที่ถนนพังงาซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรม ออน ออน โรงแรมเก่าแก่ที่นำมาปรับโฉมใหม่สวยงามมาก ๆ และใกล้ ๆ กันก็เป็นตึกของธนาคารกสิกรที่ปรับปรุงใหม่ให้เป็นสไตล์ชินโน ฯ แถมประดับไฟตอนค่ำสวยจนทุกคนยกนิ้วให้
ตึกของธนาคารกสิกร .. รอลุ้นว่าเมื่อไหร่จะเอาสายโทรศัพท์กับสายไฟแถวนี้ลงดินซะที
ที่นี่กลายเป็นมุมเด็ดที่ใคร ๆ ก็ต้องมาถ่ายภาพกัน รวมถึงเหล่าบรรดาคู่บ่าวสาวที่มาถ่ายพรีเว็ดดิ้ง
ฝั่งตรงข้ามคือโรงแรมออน ที่สวยงามแม้ยามค่ำคืนแบบนี้
เสร็จจากการเที่ยวมาตลอดวัน หากใครอยากทานอาหารเมนูภูเก็ตอร่อย ๆ และบรรยากาศเลิศ ผมอยากแนะนำร้านใหม่ของภูเก็ตที่ชื่อ “ตู้กับข้าว” ซึ่งอยู่ติด ๆ กับธนาคารกสิกรที่เราถ่ายภาพนั่นเอง … ร้านนี้เพิ่งจะเปิดได้ไม่นาน ผมลองชิมมาสองรอบแล้วถือว่ารสชาติผ่านฉลุย แถมตกแต่งสวยด้วย ส่วนราคาก็ไม่ถูกนะครับแต่ไม่ได้แพงเวอร์ ใครหาที่ทานอาหารมื้อค่ำก็แวะกันได้เลย
แต่สำหรับผมวันนี้หมดแรงแล้วครับ กลับไปทานข้าวที่บ้านดีกว่า … ขอบคุณที่ติดตามอ่านแล้วพบกันใหม่ทริปหน้านะคร้าบ
สุดท้ายขอฝากช่องทางการติดตามผลงานด้วยครับ
Facebook : 9Mot-Photography
Youtube : 9Mot-Photography
Instagram : @9mot