ผมมีเพื่อนอยู่คนหนึ่งเป็นคนที่ชอบกินหัวปลามากเป็นพิเศษ
จนเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่เพื่อนฝูง ทุกครั้งที่บ้านของเขากินปลา
คนในบ้านของเขาก็มักที่จะคีบหัวปลาให้เขาก่อนเป็นอันดับแรก
และทุกๆครั้งที่เพื่อนๆนัดเลี้ยงสังสรรค์กัน ทุกๆคนก็มักจะเลือกเอาหัวปลาให้เขาก่อเสมอ
แต่ไม่มีใครรู้ว่าเพราะเหตุใดในเวลาที่อยู่กับเพื่อนๆเขามักจะปฏิเสธความหวังดีนี้อยู่เสมอ
เมื่อไม่นานมานี้เอง ผมได้ข่าวว่าเขาเสียชีวิตแล้ว
ก่อนที่เขาจะสิ้นใจ มีเพื่อนสนิทหลายคนได้ไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล
บางคนถึงขนาดทำหัวปลาปรุงพิเศษไปให้ แต่ในขณะนั้น
เขาไม่สามารถที่จะกินอะไรได้อีกแล้ว
แต่ก็ยังพยายามที่จะเปิดเผยความลับที่เขาได้ปกปิดมานานนับสิบปี
ให้เพื่อนๆฟังด้วยความยากลำบากว่า…..
“เราขอขอบใจในน้ำใจของพวกเพื่อนๆที่อุตส่าห์ทำหัวปลามาให้และในเมื่อมาถึงขั้นนี้
เราก็คงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปิดบังอะไรพวกเพื่อนอีกแล้ว
แม้ว่าหัวปลาจะอร่อยและเราก็ได้กินมันมาครึ่งค่อนชีวิตแล้วก็ตาม
แต่เราขอบอกตามตรงเลยว่าเราไม่เคยชอบกินมันเลย
หากแต่เป็นฐานะทางบ้านไม่ค่อยดี
อีกทั้งคนในครอบครัวต่างก็ชอบกินเนื้อปลากันทั้งนั้นเมื่อเป็นเช่นนี้
หากเราเลือกที่ยังจะกินเนื้อปลาพวกเขาก็จะได้กินกันน้อยลง
แต่ถ้าหากเราจะไม่กินปลาเลยพวกเขาก็คงจะรู้
และไม่สบายใจ ดังนั้น เราก็เลยต้องแกล้งทำเป็นชอบกินหัวปลา
ทั้งๆที่ความจริงแล้ว เราเองก็อยากที่จะกินเนื้อปลากับเขาด้วยเหมือนกัน!
จนถึงทุกวันนี้ทุกครั้งที่ผมได้ยินว่ามีคนชอบกินหัวปลา
ผมเองก็อดที่จะมองเขาด้วยความพินิจพิเคราะห์ไม่ได้
ในใจก็ตั้งคำถามว่า เขา “รักที่จะกินหัวปลา”
หรือ “กินหัวปลาเพราะรัก” กันแน่?…
ข้อคิดในการสอนงาน
สิ่งที่ประจักษ์ต่อสายตาของเราไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นจริงเสมอไป
บางคนรักที่จะทำ จึงไม่เคยสนใจหรือใส่ใจความรู้สึกของคนอื่น
แต่บางคนทำเพราะรัก จึงยอมสละทุกสิ่งโดยไม่เคยคิดถึงตัวเอง
แม้ว่าจะไม่มีใครรู้ก็ตาม … คุณล่ะครับเป็นคนแบบไหน ?