กาลครั้งหนึ่ง ยังมีคุณลุงอยู่ท่านหนึ่งในช่วงวัยหนุ่ม คุณลุงท่านนี้เป็นหัวหน้าคนงานอยู่ในเหมืองทองคำมีรายได้ดีมาก แต่คุณลุงท่านนี้ไม่เคยเก็บเงินเลย “มีเท่าไรก็ใช้หมด” เนื่องจากคุณลุงเป็นคนจิตใจดี ใครมาหยิบยืมก็ให้ เลี้ยงเพื่อนฝูงตลอด คุณลุงมีเพื่อนเยอะมาก จนกระทั่งคุณลุงท่านนี้เกษียณอายุจากการทำงาน ปรากฏว่า “ไม่มีเงินเหลือเลย” จากชีวิตการทำงานอันยาวนาน คุณลุงมีลูกอยู่ 5 คน เมื่อคุณลุงไม่มีเงินก็จำเป็นต้องไปอาศัยอยู่บ้านลูกๆ ทั้ง 5 คน
…………………………………………………………………………………………………………………………
วันจันทร์ ก็ไปอยู่บ้านลูกสาว ก็ถูกลูกเขยพูดจากระทบกระเทียบ เช่น “ทำไมคุณพ่อคุณไม่ไปบ้านลูกคนอื่นบ้างนะ ผมทำอะไรก็อึดอัดจริงๆ”
วันอังคาร ก็ไปอยู่บ้านลูกชาย ก็ถูกหลานและลูกสะใภ้กระทบกระเทียบ เช่น “รำคาญคุณปู่จังเลย กับข้าวที่หนูชอบดูสิคุณปู่ทานหมดเลย ทำไมคุณปู่ไม่ไปบ้านอื่นบ้าง” เป็นเช่นนี้ตลอด
คุณลุงก็เปลี่ยนไปอยู่บ้านลูกคนนั้นทีคนนี้ทีก็ถูกลูกบ้าง ลูกเขยบ้าง ลูกสะใภ้บ้าง หลานบ้าง พูดจาถากถางอยู่ตลอด แต่คุณลุงก็ต้องทน เพราะคุณลุง “ไม่มีเงินเก็บ” แม้แต่บาทเดียว
…………………………………………………………………………………………………………………………..
อยู่มาวันหนึ่ง คุณลุงตัดสินใจเรียกลูกๆ ทุกคนมาแล้วบอกว่า “พ่อจะไม่อยู่สัก 2 ปี นะลูกเพราะเพื่อนพ่อที่เป็นเจ้าของเหมืองทองคำมันเขียนจดหมายมาขอร้องให้พ่อไปช่วยงานที่เหมืองทองคำของมัน พ่อจำเป็นต้องไปช่วยเขาจริงๆ”
ลูกๆ ได้ฟังดังนั้นก็ดีใจสนับสนุนเพื่อให้คุณลุงท่านนี้ไปให้พ้นๆ จะได้ “ไม่เป็นภาระ” อีกต่อไป เมื่อครบ 2 ปี คุณลุงท่านนี้ก็กลับมาพร้อมกับลังเหล็กใบใหญ่ 1 ใบ ไปไหนแกก็ลากไปด้วย ลูกๆ ก็พากันแปลกใจและถามว่า “ลังอะไร” คุณลุงตอบว่า “สมบัติชิ้นสุดท้ายที่ได้มาจากเหมืองทองคำของเพื่อน ถ้าใคร “ดูแลพ่อ” จนถึงวาระสุดท้ายก็จะ “มอบสมบัติ” ในลังเหล็กให้ทั้งหมด” ปรากฏว่าลูกๆ พากันตื่นเต้น ต่างอาสามาดูแลคุณพ่อกันยกใหญ่
…………………………………………………………………………………………………………………………
วันจันทร์ คุณลุงก็อยู่กับลูกสาวคนโต ลูกเขยกับหลานก็พากันเอาใจบีบนวดให้ หาของกินดีๆ มาให้ แต่ยังไม่ทันไร ลูกชายคนที่สองก็มาตามให้ไปอยู่ด้วย และก็เช่นกันยังไม่ทันไรลูกสาวคนที่สามก็มาตามให้ไปอยู่ด้วยอีก ปรากฏว่าลูกๆ ทั้ง 5 คน ของคุณลุงต่าง “แย่งกันเอาใจ” และปรนนิบัติคุณลุงท่านนี้อย่างดี แต่เวลาไปไหนคุณลุงก็จะลากลังเหล็กใบนี้ไปด้วยตลอดเวลาผ่านไป 7 ปี คุณลุงท่านนี้เสียชีวิตลง หลังงานพิธีศพลูกๆ ทุกคนพากันมานั่งล้อมลังเหล็กใบนี้เพื่อ “แบ่งสมบัติ” กัน ลูกสาวคนโตเป็นคนเปิดฝาลังเหล็ก พบว่ายังมีผ้าสีขาวปิดอยู่อีกชั้นหนึ่ง และมีจดหมายฉบับหนึ่งวางอยู่ ลูกสาวคนโตก็เปิดอ่านให้น้องๆ ฟังเนื้อความในจดหมายเขียนไว้ว่า
“ ถึงลูกๆ ที่รักทุกๆ คน….”
ก่อนอื่นพ่อต้องขอ “ขอบคุณก้อนหิน” ทุกๆ ก้อนในลังเหล็กใบนี้ ที่ได้เลี้ยงดูชีวิตพ่อจนถึงวาระสุดท้าย พ่อขอให้ลูกๆ แบ่งก้อนหินในลังเหล็กใบนี้ไปคนละเท่าๆ กัน เพื่อเป็นอนุสรณ์เตือนใจให้พวกเจ้าหมั่น “เก็บออมเสียตั้งแต่วันนี้” เพื่อที่เวลาพวกเจ้าแก่ตัวลงจะได้ไม่มีชีวิตที่น่าสมเพชเยี่ยงพ่อ”
รักลูกจากพ่อ
……………………………………………………………………………………………………………….
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “อย่าประมาท” และ “อย่าคาดหวัง”ว่าใครจะเลี้ยงดูเรา ให้เร่ง “เก็บออม” เสียตั้งแต่เนิ่น จะได้มีชีวิตบั้นปลายที่ “สุขสบาย” เหตุการณ์แบบนี้อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน ที่ไม่เตรียมเก็บ “ออมเงิน” เสียตั้งแต่เนิ่นๆ พึ่งพาใครไหน…จะดีเท่าพึ่งพาตัวเราเอง
นิทานนี้ให้ข้อคิดได้ดีจริงๆ