ในฐานะคนชอบถ่ายภาพ เพื่อน ๆ เคยเจอปัญหาเดียวกับผมไหมครับ … บางครั้งในชีวิตประจำวันหรือสถานการณ์ที่ต้องการบันทึกภาพสวย ๆ ซึ่งปรากฏตรงหน้า (ตามประสาคนบ้าถ่ายภาพ) แต่ไม่มีกล้องตัวเก่งอยู่กับมือ ครั้นจะใช้มือถือถ่ายก็รู้สึกว่าภาพที่ออกมามันไม่ได้ดังใจเลยแม้แต่น้อย share ไปก็กลัวเสียยี่ห้อช่างภาพ อิอิ … ผมก็เลยไม่ค่อยได้ถ่ายภาพชีวิตประจำวัน ด้วยอุปกรณ์พกพาแล้ว share ลง social media อย่าง facebook หรือ instagram บ่อยมากนัก เพราะรู้สึกว่าภาพมันไม่สวยพอที่จะอวดชาวบ้านนั่นเอง
แต่วันนี้ผมได้รับ LG G3 มาให้ทดสอบในมุมมองของช่างภาพ … ต้องยอมรับเลยว่ามันทำให้ผมได้สนุกกับการถ่ายภาพได้ทุกที่ทุกเวลาแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนจริง ๆ … มาดูกันครับว่า LG G3 นั้นทำได้ดีขนาดไหน
ทันทีที่เปิดเครื่องก็ต้องบอกว่าประทับใจกับหน้าจอของ LG ที่ให้สีสัน, ความคมชัด และความสว่างดีมาก โดยสีไม่จัดจ้านจนเกินไป และมีขนาดหน้าจอกลาง ๆ ไม่เล็ก แต่ก็ไม่ใหญ่จนเทอะทะ ซึ่งแน่นอนว่าคุณสมบัติเหล่านี้ช่างภาพอย่างผมถูกใจมาก เพราะทำให้เราได้เห็นผลงานสวย ๆ ของเราได้อย่างเต็มตา และไม่ลังเลที่จะยื่นภาพถ่ายจากฝีมือเราให้คนอื่นได้ชมผ่านเจ้า LG G3 ตัวนี้
ในส่วนเสปคของกล้องถ่ายภาพนั้น ผมไม่ขอลงรายละเอียดทางเทคนิคเพราะสามารถหาอ่านได้ทาง internet แต่อยากบอกเพียงว่ารูรับแสงที่ให้มานั้นกว้างไม่แพ้กล้องประเภท compact digital หรือ mirror less เลยทีเดียว
ก่อนจะเริ่มชมภาพถ่ายผลงาน LG G3 ที่ผมได้ทดสอบภาคสนามทั้งในชีวิตประจำวันและนำไปใช้ระหว่างทริปท่องเที่ยว ผมขอเล่าให้ฟังเล็กน้อยว่า ทำไมคนที่จริงจังกับการถ่ายภาพแบบผมต้องมีมือถือที่สามารถถ่ายภาพได้ดี ในเมื่อมีกล้อง DSLR ที่ให้ผลงานระดับมืออาชีพอยู่แล้ว
- ผมไม่สามารถพกกล้อง DSLR ติดตัวตลอดได้ครับ … จะให้นำกล้องตัวใหญ่ ๆ แขวนคอมาทำงาน, ออกไปทานข้าว โอ้ยคงไม่ไหว อย่าลืมนะครับว่าผมชอบถ่ายภาพแต่ก็ไม่ถึงกับเป็นช่างภาพอาชีพ (ถึงจะเป็นช่างภาพอาชีพ ผมว่าก็คงไม่มีใครเอากล้องแขวนคอไว้ตลอดหรอก จริงไหม) … ดังนั้นมือถือที่สามารถถ่ายภาพดีได้จึงตอบโจทย์ตรงนี้
- บางสถานการณ์เราไม่สามารถใช้กล้องตัวใหญ่แบบ DSLR ได้เพราะมันไม่ถูกกาละเทศะ … เช่น ในร้านอาหาร, งานเลี้ยง หรือการเก็บภาพทีเผลอที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ตัวเราทุกวัน การนำกล้องตัวใหญ่ออกมาถ่ายมันดูเอิกเกริกเกินไปจนอาจทำให้ผู้อื่นรู้สึกว่าถูกรบกวนหรือไม่เป็นส่วนตัว
- การเดินทางไปธุระที่เป็นลักษณะ Business trip ซึ่งบางครั้งเดินทางไปในสถานที่แปลก ๆ สวย ๆ แต่ไม่สะดวกที่จะนำกล้องตัวใหญ่ติดตัว เพราะคงไม่เหมาะที่จะสะพายกล้องตัวใหญ่ไปพบลูกค้าด้วย
- ในสถานการณ์ที่ต้องการความรวดเร็ว การใช้มือถือถ่ายภาพสะดวกกว่าการใช้กล้องตัวใหญ่ที่ต้องนำออกมาจากกระเป๋าและ set ค่าโน่นนี่มากมาย
- กล้องมือถือให้ความคล่องตัวสูงกว่ามากในการถ่ายภาพบางประเภท อาทิ ภาพในมุมต่ำ, มุมสูง, ถ่ายภาพในที่แคบ หรือแม้แต่การถ่ายภาพตัวเอง (selfie)
สำหรับภาพในรีวิวนี้ เกิดจากการใช้งานจริง โดยไม่มีการตกแต่งภาพหลังจากที่ถ่ายแล้วด้วยคอมพิวเตอร์ เพียงแต่ย่อขนาดให้เหมาะสมกับการแสดงบน website เท่านั้น
มาดูภาพชุดแรกกันก่อนเลยครับ ผมทดสอบการถ่ายภาพในชีวิตประจำวัน .. โดยบันทึกภาพระหว่างที่เดินทางไปทานอาหารกลางวันที่ canteen ของโรงแรม .. เห็นอากาศดี ฟ้าสวยก็เลยหยิบเจ้า LG G3 ออกมาบันทึกภาพนี้ไว้ ซึ่งภาพที่สภาพแสงมี contrast สูงแบบนี้ช่างภาพแบบผมรู้ดีว่า หากกล้องไม่ดี รายละเอียดในส่วนมืดจะหายไป หรือไม่ก็ได้รายละเอียดส่วนมืดแต่ฟ้าจะซีดขาว แต่ว่าภาพที่ LG G3 ให้มานั้นทำได้ดีมากทีเดียวทั้งรายละเอียดในส่วนมืดและส่วนสว่าง โดยทั้งหมดนี้ Auto ครับ ผมไม่ได้ตั้งค่าอะไรเลย
ภาพชุดต่อมาลองถ่ายภาพอาหารที่ผมไปทานในวันหยุดกับคุณภรรยา ผมเองไม่ชอบถ่าย selfie ครับ จึงมีคุณภรรยาทดสอบให้ ซึ่งก็เป็นที่ถูกอกถูกใจคุณเธอครับเพราะตั้งระดับความฟรุ้งฟริ้งของผิวได้ งานนี้หน้าใสง่าย ๆ โดยไม่ต้องผ่าน app เลย อิอิ
ภาพ cake ถ่ายในร้านที่แสงสว่างไม่ได้มากมายนัก แต่ภาพที่ได้คมชัดมากทีเดียว
ทดลองใช้ feature ชัดเฉพาะจุดของ LG G3 (magic focus) ทำให้วัตถุดูโดดเด่นขึ้น เสียดายที่ใช้ได้ดีกับวัตถุที่อยู่ใกล้กับตัวกล้องเท่านั้น ถ้าวัตถุอยู่ในระยะ 2 เมตรขึ้นไปจะทำให้ผลลัพธ์ออกมาไม่โดดเด่นนัก และการถ่ายภาพด้วย feature นี้ต้องถือกล้องนิ่งเป็นระยะเวลาที่ค่อนข้างนาน (3-5 วินาทีเห็นจะได้) เพื่อให้ได้ผลงานออกมาดีที่สุด
ภาพชุดสุดท้ายที่อยากให้ชมคือ การนำเจ้า LG G3 ไปแอ่วเชียงใหม่ ซึ่งบางภาพผมนำผลงานของ LG G3 เทียบกับกล้อง DSLR ให้ชมด้วย
ลองดูภาพอื่น ๆ ซึ่งบันทึกที่โรงแรม Dusit D2 นะครับ จะเห็นได้ว่ากล้องของ LG G3 ทำงานได้ดีมากแม้ในสภาพแสงน้อย แถม White Balance ยังค่อนข้างแม่นยำเสียด้วย
ได้เวลาเดินทางไปเที่ยวแล้วครับ … ถ่ายน้ำตกสิริภูมิบนดอยอินทนนท์ซึ่งมีละอองน้ำฟุ้งกระจายตลอดเวลา สถานการณ์แบบนี้กล้องตัวใหญ่ของผมแทบไม่ได้ภาพเลยเพราะละอองน้ำเกาะเต็มหน้าเลนส์ตลอด แต่ LG G3 มีพื้นที่ตรงเลนส์น้อยกว่ามากจึงพอเอามือบัง ๆ ไว้ได้และพื้นที่เล็กทำให้สามารถเช็ดละอองน้ำออกได้อย่างรวดเร็วแล้วถ่ายภาพใหม่ได้ทันที
หลังจากนั้นผมก็เดินทางไปอำเภอแม่แจ่ม เพื่อบันทึกภาพนาขั้นบันได โดยเริ่มต้นที่หมู่บ้านกองกานครับ
จากนั้นก็เดินทางไปยัง Highlight ของทริป นาขั้นบันไดป่าบงเปียง
แสงสวย ๆ ที่นาขั้นบันไดป่าบงเปียง, อำเภอแม่แจ่ม .. ผมแทบไม่เชื่อสายตาจริง ๆ ครับว่าเจ้า LG G3 ทำได้ดีขนาดนี้ (Auto ล้วน ๆ)
มาลองดูภาพเปรียบเทียบกับกล้อง DSLR บ้างนะครับ … ถ้าไม่บอกจะทราบไหมว่าภาพไหนถ่ายด้วยมือถือ
แสงสุดท้ายของวันที่ป่าบงเปียง แค่หยุดรถแล้วยื่น LG G3 ออกไปถ่าย ง่ายมาก .. หลังจากนั้นลองยกกล้องตัวใหญ่ออกมาส่องบ้าง ต้องตั้งค่าอยู่หลายวินาทีกว่าจะได้งาน
วันรุ่งขึ้นผมได้มีโอกาสไปแหล่งท่องเที่ยวล่าสุดของเชียงใหม่ .. “ผาช่อ” เลยทดลองโหมด panorama ดูบ้างครับ ใช้งานง่ายแค่เลื่อนกล้องซ้ายขวาตามคำแนะนำของกล้องเท่านั้น
โดยสรุป ต้องบอกว่า LG G3 นั้นตอบสนองการใช้งานสำหรับคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพได้เป็นอย่างดี ขนาดที่ว่าคนจริงจังกับการถ่ายภาพอย่างผมยังยกนิ้วให้เลย เพราะนอกจากใช้งานง่ายแล้วยังให้คุณภาพของภาพถ่ายที่ดีอีกด้วย … สิบตาเห็นไม่เท่ามือคลำ หากกำลังมองหามือถือตัวใหม่ที่ถ่ายภาพได้สวยแล้วล่ะก็ ผมฟันธงให้ LG G3 คือหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้น ๆ เลยครับ
ข้อสังเกต กล้องของ LG G3 นั้นถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่ายด้วยระบบอัตโนมัติต่าง ๆ โดยให้ผลงานที่ออกมาในระดับดีมาก แต่หากต้องการตั้งค่าที่ค่อนข้างละเอียด LG G3 ไม่ได้มี feature ในส่วนนี้ครับ
ในบางกรณีอาจพบปัญหาจาก White balance ที่ไม่ตรงใจบ้างขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของแสง ณ ขณะที่ถ่ายภาพ
ผมสังเกตว่า LG G3 นั้นเน้นการทำให้ภาพออกมาสว่างสดใส ซึ่งในทางเทคนิคต้องใช้วิธีการเพิ่มเวลาที่ใช้ในการรับแสง (ลด shutter speed) หรือเพิ่มความไวแสง ดังนั้นอาจส่งผลให้ภาพอาจมีอาการฟุ้งในบริเวณที่เป็น highlight หรือมี noise บ้างในบางสภาพแสง