หลังจากห่างหายไปนานเรื่องเทคนิคการถ่ายภาพ วันนี้ขอนำเสนอเรื่อง RAW ไฟล์ ที่หลาย ๆ คนงงและไม่รู้ว่าจะมีไปทำไม เพราะไฟล์มันใหญ่เหลือเกินและ JPG ก็ดีพอแล้ว วันนี้จะนำตัวอย่างมาให้ดูกันสักหนึ่งตัวอย่างครับว่า RAW ไฟล์ได้เปรียบ JPG ตรงไหน …
เพื่อน ๆ คงเคยเจอปัญหาบ่อย ๆ เวลาถ่ายภาพในวันที่มีแดดจัด ทำให้มอง LCD ไม่ชัด ไม่รู้ว่าแสงที่ถ่ายมา over หรือ under หรือเปล่า อันที่จริงสามารถเปิด histogram ดูก็ได้แต่บางครั้งก็รีบ, ลืม หรือไม่ก็ขี้เกียจเลยไม่ได้ทำ … มาเห็นจะ ๆ อีกทีก็ตอนโหลดเข้า computer ไปแล้วจึงพบว่าแสงที่ถ่ายมานั้นผิดพลาดอย่างมหันต์ เพราะ่ส่วนมืดหรือส่วนสว่างของภาพอาจสูญเสียรายละเอียดไป ซึ่งถ้าถ่ายมาเป็นแบบ JPG อย่างเดียวอาจไม่สามารถกู้รายละเอียดเหล่านั้นกลับมาได้
ลองดูภาพตัวอย่างนะครับ ภาพนี้ตอนถ่ายที่สถานที่จริงก็ดูเหมือนจะ OK แต่พอนำมาโหลดเข้า computer จะได้เห็นได้ชัดเลยว่าสีขาวของก้อนเมฆนั้นเสียรายละเอียดไปเยอะมาก ภาพตัวอย่างแรกผมเปิดไฟล์ JPG และไฟล์ RAW ที่ยังไม่ปรับแต่งเพิ่มเติม จะเห็นว่าภาพที่ได้เหมือนกัน (ดูจาก Graph Histogram จะเห็นว่าก้อนกราฟฝั่งขวามืออยู่เลยแนวขวาสุดของ Histogram นั่นหมายความว่ามีบางส่วนของภาพที่เป็นสีขาวสนิทไม่มีรายละเอียด)
** Click บนภาพเพื่อดูภาพใหญ่ครับ
ภาพตัวอย่างที่สอง ผมพยายามปรับลดแสงของไฟล์ JPG ให้ลดลง แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้รายละเอียดส่วนสว่างกลับคืนมาได้
ภาพตัวอย่างที่สาม ผมปรับค่า exposure (มีให้ปรับเฉพาะไฟล์ RAW) ลดลงเล็กน้อย จะเห็นได้ว่าแท่งกราฟด้านขวามือกลับเข้าอยู่ใน Histogram ทั้งหมด ทำให้รายละเอียดต่าง ๆ ในส่วนของก้อนเมฆกลับคืนมา หลังจากนั้นก็ปรับแต่ง curve เพิ่มเติมเล็กน้อยเพื่อให้ได้ภาพที่มีสีอิ่มขึ้น
จากตัวอย่างข้างต้นคงพอให้เพื่อน ๆ ได้เข้าใจมากขึ้นถึงอีกหนึ่งเหตุผลที่เราต้องใช้ไฟล์แบบ RAW นะครับ โดยเฉพาะสถานการณ์ที่ในภาพนั้นมี contrast ที่สูงหรืออยู่ภายใต้แสงอื่น ๆ ที่ไม่ใช่แสงธรรมชาติ ซึ่งผมจะยกตัวอย่างให้ดูในโอกาสต่อไปครับ