รีวิวทั้ง 9 ตอนของทริปนี้
- เยือนดินแดนแห่งปราสาทในเทพนิยาย
- เมืองงามแห่งแม่น้ำ inns และถนนสายงามแ่ห่ง Austria
- อยากให้เวลาเดินช้าลง… ที่ Hallstatt
- สัมผัสเมืองมรดกโลก … Cesky Krumlov
- ลมหายใจแห่ง “ปราก”
- Karlovy Vary เมืองนี้สีลูกกวาด
- Rothenburg ในวันฝนพรำ
- มิวนิค สีสันแห่งเยอรมัน
- บทสรุปท่องเที่ยว-ถ่ายภาพ เยอรมัน-ออสเตรีย-เช็ก
– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –
ตอนที่แล้วเราออกเดินทางจากเมือง Karlovy Vary ของสาธารณรัฐเช็ก และแวะชมเมือง Nuremberg โดยมีจุดหมายคือเมืองเล็ก ๆ อันเก่าแก่อีกหนึ่งเมือง นั่นคือ Rothenburg หรือจะเรียกเต็ม ๆ ว่า Rothenburg ob der Tauber หมายถึง Rothenburg แห่งแม่น้ำ Tauber นั่นเอง ทั้งนี้เพราะมีเมืองชื่อเีดียวกันอยู่ในเยอรมันอีก จึงต้องมีชื่อแม่น้ำกำกับไว้ด้วยว่าเป็นเมือง Rothenburg ของแม่น้ำ Tauber นะ ไม่งั้นจะหลงไปแถว ๆ Dresden ซึ่งห่างออกไปทางตะวันออกโน่น … หากจะหาตำแหน่งเมืองนี้ใน Google แนะนำให้ใช้ชื่อเต็มนะครับ ไม่งั้นมีหวังไปผิดทาง 🙂
อันที่จริงเรามาถึงเวลาค่ำแล้ว แต่อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่าในฤดูนี้กว่าท้องฟ้าจะมืดก็เกือบสี่ทุ่ม หลังจาก check in ที่บ้านคุณป้า Karin เจ้าของบ้านแสนน่ารัก Haus Karin ที่เราพักคืนนี้แล้ว ผมก็พาเพื่อน ๆ เดินลัดเลาะผ่านเส้นทางเล็ก ๆ เข้าสู่เมือง Rothenburg เพื่อชมบรรยากาศยามค่ำและหาอะไรทานกัน … คงเป็นเพราะฝนเพิ่งจะหยุดตกทำให้อากาศเย็นกว่าวันอื่น ๆ ที่ผ่านมา ทำให้การเดินเข้าเมืองของเราทรมานพอสมควร …
ที่พัก Rothenburg – Haus Karin เป็นบ้านที่เจ้าของแบ่งห้องให้เช่า ต้องใช้ห้องน้ำรวมกับห้องที่อยู่ชั้นเดียวกัน (แต่ละชั้นมีเพียง 2-3 ห้อง) สำหรับ group ผมก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะพวกเราเหมาเกือบทั้งหลัง อิอิ ห้องน้ำชั้นบนจะแคบหน่อย แต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีเบียร์เย็น ๆ ใก้กินฟรีไม่จำกัด อาหารเช้าก็ถูกเตรียมอย่างตั้งอกตั้งใจโดยคุณป้าที่มีอารมณ์ัขันระดับสุดยอด เสียดายที่ไม่มี WIFI ให้ .. จากตัวบ้านซึ่งตกแต่งอย่างน่ารักใช้เวลาเดินเข้าเมืองเก่า Rothen burg ประมาณ 10 นาที ก็ไม่ได้ไกลมากครับ ผมคิดว่าดีกว่าการขับรถเข้ามาแล้วต้องหาที่จอดซึ่งหายากหรือไม่ก็ต้องเสียค่าจอด
จากบ้านคุณป้า Karin ใช้เวลาเดินแบบสบาย ๆ ไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงเขตเมืองเก่า ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนเพราะมีกำแพงรายล้อมเมืองแห่งนี้อยู่ พอเข้าเขตด้านในก็จะพบกับบ้านเรือนแบบดั้งเดิมที่มีหลังคาทรงสูงดูน่ารัก คล้าย ๆ กับ Cesky Krumlov แต่มีลวดลายการตัดเส้นตรงจั่วและผนังบ้านด้วยสีโทนน้ำตาลหรือแดงเข้มที่ทำให้ดูแตกต่าง… เป้าหมายของเราตอนนี้คือหาอะไรทานกันเพราะหิวมากแล้ว และดูเหมือนร้านค้าบริเวณนี้จะปิดกันเกือบหมด ทันทีที่เราเจอร้านอาหารร้านแรกก็เลยตกลงใจว่าจะทานกันที่นี่ … ระหว่างรออาหาร ผมถือโอกาสเดินออกไป survey และเก็บภาพแสงตอนท้องฟ้ากำลังเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน ได้บรรยากาศคลาสสิคไปอีกแบบ
ค่ำนั้นเราทานอาหารกันโดยเลือกเมนู Pizza กับไส้กรอก รสชาติก็ถือว่า OK ครับ แต่พ่อค้าเจ้าของร้านดูจะดุหน่อยแถมขอจานแบ่งก็ไม่ได้ เพราะเราสั่งแค่ 4 อย่างแต่มา 8 คน ก็เลยต้องแบ่ง ๆ กันทาน เขาคงไม่เคยชินกับวัฒนธรรมการทานอาหารแบบ sharing เหมือนบ้านเรา หรือไม่ก็ขี้เกียจล้างจาน หุหุ
หลังจากทานอาหารเสร็จเราก็เดินกลับบ้านพักและหลับสบายในห้องที่แสนจะอบอุ่น …
เช้าวันรุ่งขึ้นเราทานอาหารกันที่บ้านคุณป้า Karin ผู้มากด้วยอารมณ์ขัน อาหารเช้าเธอเรียกว่าเป็น Royal Breakfast ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ เพราะมีหลากหลายมาก ๆ โดยมีคุณป้าคอยดูแลและให้คำแนะนำวิธีการทานอาหารที่เราไม่คุ้นเคย … หลังอาหารเช้าคุณป้าก็อธิบายเรื่องจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ ในเมืองแบบคร่าว ๆ และมอบแผนที่ให้เราติดมือไปด้วย …
เราเดินบนเส้นทางเดินที่ใช้เมื่อคืนก่อนหน้า แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะลำบากกว่าเพราะมีฝนตกปรอย ๆ ทันที่ที่เข้าเขตเมือง เราจึงขึ้นไปเดินบนกำแพงเมืองซึ่งมีหลังคาปกคลุม การเริ่มชมเมืองของเราวันนี้จึงเป็นการชมวิวจากมุมสูง อิอิ
ผมกับเพื่อน ๆ เดินบนแนวกำแพงเมือง สลับกับเดินลงด้านล่างบ้างเพื่อแวะไปยังจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อาทิ โบสถ์ใหญ่ประจำเมือง และที่สำคัญหอคอยซึ่งสามารถชมวิวของเมืองได้แบบ 360 องศาในมุมสูง … ใครไปเมืองนี้ผมแนะนำให้ขึ้นหอคอยนะครับ วิวสวยมาก เสียดายที่ผมถ่ายภาพได้น้อยเพราะฝนตกค่อนข้างหนักและลมแรง เกรงว่าเจ้ากล้องตัวเก่งจะพังซะก่อน … แต่สำหรับคนที่กลัวความสูงหรือมีปัญหาเรื่องการเดินก็ไม่แนะนำนะครับเพราะทางขึ้นค่อนข้างแคบและชันในช่วงหลัง โดยเฉพาะจุดสุดท้ายที่้ต้องปีนกะไดชัน ๆ ออกไปชมวิว … และไม่ต้องงงที่ทางเข้าเขียนว่าต้องจ่ายเงินแต่ไม่มีเคาเตอร์เก็บเงิน ทั้งนี้เพราะเขาไปเก็บบนยอดหอคอยเลยครับ รับรองได้ว่าได้เสียตังค์แน่ไม่ต้องห่วง 555
ตึกสวย ๆ ในเมือง
วิวจากหอคอยกลางเมือง ถ้าฝนไม่ตกวิวคงสวยกว่านี้มาก
ลงจากหอคอยแล้วเราก็เดินชมเมืองกันต่อ ซึ่งดูเหมือนสาว ๆ ของเราจะผิดหวังกันพอสมควรเพราะร้านรวงต่าง ๆ ที่ขายของที่ระลึกพากันปิดเกือบหมด เพราะเป็นวันอาทิตย์ .. มีให้เห็นก็เพียงของที่วางโชว์ในตู้กระจก ซึ่งต้องยอมรับว่าของที่ระลึกของที่นี่น่ารักจริง ๆ ถ้าร้านเหล่านี้เปิดผมคงต้องนอนที่นี่อีกคืนเพื่อให้สาว ๆ ได้เลือกช็อปปิ้งเป็นแน่แท้ อิอิ
่เดินไปได้ไม่นานนักฝนก็เริ่มตกอีก เราจึงต้องอพยพขึ้นสู่กำแพงเมืองอีกครั้ง และเดินไปจนเกือบจะวนครบรอบจึงได้ลงมาถ่ายภาพกันข้างล่างอีกครั้ง …
สรุปแล้วทัวร์เมือง Rothenburg ของเราจึงอยู่บนกำแพงเมืองเสีย 60-70% แต่นั่นก็เพียงพอให้เราได้อิ่มเอมกับความน่ารักและโรแมนติกของเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ ที่ดูเหมือนจะยังคงรักษาความดั้งเดิมไว้ได้อย่างเหนียวแน่น
เราเดินกลับบ้านพักเพื่ออำลาคุณป้า Karin และมุ่งหน้าสู่จุดหมายสุดท้ายของทริปนี้ “Munich” … คอยติดตามตอนต่อไปครับ
อ่านในเวปพันทิป อยากขอคำแนะนำแบบคุณrapin เรื่องการเช่ารถ และค่าน้ำมัน ตามทริปเยอรมัน ออสเตรีย เช็ค ที่ว่า 9 วัน น่ะครับ เห็นว่าไป 8-9 คน ผมจะไปกัน 4 คน กำลังวางแผนเรื่องจับรถไปโน่นนี่ เข้ามาเจอรีวิวของคุณน่าสนใจสุด เพราะชอบถ่ายภาพอยู่ ปัญหาคือไม่มั่นใจในหลายๆเรื่อง(เรื่องขับรถนั่นแหละครับ) ทั้งกฎจราจร สภาพตำแหน่งนั่งในห้องโดยสารของคนขับ ฯลฯ เอาเป็นว่าถามประดับความรู้ไว้ก่อนละกันครับ ขอบคุณครับ ตอบทางเมล์ก็ได้ครับ
สวัสดีนะคุณมด ชอบการถ่ายภาพ สีสวยดูเป็นธรรมชาติมาก และการเล่าเรื่องประกอบการเที่ยวได้น่าประทับใจจนอยากตามรอยการเที่ยวของคุณมดบ้าง รบกวนขอคำแนะนำเรื่องการเช่ารถ เส้นทางการขับรถ โรงแรมที่พักด้วยนะคะ วางแผนเดินทางวันที่18ต.ค-29ต.ค2514 ทางอีเมล์ rapin_term@yahoo.com ขอบคุณมากนะคะ ที่สละเวลาส่งให้
9MOT-ส่งรายละเอียดไปทาง mail แล้วนะครับ
คุณมดคะ รบกวนขอถามเพิ่มอีกนิดนึง คือทริปนี้ไปกัน2คน ตอนแรกกะจะนั่งรถไฟ แต่เห็นรูปถ่ายคุณมดแล้วอยากขับรถเที่ยวดูบ้าง ขอคำแนะนำด้วยค่ะว่านั่งรถไฟเที่ยวหรือขับรถดีกว่ากัน แต่ขอรายละเอียดการจองรถ โรงแรม และแผนที่เส้นทางขับรถของคุณมดด้วยได้มั้ยคะ ตอนนี้เครียดที่ยังทำทริปไม่เสร็จเลยอีกเดือนเดียวจะเดืนทางแล้วด้วย คืองานยุ่งมากน่่ะค่ะไม่มีเวลานั่งศึกษาเลย
รบกวนคุณมดด้วยค่าา
ออม
ขอบคุณมากครับ … แต่ตอนนี้ผมไม่ได้ทำ link เพิ่มครับ ต้องขออภัยด้วย
รูปสวยมากครับ
ถ่ายเองเลยเหรอครับ
มาให้กำลังใจด้วยคนครับ
ถ้าอยากเป็นเพื่อนบ้านด้วยต้องทำไงครับ
เวปผมนะครับ http://www.besttripthailand.com
สนใจเป็นเพื่อนบ้านกันติดต่อกลับนะครับ หรือฝากเม้นท์ไว้ก็ได้ครับ
ขอบคุณมากครับ
อ่านทุกตอน ประทับใจทุกตอน รูปสวยมากๆๆๆๆ
แก้ email ใหม่แล้วค่ะ
โปรแกรมคร่าวๆ เหมือนของคุณมดเลยค่ะ เพียงแต่เพิ่มเวียนนาเข้าไปอีกสองวัน
ไปทั้ salburg Fussen และ nuremberg เลย อิอิ
9MOT – ขอบคุณครับที่แวะเข้ามาเยี่ยมชม ผมตอบไปทาง mail แล้วเด้งกลับ ส่งสัย e-mail ที่ให้มาจะไม่ถูกต้อง ขอ copy มาไว้ตรงนี้เลยนะครับ
สำหรับคำถามที่ถามมาเรื่องเลือกเมืองนั้นตอบยากมากเลย เพราะขึ้นกับว่าเมืองอื่นๆ ที่ไปเที่ยวเป็นเมืองอะไรมีลักษณะแบบไหนบ้าง ถ้าคล้ายกันจะได้เลือกตัดที่มีลักษณะคล้ายกันออก สำหรับผมแล้วชอบธรรมชาติแถว ๆ Bavaria ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Innsbruck แต่ในตัวเมือง Innsbruck นั้นผมไม่ได้ประทับใจมาก … ส่วนเมือง Rothenburg นั้นน่ารักน่าเดิน และสงบดีครับ ตัวเมืองดูเป็นเอกลักษณ์และเก่าแก่ดี ไม่ค่อยวุ่นวายเหมือน Innsbruck … หากในโปรแกรมมีเมืองพวก Salzburg หรือ Fussen อยู่แล้วผมจะตัด Innsbruck ออกเพราะศิลปะมีความคล้ายคลึงกัน … แต่ถ้าในโปรแกรมมี Nuremberg อยู่แล้วผมจะตัด Rothenburg ออก … ยังไงลองส่งโปรแกรมให้ดูก็ได้ครับ
รูปที่มีพระจันทร์สวยมากเลยค่ะ
ถ้าให้เลือกแวะได้เมืองนึง ระหว่างเมืองนี้กับ innbruck คุณมดเลือกเมืองไหนคะ
กำลังจัดโปรแกรมอยู่ค่ะ วันไม่พอต้องตัดออกเมืองนึง เลือกไม่ถูก ^_^