ระหว่างช่วงสิ้นปีต่อต้นปีแบบนี้ ท้องฟ้าของจังหวัดชายฝั่งอันดามันมักจะแจ่มใสเป็นพิเศษ และแน่นอนว่าเป็นช่วงที่ทะเลใสมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจที่วันนี้ “นายมด” จะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวทะเลกันอีกแล้ว หลังจากเพิ่งพาไปสำรวจทะเลพม่ามาสด ๆ ร้อน ๆ แต่รีวิวนี้พาไปเที่ยวที่ “เกาะราชาใหญ่” (หรือบางคนเรียก “รายาใหญ่”) ใกล้ ๆ ภูเก็ตนี่เอง … แต่ทริปนี้พิเศษหน่อยเพราะผมจะนำโดรนไปเก็บภาพทางอากาศ และเอา Go pro ลงไปบันทึกภาพใต้น้ำ รับรองว่าเพื่อน ๆ จะได้ชมความสวยงามของ “เกาะราชาใหญ่” ครบทุกองศาเลยทีเดียว
ไปเกาะราชารอบนี้เป็นทริปกึ่งทำงานกึ่งเที่ยว เพราะเพื่อนที่โรงแรมรายาบุรีรีสอร์ท ซึ่งตั้งอยู่บนหาดสยาม หนึ่งในสองหาดสวยของเกาะราชาอยากได้ภาพของรีสอร์ทไว้สำหรับงานประชาสัมพันธ์ ก็เลยชวนผมไปเป็นเหยื่อ เอ้ย! ชวนผมไปพักผ่อนแล้วให้ช่วยถ่ายภาพให้หน่อย … ไอ้เราก็คนใจง่ายตกปากรับคำไปแม้สีผิวจะยังไม่คืนตัวจากทริปทะเลพม่าก็เถอะ
รีวิวนี้ก็เลยถือโอกาสนำภาพบรรยากาศสวย ๆ ของเกาะราชาในฤดูกาลท่องเที่ยว พร้อมกับแนะนำโรงแรมรายาบุรีไปด้วยในตัว เผื่อเพื่อน ๆ จะได้มีตัวเลือกที่มากขึ้นหากต้องการมาพักผ่อนค้างคืนบนเกาะราชา … หลายคนอาจวางแผนเที่ยวเกาะราชาแบบ day trip แต่หากมีเวลาผมอยากแนะนำให้พักค้างคืนที่นี่อย่างน้อย 1 คืน เพราะช่วงเช้าและเย็นของวันจะเป็นช่วงปลอดนักท่องเที่ยว (แบบ day trip) เราจะได้ซึมซับกับบรรยากาศของเกาะสวยแห่งนี้อย่างเต็มที่ครับ
วันเดินทางเราใช้บริการ speed boat ของรายาบุรี ซึ่งต้องไปขึ้นเรือที่หน้าสำนักงานของรีสอร์ทใกล้ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง โดยผมนั่งเรือรอบบ่ายที่ออกจากฝั่งราวบ่าย 2 โมงเศษ และใช้เวลาราว 45 นาทีก็ถึงเกาะราชา
สำนักงานของรายาบุรีบุรีรีสอร์ทที่ท่าเรือ
วันนี้อากาศดีแต่มีลม การเดินทางจะต้องเผชิญคลื่นหน่อย ใครไม่อยากโดนกระแทกแนะนำให้เลือกที่นั่งแถวหลัง
ตลอดการเดินทางต้องสวมชูชีพเพื่อความปลอดภัยครับ
เนื่องจากอยู่ในช่วงน้ำลงและมีลมแรง เรือจึงมาเทียบท่าที่อ่าวปะตกซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรม The Racha …
บรรยากาศที่อ่าวปะตก ค่อนข้างจะหนาแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยว … แต่น้ำทะเลนั้นสวยงามตามแบบของราชา
แต่วันนี้เราจะไปพักอีกหาดที่อยู่ติดกันครับ โดยมีรถไถจาก Rayaburi มารอรับอยู่แล้ว ใช่แล้วครับผมไม่ได้พิมพ์ผิด เรานั่งรถไถดัดแปลงพิเศษจากท่าเรือไปรีสอร์ทได้บรรยากาศ getaway มาก ๆ … โดยเฉพาะผู้โดยสารชาวต่างชาติถ่ายภาพกันอย่างสนุกสนานทีเดียว
นั่งรถมาได้แป๊ปเดียวก็ถึงรายาบุรี รีสอร์ทซึ่งบริเวณต้อนรับก็อยู่ติดหน้าหาดสวย ๆ ของอ่าวสยามเลย … ลักณะพิเศษของอ่าวสยามคือน้ำใสมาก (ผมว่าทุกฤดูเลยนะ) ทะเลไล่โทนสีตั้งแต่ฟ้าอมเขียวอ่อนๆ บริเวณน้ำตื้น ถัดลงไปเป็นสีเขียวเข้มขึ้นมาหน่อยเพราะเป็นบริเวณที่มีโขดปะการัง และสุดท้ายเป็นสีครามเข้มในส่วนที่เป็นน้ำลึก
ครั้งนี้ห้องพักของผมเป็นห้องที่ตึกชิโนซึ่งเป็นตึกใหม่สุดของรีสอร์ทแห่งนี้ … ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นสไตล์ชิโนล้อกับความเป็นภูเก็ต แต่พิเศษหน่อยก็ตรงถูกนำมาอยู่บนเกาะใกล้ทะเลนี่แหละ … ในส่วนของห้องนอนนั้นกว้างขวางสะดวกสบายครับ เตียงใหญ่ฟูกหนานุ่มกำลังดี และมีอ่างอาบน้ำด้วย
สำหรับรายาบุรี บอกตามตรงว่าผมเองแปลกใจกับ layout ของรีสอร์ทแห่งนี้พอสมควรครับ เพราะพื้นที่หน้าหาดเยอะมาก แต่ทางรีสอร์ทเลือกที่จะสร้างห้องพักถัดเข้าไปด้านใน และปล่อยบริเวณส่วนกลางให้เป็นสวนมะพร้าวและพรรณไม้ท้องถิ่น บริเวณหน้าหาดมีเพียงร้านอาหาร กับห้องพักไม่กี่หลังที่ถูกสร้างไว้ก่อนหน้านี้ .. แต่นี่เป็นข้อดีอย่างมากคือทำให้รู้สึกว่ามาพักที่นี่แล้วไม่อึดอัด เพราะมีพื้นที่สีเขียวเยอะมาก เดินมาก็เห็นทะเลเลยไม่มีตึกสูง ๆ มาบดบังวิว ส่วนการเดินจากห้องลงมาหาดก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะเดินแค่ 2 นาทีก็ถึงแล้ว ถ้าเป็นโรงแรมอื่นคงจัดแจงสร้างที่พักสูง ๆ ริมหาดแน่ ๆ
เย็นวันนี้ผมมีนัดไปลองดำน้ำแบบ Scuba ซึ่งถือเป็นครั้งแรกหลังจากสอบ PADI เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว … เดิมทีผมคดว่าการไม่มีบัตรจะไม่สามารถดำน้ำได้ ผมก็เลยไม่เคยสนใจสอบถามเรื่องการดำ Scuba อีกเลยหลังจากบัตรหายไป … แต่มาทราบว่าที่ Aqua Raya บนเกาะราชาจะมีคอร์ส สำหรับผู้เริ่มต้นให้ทดลองดำน้ำได้เช่นกัน ผมเลยไม่ลังเลที่จะขอทดลองดูเพราะอยากใกล้ชิดกับโลกใต้น้ำมากกว่าที่เคย … ซึ่งครั้งนี้มีเพื่อนร่วมทริปเป็นชาวต่างชาติที่ไม่เคยดำ Scuba ไปทดลองด้วย
ในขั้นตอนการเตรียมตัว ครูผู้ฝึกจะอธิบายเรื่องการใช้อุปกรณ์และความปลอดภัยคร่าว ๆ จากนั้นจึงพาเราไปยังจุดดำน้ำ ซึ่งจะเลือกบริเวณที่น้ำลึกน้อยกว่า 10 เมตร เพื่อป้องกันอันตรายจากการน็อคน้ำในกรณีที่เกิด panic พรวดพลาดขึ้นจากน้ำทันทีทันใด
แม้วันนี้อากาศจะดีมากแต่ลมค่อนข้างแรงทำให้การลงน้ำทุลักทะเลพอสมควรเพราะคลื่นกระแทกตลอด แต่หลังจากลงใต้น้ำสักพักก็เริ่มปรับตัวได้ เพราะคลื่นด้านล่างก็ไม่แรงมากนัก … ครูฝึกซักซ้อมทำความเข้าใจและทบทวนเรื่องความปลอดภัยพื้นฐานอีกเล็กน้อยที่ระดับความลึกราว 3-4 เมตร ก่อนจะค่อย ๆ นำเราไปสำรวจโลกใต้น้ำกันแบบใกล้ชิด … การดำน้ำรอบนี้ทำให้เกิดแรงบันดาลใจอยากเข้า course scuba หรือไม่ก็ฝึก skin แบบดำลงมาใต้น้ำได้นาน ๆ อีกครั้ง เพราะมุมมองจากบนผิวน้ำกับลงมาสัมผัสใกล้ ๆ นี่มันต่างกันมาก โดยเฉพาะคนที่ชอบถ่ายภาพใต้น้ำ ได้ลงเอากล้องมาจ่อใกล้ ๆ จะทำให้ได้ภาพที่สีสันดีกว่ามากทีเดียว …
เนื่องจากเป็นช่วงเย็นแล้ว แสงจึงค่อนข้างน้อย ภาพออกมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่
สำหรับปะการังและปลาที่เกาะราชานั้นก็ยังมีให้ชมอยู่พอสมควรทีเดียว (อย่าลืมดูใน VDO ตอนท้ายนะครับ) เชื่อว่าจุดที่อยู่ลึกลงไปคงต้องสมบูรณ์กว่านี้แน่ ๆ แต่คงต้องรอให้สอบดำน้ำใหม่ผ่านก่อนจึงค่อยลงไปลึกในระดับนั้นเพื่อความปลอดภัย …
ขึ้นจากฝั่งก็ไม่รอช้ารีบบึ่งกลับไปเก็บบรรยากาศยามเย็นที่รีสอร์ทอีกรอบ …
ช่วงเทศกาลแบบนี้ทางรีสอร์ทประดับประดาห้องอาหารด้วยไฟระยิบระยับได้บรรยากาศไปอีกแบบ
อาหารมื้อค่ำที่ห้องอาหาร รสชาติอร่อยดีครับ seafood สดทุกเมนู
ชมดาวก่อนนอน คืนนั้นดาวเยอะจริง ๆ
แวะถ่ายภาพ Fitness กับ Kid club ก่อนเข้านอน
เช้าวันรุ่งขึ้นผมตื่นมาเก็บบรรยากาศตอนเช้าตรู่ แต่สภาพอากาศไม่ค่อยเป็นใจเพราะเมฆเยอะมาก … ผมถ่ายภาพไปเรื่อย ๆ และถือโอกาสทานอาหารเช้าไปด้วยในตัว …
ห้องอาหารเข้าอยู่หน้าหาดเลย จะทานด้านใน หรือนำออกมาทานที่โต๊ะริมหาดก็ได้
เรื่องอะไรจะทานด้านในล่ะ ริมหาดสิครับ …. บรรยากาศริมทะเลเช้า ๆ นี่มันสดชื่นจริง ๆ ที่สำคัญดูเหมือนอากาศจะดีขึ้นตามลำดับ
ช่วงสายของวันฟ้าเปิดเต็มที่ นอกจากเก็บภาพบรรยากาศสวย ๆ เพิ่มเติมแล้ว ผมกับเพื่อนจึงนำโดรนขึ้นบินเพื่อเก็บภาพจากทางอากาศ และก็ไม่ผิดหวังครับ น้ำและฟ้าเป็นใจมาก ๆ และภาพเหล่านี้นี้ยืนยันได้เลยว่าทะเลของเกาะราชาสวยไม่แพ้เกาะอื่น ๆ ของอันดามันเลย
ภาพทางอากาศจากโดรน
บ่าย 3 โมงได้เวลาที่เราต้องกลับกันแล้ว นับเป็นการมาเยือนราชาที่ประทับใจอีกครั้งแถมได้มุมมองใหม่ ๆ เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นจากบนฟ้าและสัมผัสโลกใต้น้ำแบบใกล้ชิดกว่าเคยอีกด้วย
สรุปทริปประทับใจนี้ด้วย VDO ของทริปนี้ ชมจบแล้วอย่าลืม subscribe channel ของ 9Mot ด้วยนะครับ 🙂
แถมอีกหน่อย ผมขอลงภาพบางส่วนของห้องพักที่รายาบุรีและความคิดเห็นจากการเข้าพักไว้ให้เพื่อน ๆ ใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจครับ
Chino Poolside room (อันนี้เป็นห้องที่ผมพักครับ) ห้องใหม่ กว้างขวางดี ตกแต่งสวยงาม มีอ่างอาบน้ำ, ระเบียง อยู่ใกล้สระว่ายน้ำและฟิตเนส ห่างจากชายหาดราว 200 เมตร
Garden Deluxe room อยู่ในอาคาร 2 ชั้น ห้องกว้างขวาง ตกแต่งเรียบ ๆ แบบไทยประยุกต์
Garden Superior room เป็นห้องโล่ง ๆ ค่อนข้างกว้างทีเดียว ตกแต่งแบบธรรมดา ราคาประหยัด เดินไปหาดก็แค่ 2 นาทีเหมือนกัน
Pool Side Villa อารมณ์บ้านพักตากอากาศ ตกแต่งแบบไทยประยุกต์ มีสองชั้นขนาดสระว่ายน้ำ (2 หลังใช้สระร่วมกัน) ที่นี่จะเป็นส่วนตัวหน่อย มี living room, ครัวเล็ก ๆ และห้องนอนขนาดใหญ่บนชั้นสอง น่าจะเหมาะกับคู่ฮันนีมูนเป็นพิเศษ
Beach Front Room เป็นห้องพักเพียงไม่กี่หลังที่อยู่หน้าหาด ตกแต่งสไตล์บังกะโลริมทะเล มีโซน shower outdoor ด้วย
Beach Front Villa มีเพียงหลังเดียว อยู่หน้าหาดเช่นกัน นอกจากห้องนอนแล้วยังมีส่วน living area และ plunge pool เล็ก ๆ ด้วย … ตกแต่งด้วยโทนสีขาว และเฟอร์นิเจอร์สไตล์ไทยผสมจีน เป็นอีกห้องพักที่เหมาะกับคู่ฮันนีมูน
สิ่งที่ผมชอบ
- หาดด้านหน้าสวยมาาาาาก มากี่ครั้งก็ยังสวยและไม่พลุกพล่านนัก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับหาดปะตก
- มีพื้นที่สีเขียวและสวนมะพร้าวเยอะเป็นธรรมชาติ และไม่มีตึกสูงหน้าหาด ทำให้ไม่บังวิวทะเล
- ห้องพักทุกประเภทของที่นี่กว้างขวางมาก ไม่อึดอัด
- พนักงานเป็นกันเอง และให้ความช่วยเหลือดี
ข้อสังเกตุ
- น้ำในห้องพักจะค่อนข้างกระด้าง ไม่แน่ใจว่าเป็นในทุกฤดูกาลหรือไม่
- เฟอร์นิเจอร์และของประดับบางส่วนอาจมีการเสียหายจากการใช้งานและสภาพอากาศบนเกาะบ้าง
- งานดีไซน์ห้องพักและของตกแต่งอาจดูไม่เตะตานัก แต่ก็สะอาดและเป็นระเบียบดีครับ