เช้าตรู่ปลายเดือนเมษาปี 2009 ผมเดินทางถึงกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย … เป็นการสัมผัสยุโรปครั้งแรกในชีวิตของผม อะไรๆ รอบตัวก็ดูสวยไปหมด ทั้งภาพเขียนบนกำแพงที่ดูเลอะๆ ตู้ไปรษณีย์ที่เปรอะด้วยคราบไคล ดอกหญ้า อารมณ์ตอนนั้นแม้แต่นกพิราบผมยังรู้สึกว่ามันน่ารักกว่าตามวัดบ้านเราซะอีก …
เราเริ่มโปรแกรมเที่ยวสำหรับเช้าวันแรกที่ schoenbrunn palace ผมถูกสะกดตั้งแต่ทางเข้า เพราะพระราชวังแห่งนี้มันยิ่งใหญ่อลังการจริงๆ อีกทั้งต้นไม้โดยรอบก็กำลังอวดดอกของมันต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ … ทุกอย่างรอบตัวมันดูสวยงามไปหมด …
แต่แล้วเหมือนมีใครปรบมือเสียงดังข้างหูตอนกำลังเคลิ้มหลับฝันหวาน … เหรัญญิกประจำกลุ่มของพวกเราโดนล้วงกระเป๋า เงินทั้งหมดสำหรับทริปนี้ของเพื่อนคนนั้นหายเกลี้ยง ยังดีที่เงินส่วนกลางไม่ได้ถูกขโมยไปด้วย … ตำรวจที่อยู่ตรงนั้นทำหน้าเฉยเหมือนเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นทุก 32 นาทีตอนเราเร่เข้าไปขอความช่วยเหลือ พร้อมชี้นิ้วให้เดินไปแจ้งความที่สถานีตำรวจหลังพระราชวังอย่างไม่ยินดียินร้าย
ความรู้สึกตอนนั้นมันบอกไม่ถูก สงสารเพื่อน กังวล สับสน เครียด … เราเดินไปแจ้งความตามคำแนะนำและเพื่อนก็โทรกลับเมื่องไทยเพื่ออายัดบัตรเครดิตทั้งหมด … ลานดอกไม้ระหว่างทางไปยังสถานีตำรวจไม่สวยเหมือนเมื่อชั่วโมงก่อนหน้าซะแล้ว
เราตกลงปรับโปรแกรมกันใหม่เล็กน้อย เพื่อให้แน่ใจว่าเงินทั้งหมดของพวกเราที่มีอยู่จะสามารถอยู่ได้จนจบทริป … ในขณะที่ใจผมกำลังว้าวุ่นในฐานะหัวหน้ากลุ่ม เพื่อนที่โดนล้วงกระเป๋ากลับเดินหน้าเก็บภาพรอบตัว ยิ้มแย้ม และทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น … ใช่ครับ ผมเชื่อว่าลึกๆ เธอก็คงเสียใจไม่น้อย แต่ทั้งหมดก็เพื่อให้เพื่อนๆ คนอื่นสบายใจ … และมันก็ได้ผล ผมเองก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้น แม้เราต้องตัดโปรแกรมเข้าชมภายในพระราชวังออกไป แต่ก็ยังประทับใจกับสวนภายนอกมาก
สิ่งที่ผมจะบอกคือ เราโดนรับน้องอย่างจังในวันแรกของการเดินทาง … หากวันนั้นเรามัวแต่ทุกข์ใจกับสิ่งที่แก้ไขอะไรไม่ได้ นอกจากเสียเงินไปแล้ว เราจะสุญเสียช่วงเวลาดีๆ ในชีวิตไปอีกมากมาย
เราห้ามสิ่งแย่ๆ ในชีวิตไม่ให้เกิดกับเราไม่ได้ แต่เราสามารถเลือกที่จะปล่อยวาง และมีความสุขกับปัจจุบันได้ … นี่แหละคือรสชาติของการเดินทาง