Advertorial สำหรับช่างภาพแล้วมี Solution สำหรับการ backup ข้อมูลอยู่ด้วยกันหลายวิธี แต่ละแบบก็มีข้อดีและข้อจำกัดต่างกันไป … สำหรับผมเองมักจะ backup ภาพจาก SD card ลง external harddisk แบบพกพาเป็นลำดับแรก เพราะมักจะนำติดตัวไปทุกทริป … แต่เมื่อกลับมาบ้านแล้ว ก็จะทำการจัดระเบียบไฟล์ให้เรียบร้อยก่อนจะสำรองข้อมูลภาพและ VDO ลงใน NAS ซึ่งเชื่อมต่อผ่านระบบเครือข่ายภายในบ้าน
แม้ว่า NAS จะมีข้อดีมากมาย แต่ข้อจำกัดหลักคือความเร็วในการทำงานน้อยเมื่อเทียบกับการต่อ Harddisk โดยตรงกับเครื่อง laptop เนื่องจากการจัดเก็บข้อมูลของ NAS นั้นต้องอ้างอิงสิทธิ์การใช้งานไฟล์ด้วย ทำให้การอ่านและเขียนข้อมูลต้องอาศัยเวลามากกว่าการเชื่อมต่อตรงๆ ผ่าน port USB แบบ external harddisk
ดังนั้นหากต้องการความรวดเร็วในการอ่านเขียนข้อมูล อาทิการตัดต่อ VDO หรือการแต่งภาพที่จัดเก็บไว้ภายนอกเครื่อง การใช้ external harddisk ดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่เหมาะกว่า ในกรณีของผมเจ้าตัว Seagate Backup Plus จึงน่าจะทำหน้าที่เป็นเหมือน buffer เพื่อทำงานก่อนที่จะโอนย้ายข้อมูลที่จัดการเสร็จแล้วไปเก็บใน NAS ที่มีระบบการรักษาความปลอดภัยสูงกว่า และสามารถเข้าถึงผ่าน interenet ได้จากทั่วโลก นอกจากนี้ Backup plus ยังเหมาะที่จะมาใช้ทำเป็น time machine drive ให้กับเครื่อง Mac ด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่ work flow ของแต่ละคน ซึ่งอันที่จริงแล้วสำหรับคนที่ยังไม่ใช้ NAS อาจใช้ Seagate Backup Plus ไว้เป็น Harddisk สำหรับสำรองข้อมูลก็ได้เช่นกัน
เอาล่ะเล่าเรื่อง work flow การทำงานไปแล้ว ทีนี้มาแกะกล่องเจ้า Seagate Backup Plus ดูดีกว่าว่ามีอะไรให้มาบ้าง
รอบๆ กล่องก็จะบอกขนาดความจุ 4TB ระบุการรับประกัน 3 ปี และมี Adobe Creative Cloud แบบ Photography Plan แถมมาให้ 2 เดือนเหมือนกับตัว external harddisk แบบพกพา (แต่ผมไม่ได้ลองเอามาลงทะเบียนเพราะส่วนตัวซื้อ Plan ตัวนี้ใช้อยู่แล้ว)
ด้านในกล่องก็จะเป็นตัว External Drive ที่แพ็คมาอย่างแน่นหนา body เป็นสีดำพื้นผิวแบบมันสลับด้าน ดูดีมีดีไซน์ตั้งบนโต๊ะแล้วมีสง่าราศีดี จะว่าไปขนาดเล็กกะทัดรัดและเบากว่าที่คิดพอสมควร
นอกจากนี้ก็เป็นสาย USB, adaptor พร้อมหัวปลั๊กแบบต่างๆ ที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ตามต้องการ เรียกได้ว่าเอาไปใช้ที่ไหนในโลกก็ได้
การใช้งานนั้นไม่ยุ่งยากเลย แค่เสียบ adaptor และเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านสาย USB ที่ให้มาเครื่องก็จะมองเห็น drive แล้ว ซึ่งระบบ file จะเป็นแบบ NTFS ของ windows ดังนั้นหากต้องการใช้งาน mac ร่วมกับ pc จะต้อง download โปรแกรมเสริมมาติดตั้งลงใน drive ก่อนเพื่อให้สามารถนำ Seagate Backup Plus ตัวนี้ไปใช้กับทั้งสอง OS
สำหรับ IOS ติดตั้งโดยใช้ icon ตัวสีเขียวซ้ายสุด ส่วน windows ก็ run file นามสกุล .exe ได้เลย
กรณีที่ต้องการใช้งานร่วมระหว่างเครื่องที่เป็น IOS และ Windows ต้อง download software มาช่วยจัดการระบบไฟล์ ซึ่งวิธีการไม่ยาก แค่ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอไปไม่กี่ขั้นตอน
เมื่อ Download เสร็จก็ทำการเรียกใช้งานเหมือนกับการติดตั้งโปรแกรมใน MAC ทั่วไป แค่นี้ drive ของเราก็พร้อมใช้งานสำหรับเก็บหรือสำรองข้อมูลแล้ว
มาลองดูว่าความเร็วในการเชื่อมต่อเป็นอย่างไรบ้าง
อย่างที่บอกข้างต้นครับว่า ความเร็วการเชื่อมต่อ drive ผ่าน USB โดยตรงนั้นสูงมากทั้งอ่านและเขียน สามารถใช้งานต่างๆ ได้อย่างสบายไม่มีการหน่วงเหมือนการเชื่อมต่อผ่านระบบเครือข่าย
อีกหนึ่งความสามารถของเจ้า Seagate backup plus ก็คือมีพอร์ต USB ด้านหน้าให้ 2 port ซึ่งสามารถใช้ในการชาร์จอุปกรณ์ USB อย่างกล้องหรือมือถือได้ด้วย … idea นี้ผมชอบนะ เพราะไหนๆ ก็ตั้งบนโต๊ะทำงานแล้ว สามารถชาร์จมือถือได้ด้วยก็สะดวกดี
ก็หวังว่าข้อมูลข้างต้นคงมีประโยชน์และช่วยในการตัดสินใจให้กับคนที่กำลังมองหา Solution สำหรับ backup ข้อมูลอยู่นะครับ ส่วนจะนำ Seagate Backup Plus มาใช้ในรูปแบบไหน อันนี้คงแล้วแต่ Work Flow ของแต่ละคนตามที่ผมได้เกริ่นไว้แล้วข้างต้น
ข้อมูลทางเทคนิคของ Seagate Backup Plus (อ้างอิงจากเวปไซต์ seagate.com)
