ปกติแล้วระหว่างทริปท่องเที่ยวเราไม่ค่อยได้ใช้มือถือในการถ่ายภาพมากนักเพราะมีกล้องใหญ่คุณภาพดีอยู่แล้ว แต่ปัจจุบันความสามารถในการถ่ายภาพของมือถือก้าวล้ำไปมาก และในหลายกรณีภาพที่ได้ออกมาสวยงามกว่ากล้องใหญ่โดยไม่ต้องไปแต่งเพิ่มเลย นี่จึงเป็นที่มาของการตามหามือถือที่เหมาะสำหรับสายท่องเที่ยวอย่างเรา
Honor Magic 5 pro คือมือถือที่เราตัดสินใจเลือกแทนตัวเก่าที่ใช้มา 3 ปีกว่าเนื่องจากดูรีวิวแล้วเชื่อมั่นว่าตอบโจทย์การใช้งานของเรา และราคาก็อยู่ในระดับที่คุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับเรือธงตัวอื่นๆ เพราะราคาขาย (ณ เดือนกันยายน 66) อยู่ที่ 29,900 บาท (พร้อมของแถม) ถูกกว่ามือถือเรือธงค่ายอื่นอยู่มากทีเดียว … สำหรับคนที่มีงบประมาณไม่สูง Honor ยังมีรุ่นอื่นที่กล้องดีราคาประหยัดกว่านี้เช่นกัน แต่ส่วนตัวแล้วเราจะใช้รุ่นเรือธงตลอดจึงตัดสินใจเลือกรุ่นนี้
Honor (ออเนอร์) เป็นแบรนด์มือถือจากจีนที่เคยทำงานร่วมกับ Huwei มาก่อนในการผลิตมือถือรุ่นที่มีจุดเด่นด้านการถ่ายภาพก่อนที่จะแยกตัวออกมาพัฒนาแบรนด์ของตัวเองอย่างเต็มตัวในปี 2020 จึงไม่ต้องแปลกใจที่กล้องในมือถือของ Honor จะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยไม่แพ้ค่ายดังทั่วโลก และตอนนี้ Honor กำลังเร่งขยายตลาดในประเทศไทย จึงให้ข้อเสนอแบบจัดเต็มมากทั้ง spec เครื่อง, ราคาและของแถมสุดคุ้มค่า
เราเลือกสีเขียวซึ่งจะเป็นแบบกึ่งด้านพรีเมียมมาก
ขนาดเครื่องค่อนข้างใหญ่ แต่ใช้สักพักก็ชิน
หลังจากได้นำไปใช้ในทริปใบไม้เปลี่ยนสีในยุโรปล่าสุด 33 วันจึงอยากเอาประสบการณ์ใช้งานจริงในมุมมองของนักท่องเที่ยวและช่างภาพมาเล่าให้ฟังโดยเน้นไปที่เรื่องของการถ่ายภาพจากหน้างานจริงเป็นหลัก เพราะข้อมูลด้านอื่นน่าจะหาได้จากรีวิวในอินเตอร์เน็ตครับ
การใช้งานกล้อง
กล้องหลัง (มี 3 ระยะ)
1x (27 ม.ม. เมื่อเทียบกับ full frame) ภาพที่ได้คมชัดมาก สีสันสดใสดูเป็นธรรมชาติ white balance ทำงานได้ดี และจัดการเรื่องความต่างของแสงได้อย่างลงตัว … ส่วนใหญ่เราจะกดที่หน้าจอค้างเพื่อล็อคโฟกัสแล้วย้ายสัญลักษณ์รูปพระอาทิตย์ไปยังจุดที่ต้องการควบคุมแสงซึ่งถือเป็น option การจัดการแสงที่เราชอบ แต่จะใช้แบบ basic คือกด 1 ครั้งแล้วสไลด์รูปพระอาทิตย์ขึ้นลงเพื่อปรับแสงขึ้นลง หรือใช้ระบบอัตโนมัติไปเลยก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นกับสถานการณ์ของแสงและลักษณะภาพที่จะถ่ายซึ่งก็ได้ดูจากหน้าจอว่าพอใจหรือยัง
ก่อนปรับแสง : เมื่อ tab ที่กระถางเพื่อต้องการโฟกัสภาพตรงจุดนั้น ภาพที่ได้จะแสง over เนื่องจากกระถางเป็นสีดำจึงหลอกเครื่องวัดแสง
หลังปรับแสง : ย้ายไอคอนรูปพระอาทิตย์ไปยังจุดที่เป็นแสงกลางๆ (ไม่สว่างหรือมืด กรณีนี้เลือกใบไม้) ทำให้ได้ค่าแสงที่พอดีโดยโฟกัสยังคงอยู่ที่กระถางเหมือนเดิม
ภาพตัวอย่างจากการถ่ายที่ 1x (ไม่มีการแต่งแสงสีเพิ่มเติม แต่ลดขนาดลงให้เหมาะกับการใช้งานบน internet) เน้นภาพวิวเป็นหลัก แต่ก็มีภาพคน, ภาพในที่แสงน้อย รวมถึงภาพถ่ายใกล้ๆ เพื่อให้เห็นความเบลอจากเลนส์
ภาพวิวที่ให้สีสันสดใส ภาพคมชัดมาก
ภาพวิวย้อนแสงตรงๆ และ contrast สูง กล้องเกลี่ยแสงให้ดีดูเป็นธรรมชาติ
ภาพย้อนแสงหน่อยๆ รับมือได้สบาย สีสันสดใส contrast ดี
ภาพถ่ายในที่แสงน้อยก็ยังคงคุณภาพที่ดี
ภาพคนในพื้นที่แสงมืดกับวิวด้านหลังที่ค่อนข้างสว่าง กล้องก็ปรับแสงให้ดูสมดุลกัน
ถ่ายวัตถุใกล้ๆ ก็ให้ภาพสวยละมุนเพราะรูรับแสงของกล้องกว้าง
หากถ่ายในมุมที่ย้อนแสงเกือบตรงจะเกิดแฟลร์เป็นสายสีรุ้ง ต้องเอามือช่วยบังเงาไม่ให้ตกลงมาตรงโมดูลกล้อง ถือเป็นเรื่องธรรมดาเพราะกล้องใหญ่ก็หนีปัญหานี้ไม่พ้นเพียงแต่รูปแบบของแฟลร์จะแตกต่างกันไป
สำหรับช่วงเลนส์ระยะ 3.5x (95 ม.ม. เมื่อเทียบกับ full frame) กับ 0.5x (13 ม.ม. เมื่อเทียบกับ full frame) ระหว่างทริปเราใช้ไม่บ่อยนักเพราะเก็บภาพวิวมุมกว้างปกติเป็นส่วนใหญ่หรือไม่ก็จะใช้โหมด portrait ไปเลย แต่เท่าที่ลองถ่ายภาพที่ได้คมชัดเช่นกัน ส่วน 0.5x ได้มีโอกาสลองใช้บ้างตอนถ่ายในที่แคบๆ หรือต้องการองศารับภาพกว้างเป็นพิเศษ ซึ่งกล้องมีความคมชัด contrast สวย โดย white balance จะค่อนข้างตรงกับ 1x แต่ contrast จะแตกต่างกัน ถ้าถ่ายภาพที่โทนสีค่อนข้างทึมระบบอัตโนมัติมักจะชดเชยแสงเยอะทำให้แสงติด over
ภาพจากกล้อง 3.5x
ภาพจากกล้อง 0.5x ใช้งานได้ดีในกรณีต้องการองศารับภาพกว้างๆ
โหมด portrait ของกล้องหลัง เป็นโหมดที่ช่วงแรกเราไม่ใช้เลย เพราะเปิดโหมดนี้ทีไรภาพที่เห็น (ก่อนกดถ่าย) มันดูหลอกๆ แต่มารู้ทีหลังว่าภาพที่ได้จะเกิดการประมวลผลใหม่หลังจากถ่ายเสร็จแล้วซึ่งจะออกมาสวยงามเนียนตากว่าที่พรีวิวมาก ทั้งนี้เมื่อเปิดโหมด portrait จะมีให้เลือก 1x และ 2x (เราเดาว่า 2x คือใช้ภาพจาก 1x มา crop เอาแล้วใส่ effect เบลอ)
เปิดโหมด portrait ที่ 1x กล้องสามารถตัดขอบของคนได้อย่างแม่นยำ ดูเป็นธรรมชาติแม้ฉากหลังจะค่อนข้างซับซ้อน
โหมด portrait 2x ที่ช่วงหลังของทริปใช้บ่อยมาก เพราะให้ภาพที่ดูสวยงามไม่แพ้ถ่ายด้วยเลนส์ portrait ของกล้องใหญ่เลย
กล้องหน้า มีลักษณะพิเศษคือองศารับภาพค่อนข้างกว้าง มีให้เลือก 3 ระยะคือ 1x 0.8x และ 0.7 (26 ม.ม. , 21 ม.ม., 18 ม.ม. ตามลำดับเมื่อเทียบกับ full frame) สามารถเลือกได้ว่าจะเบลอหลังหรือเปล่าและมีโหมดบิวตี้สำหรับปรับผิวหน้าให้เรียบเนียน ส่วนตัวคิดว่าการปรับบิวตี้อยากให้ดูธรรมชาติกว่านี้เพราะแม้ตั้ง level 1 หน้าก็ยังเนียนกริบดูต่างจากตัวจริงมากไปหน่อย อย่างไรก็ตามคนที่ชอบหน้าเนียบกริบคงถูกใจ feature นี้
กล้องหน้าแบบเปิดโหมดบิวตี้ (level 1)
เปิดทั้งโหมดบิวตี้และเบลอหลัง
และนี่ก็เป็นบางส่วนของการนำมือถือ Honor รุ่น Magic 5 pro ไปลองใช้งานถ่ายภาพในสนามจริง … สำหรับ feature อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นโหมด pro ที่ให้อิสระในการปรับค่าต่างๆ ได้เหมือนกล้องใหญ่ รวมถึงลูกเล่นในโหมด night, apeture, movie ฯลฯ ก็ยังมีให้เล่นอีกมาก แต่สำหรับเราแค่นี้ก็ถือว่าตอบโจทย์ในการใช้งานท่องเที่ยวถ่ายภาพได้เป็นอย่างดีแล้ว
การใช้งานทั่วไป : เราเป็นคนไม่ได้ใช้มือถือหลากหลายนักแค่ใช้งานโทรศัพท์, social media, ถ่ายภาพ และแอปฯ ทั่วไปเช่น ธนาคาร, หุ้น, google map แต่ไม่ได้เล่นเกมส์ โดยรวมแล้ว Honor Magic 5 pro เป็นมือถือที่ใช้งานได้อย่างลื่นไหล แอปฯ ทั่วไปใช้ได้ปกติ มีแค่ LINE ที่ยังมีบางกรณี notification ไม่ทำงาน … เป็นมือถือที่จอชัดภาพสวยสบายตามาก แบตเตอร์รี่ค่อนข้างอึด ชาร์จเร็ว
นอกจากประสบการณ์ใช้งานข้างต้นเรามีข้อสังเกตเพิ่มเติมดังนี้
- มือถือน้ำหนักค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามเมื่อถือไปสักพักก็จะเริ่มชิน แต่คนที่มือเล็กอาจจะยังรู้สึกว่าขนาดล้นมือ
- การปรับแสง + – รู้สีกว่ายากสักนิดเพราะแต่ละ step เหมือนแสงจะต่างกันมาก
- ถ่ายย้อนแสงบางมุมจะเกิดเส้นสีรุ้ง ป้องกันได้ด้วยการเอามืมอป้องบังแสงไว้ตามตัวอย่างที่ได้ให้ดูแล้ว
- เนื่องจาก Module กล้องนูนออกมาจาก body ค่อนข้างมากจึงแนะนำให้ใช้ case ที่มีขอบป้องกันจุดที่เป็นกล้องแต่ละอัน เพราะถ้าเกิดมีรอยขูดขีดหรือมือไปโดนบนกระจกจะทำให้คุณภาพของภาพถ่ายลดลงไป (ใส่ case แบบนี้อาจทำความสะอาดฝุ่นยากหน่อย แต่ก็ดีกว่าเปิดเป็นช่องกว้างๆ ที่กระจกครอบกล้องมีโอกาสสกปรกและเสียหายได้มากกว่า)
โดยสรุป Honor Magic 5pro ในมุมมองของช่างภาพสายท่องเที่ยว เราคิดว่าสามารถตอบสนองการใช้งานทั่วไปได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งในแง่คุณภาพของไฟล์, คุณสมบัติของตัวกล้องและซอฟท์แวร์ที่จัดการกับภาพถ่าย … สุดท้ายภาพจะสวยหรือไม่คงเหลือแค่การทำความเข้าใจระบบการทำงานของกล้องในมือถือและทักษะการถ่ายภาพแล้วล่ะ
สำหรับคนที่ชอบท่องเที่ยวถ่ายภาพ ฝากติดตามเพจ นายมด ของเราด้วยนะ