Select Page

Sawasdee Vienna

ปฐมบท
ต้นเดือนกันยายนปี 53 ที่ผ่านมา ผมได้รับการชักชวนจากเพื่อนเก่าสมัยเรียนมหา’ลัยไปเที่ยวยุโรป ผ่านทาง Facebook (ขอบคุณ Mr. Mark ที่ประทาน Facebook ให้เราเหล่าเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ได้เจอกัน หลังจากไม่ได้พบหน้าพบตากันหลายปีจนนับนิ้วมือรวมกับนิ้วเท้าแทบไม่พอ หุหุ) โดยตั้งเป้ากันว่าจะไป ออสเตรีย-เช็ก-สวิสฯ ในช่วงวันหยุดยาวปลายเดือนเม.ย. ต่อต้นเดือน พ.ค. ผมจึงรับอาสาหาข้อมูลเพื่อวางแผนการเดินทาง ภายใต้แผนร้ายที่จะแอบใส่รายการท่องเที่ยวไปเยอะ ๆ ชนิดที่มากกว่าทัวร์ทั่วไป 2 เท่า เพื่อให้คุ้มค่าตั๋ว อิอิ

ด้วยความที่แต่ละประเทศข้างต้นมีแหล่งท่องเที่ยวสวยงามมากมาย และการเดินทางบางช่วงกินเวลามาก ทำให้เราต้องยุบเหลือเพียง 2 ประเทศคือ ออสเตรีย กับ สวิสฯ อันเนื่องมาจากข้อจำกัดวันท่องเที่ยวที่เรามีเพียง 10 วันเท่านั้น ซึ่งเท่าที่หาข้อมูล ส่วนใหญ่คนไทยจะเลือกเที่ยว ออสเตรีย-เช็ก (อาจรวมฮังการี) และแยกเที่ยวสวิสฯ ต่างหาก … แต่ส่วนตัวผมอยากไปสวิสฯ มาก เลยใช้มารยาชายหลายพันเล่มเกวียนกล่อมจนเพื่อน ๆ ในกลุ่มตกลงปลงใจว่าจะไปกันสองประเทศนี้ หุหุ อย่างนี้ก็เสร็จโจรดิ 555

หลังจากได้ข้อสรุปเรื่องสถานที่แล้ว ก็ได้เวลารวบรวมพลพรรคจนครบ 6 คน มากพอที่จะเที่ยวแบบไม่เหงา แต่ก็ไม่มากเกินไปสำหรับการเช่ารถขับที่ออสเตรีย (ที่จริงก็เบียด ๆ กันไปเพราะพื้นที่เกือบครึ่งนึงถูกใช้ในการวางสัมภาระ โชคดีที่สาว ๆ แต่ละคนของเราตัวเล็กทั้งนั้นเลยไม่เป็นปัญหา อิอิ) … เมื่อจำนวนคนและจำนวนวันแต่ชัดแล้ว ผมก็เริ่มหาข้อมูลจาก internet รวมถึงเพื่อนฝูงที่เคยไป เพื่อให้ได้รายละเอียดมากที่สุด ทั้งนี้แผนของเราคือจะใช้เวลาที่ออสเตรีย 4 วันครึ่ง และสวิสฯ 5 วัน โดยเช่ารถขับในออสเตรีย และนั่งรถไฟเที่ยวในสวิสฯ

รายละเอียดการเตรียมตัวทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการหาข้อมูล, ขอ VISA, การจองห้องพัก, รถเช่า, ตั๋วรถไฟ, Swiss pass รวมถึงการเตรียมเรื่องอาหารการกิน, เสื้อผ้า, อุปกรณ์ถ่ายภาพ ผมจะสรุปในบทสุดท้าย สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังวางแผนที่จะท่องเที่ยวในอนาคต ส่วนพื้นที่ต่อไปนี้ ขอเป็นเรื่องราวการเดินทางอันแสนทรหด แต่สุดประทับใจของผม … พร้อมหรือยังครับ ถ้าพร้อมแล้วขึ้นเครื่องไปพร้อมกันเลย

Sawasdee Vienna
หลังจาก 13 ชั่วโมงบนเครื่องบินของสายการบิน Qatar กับการแวะพักที่ Doha อีกราว 2 ชั่วโมง .. เราก็ถูกนำข้ามทวีปมากยังเมืองหลวงของประเทศออสเตรียที่ชื่อว่า Vienna หรืออีกนามนึงที่คนพื้นที่เรียกว่า Wien … เราเดินทางถึง Vienna ราว 7 โมงเช้า โดยเครื่องค่อย ๆ ลดระดับผ่านทุ่งหญ้าและหมู่บ้านเล็ก ๆ ชานเมือง มองเห็นวิวแม่น้ำ และภูเขาที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางสายหมอกสีทองยามเช้า สร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น … และเสียงชัตเตอร์จากเจ้า Nikon D7000 ของผมก็เริ่มทำงานตั้งแต่นาทีนั้นนั่นเอง

บรรยากาศยามเช้าขณะเครื่องลงที่สนามบินเวียนนา

สนามบิน Vienna เป็นสนามบินที่ไม่ใหญ่นัก และระบบ immigration ก็ไม่ได้เข้มงวดมากมากเหมือนบางประเทศ ที่ผมอุตสาห์เตรียมตัว declare อาหารสำเร็จต่าง ๆ ก็เลยไม่ต้องทำ เพราะช่องทางออกที่สำหรับ declare ปิด เราทั้งกลุ่มก็เลยเดินออกจากสนามบินได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวว่าอาหารไฮโซ ประเภทมาม่า, ข้าวกระป๋อง, ปลากระป๋องของเราจะถูกริบไป อิอิ

เดินออกไปง่าย ๆ ตรงทางออกสีเขียวนี่แหละครับ ส่วนสีแดงปิดสนิท หุหุ

วันแรกของโปรแกรมเราวางแผนจะเที่ยวในเมืองเวียนนา ดังนั้นเราจึงยังไม่ได้รับรถเช่าในวันนี้ แต่เดินทางด้วยรถไฟแทน ซึ่งที่นี่มี choice ให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นตั๋ววัน, ตั๋วโซน หรือจะเป็น Vienna card ที่ใช้เป็นส่วนลดในการเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ได้ด้วย … แต่พี่ไทยไม่เป็นรองใครเรื่องความคุ้มค่า ผมจึงเลือกตั๋วแบบ 8 ใบย่อย ที่แต่ละใบสามารถใช้ได้ 24 ชม. ต่อคน เรามีกัน 6 คน ก็เลยต้องซื้อ 2 ชุดสำหรับสองวัน ที่เหลือก็ถือว่าสนับสนุนชาวออสเตรียให้ทำระบบขนส่งดี ๆ ต่อไป .. แม้ราคาจะสูงกว่าที่ค้นคว้ามาเล็กน้อย (9.6 Euro ต่อคนสำหรับ 2 วัน) แต่ก็ยังถูกกว่าการซื้อตั๋ววันต่อคนอยู่ดี ก็เลยไม่คิดมาก … แต่กว่าจะทำความเข้าใจกับการ validate ตั๋วนี่ก็เล่นเอาแย่เหมือนกัน เนื่องจากตู้ขายตั๋วมีแต่ภาษาเยอรมัน และที่นี่ก็ไม่มี counter ขายตั๋วซะด้วย โชคดีที่มีคุณป้าชาวเวียนนามาช่วยเราก็เลยได้ขึ้นรถไฟกันซะที

รถไฟแล่นผ่านชานเมือง และค่อย ๆ เข้าสู่ใจกลางเมือง โดยเราต้องเปลี่ยนขบวนหนึ่งครั้งเพื่อไปยังจุดหมายของเรา Happy Hostel ซึ่งตั้งอยู่ใกล้สถานี West Banhof (สถานีตะวันตก) … จากสถานีก็เดินลากกระเป๋าหาที่พักกันพอสังเขปก็เจอกับที่พักสำหรับคืนนี้ที่เวียนนา

วิวสองข้างทางระหว่างเดินทางจากสนามบินเข้าเมือง และระหว่างทางจากสถานีรถไฟไปยังโรงแรม

เนื่องจากยังไม่ได้เวลา check in เราจึงต้องฝากสัมภาระไว้ใน locker ของโรงแรม ซึ่งก็ใหญ่พอที่จะบรรจุของสำหรับ 6 คน + กระเป๋าเก็บอาหารอีก 2 ใบได้อย่างสบาย ๆ ทำให้เราหมดห่วงเรื่องการเที่ยวในเมืองเวียนนาของเราในวันนี้ แถมยังมีห้องน้ำให้เราได้พอล้างหน้าล้างตาหลังจากผ่านการบินอันแสนยาวนานอีกด้วย และที่ขาดไม่ได้คือมี internet ให้เหล่าสาวก facebook ได้ check in และ update สถานะให้เพื่อน ๆ ในเมืองไทยแอบอิจฉา อิอิ

Locker ของพวกเราและคุณป้าผู้ดูแล Happy Hostel ที่ต้อนรับเราอย่างดี กับบรรยากาศบริเวณที่พัก

ก่อนโปรแกรมเที่ยวพระราชวังเชิญบรุนน์ (Schonbrunn Palace) จะเริ่มขึ้น เราเริ่มมื้อเช้าแรกในเวียนนาของเราด้วยข้าวกระป๋อง + ปลากระป๋องและปลากรอบที่อุตสาห์ขนข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากเมืองไทย นับว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเพื่อน ๆ ที่ต้องการประหยัดค่าอาหารครับ

ข้าวกระป๋อง และกับข้าวจากเมืองไทย จะว่าไปแล้วก็เพิ่งลองเป็นครั้งแรกเหมือนกัน หุหุ

จากสถานีสถานีรถรางใกล้ ๆ ที่พัก เรานั่งรถชมเมืองมาไม่นานก็ถึงพระราชวังเชิญบรุนน์ ซึ่งคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว แต่ก็ไม่ได้ทำให้ที่นี่ดูหนาแน่น เพราะพื้นที่พระราชวังนั้นกว้างขวางมาก

เตรียมเดินทางไปชมพระราชวังเชิญบรุนน์และบรรยกาศด้านหน้า

เราเริ่มถ่ายภาพกันอย่างสนุกสนานตั้งแต่ลานด้านหน้า จนเข้าไปถึงจุดขายตั๋ว แต่แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อหนึ่งในคณะของเราถูกล้วงกระเป๋า จนต้องเสียเงินเกือบทั้งหมดที่เตรียมมาสำหรับทริปนี้ และเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้กระตือรือร้นที่จะช่วยเหลืออะไรมากไปกว่าชี้ทางไปสถานีตำรวจ ทำให้ผมผิดหวังกับเมืองเวียนนาพอสมควร ไม่ใช่เพราะที่นี่มีโจรผู้ร้ายเหมือนเมืองใหญ่ทั่ว ๆ ไป แต่ผิดหวังที่ไม่มีป้ายเตือนนักท่องเที่ยวเลย ทั้ง ๆ ที่มาทราบภายหลังว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเสมอ และเจ้าหน้าที่แต่ละคนก็ไม่ได้มี service mind ที่จะช่วยเหลือเลยแม้แต่น้อย … เราทำได้แต่เพียงทำใจและปล่อยให้เหตุการณ์นี้เป็นประสบการณ์อันแสนแพงที่ต้องจำไปอีกนาน สำหรับเพื่อน ๆที่กำลังจะเดินทางท่องเที่ยวไปยังเมืองใหญ่ ๆ ก็ต้องวางแผนเรื่องการแยกเก็บเงิน และระวังตัวให้มากนะครับ

เราใช้เวลาพักใหญ่ในการเดินทางไปสถานีตำรวจเพื่อแจ้งความเป็นหลักฐาน (แค่นั้นจริง ๆ เพราะตำรวจก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าการบันทึกเหตุการณ์ลงในกระดาษ) … ในความโชคไม่ดีนั้นทำให้เรารู้ว่ามีทางเข้าไปพระราชวังอีกทาง ซึ่งไม่ต้องซื้อตั๋ว แต่สามารถเข้าชมสวนสวย ๆ ด้านในได้ แม้ว่าเราจะไม่ได้เข้าชมห้องต่าง ๆ ด้านในพระราชวังตามที่วางแผนไว้ แต่การเข้ามาได้ชมสวนอันงดงามภายในพระราชวังก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เราค่อย ๆ ทุเลาความหม่นหมองในใจลงทีละน้อย

บรรยากาศสวนสวย ๆ และความยิ่งใหญ่ของพระราชวังเชิญบรุนน์ กับเหล่านางแบบ

หลังจากเดินกันจนขาลากภายใต้บริเวณอันกว้างใหญ่ของพระราชวังแล้ว เราก็เดินทางไป check in และย้ายกระเป๋าไปยังห้องพัก ซึ่งอยู่คนละตึก และย้อนกลับเข้าสู่ใจกลางเมืองเวียนนาในส่วนที่เป็นย่านเมืองเก่า … เราใช้ตั๋วที่ซื้อไว้นั่งรถมาลงที่สถานีใกล้ Staphans-dom อันเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของเวียนนาซึ่งแม้ว่าวันนี้จะอยู่ระหว่างการบูรณะแต่ภาพของโบสถ์ก็ยังคงเห็นเด่นชัดเพราะมีการพิมพ์ภาพขนาดใหญ่เท่าของจริงวางทาบไว้บนพื้นที่ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการซ่อมแซม แม้จะทดแทนกันไม่ได้แต่ก็ทำให้เราได้เห็นถึงความอลังการที่สะท้อนความศรัทธาของชาวออสเตรียได้เป็นอย่างดี

Stephandom

หลังจากถ่ายภาพด้านในโบสถ์สักพัก เราก็ออกตระเวนย่านเมืองเก่ารอบ ๆ แต่ก็ไม่สามารถเก็บรายละเอียดได้มากนัก เพราะฝนตกปรอย ๆ และเริ่มจะมืดแล้ว ผมจึงชวนเพื่อน ๆ ไปชมวิวแม่น้ำดานูบยามค่ำ ตบท้ายด้วยอาหารง่าย ๆ + ไอศกรีมอร่อย ๆ ในย่าน shopping ของเมืองเวียนนา ก่อนที่จะกลับมาที่พักเพื่อพักผ่อนหลังจากเหน็ดเหนื่อยมากับการเดินทางตลอดทั้งวัน

วิวระหว่างเดินเล่นในเขตเมืองเก่าใกล้ Stephandom, บรรยากาศริมแม่น้ำดานูบ และบรรยากาศห้องพักที่ Happy Hostel

ผมหลับแทบจะทันทีที่หัวถึงหมอนเพราะเพลียมาก และห้องพักอันโอโถงและสะดวกสบายของ Happy Hostel ก็ทำให้ผม Happy ได้จริง ๆ เพราะตื่นเช้าขึ้นมาก็รู้สึกได้ถึงพลังที่พร้อมจะลุยเมืองเวียนนาต่อทันที

อาหารเช้าถูกปรุงอย่างง่ายๆ ในครัวภายในห้องพัก มาม่าร้อน ๆ กับข้าวและแกงสำเร็จรูปจากเมืองไทย ช่วยคลายหนาวได้เป็นอย่างดี … เราออกเดินทางเข้าเมืองอีกครั้งเพื่อเก็บตกจุดต่าง ๆ ที่ยังไม่ได้ไปเยือน เริ่มจาก stadtpark สวนสาธารณขนาดใหญ่ใกล้ย่านเมืองเก่า ที่เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ และสวนดอกไม้ที่ถูกจัดอย่างสวยงาม แต่ที่ขาดไม่ได้คือการถ่ายภาพคู่กับรูปปั้น Johann Strauss ที่วันนี้ถูกนำมาวางบนแท่น ให้ถ่ายภาพกันได้อย่างใกล้ชิด (ทีแรกนึกว่าเป็น Mozart เหมือนที่เคยอ่านในบางเวป แต่มาค้นเจอภายหลังว่านี่คือ Johann Strauss นักประพันธ์ดนตรีชื่อดังอีกคนของ Austria)

บรรยากาศสวย ๆ ใน Stadtpark และรอบ ๆ สวน

จาก Stadtpark เราเดินทางด้วยรถ tram สาย 2 ที่วิ่งรอบย่านเมืองเก่า เพื่อชมเมืองเวียนนา และแวะลงถ่ายภาพที่พระราชวัง Hofburg ซึ่งใกล้กันมีที่มีรูปปั้น Mozart อยู่ด้วย … แม้ว่าสิ่งปลูกสร้างไม่ว่าจะเป็นพระราชวัง, Museum บริเวณนี้ จะยิ่งใหญ่สวยงามอลังการมาก แต่เราก็ต้องจำใจโบกมือลาเพราะได้เวลาที่เราจะต้องกลับไป check out และรับรถที่ติดต่อเช่าไว้แล้ว

ความสวยงามยิ่งใหญ่บริเวณพระราชวัง Hofburg

หลังจาก check out แล้วเราเดินทางไปอีกหลายสถานีเพื่อไปยังจุดนัดรับรถของบริษัท Mega Drive บริษัทรถเช่าท้องถิ่นของออสเตรียที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งผมจองรถ Opel Zafira แบบ 7 ที่นั่งไว้พร้อมกับ GPS เพื่อนำทาง แต่พอเอาเข้าจริงต้องพับเบาะ 2 ที่นั่งหลังเพื่อวางกระเป๋าสัมภาระ และนั่งแถวกลาง 4 คนแทน แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับสาว ๆ ของเรา หุหุ

ผมใช้เวลาทำความคุ้นเคยกับพวงมาลัยซ้ายอยู่สักพักจึงค่อยปล่อยให้เจ้า GPS ช่วยนำทางไปยังจุดหมายต่อไปของเรา นั่นคือ Hallstatt เมืองเล็ก ๆ ริมทะเลสาบที่ห่างออกไปราว 300 กม.

รถค่อย ๆ ออกจากเขตเมือง ทำให้ผมคลายความวิตกในการขับรถได้พอควร เนื่องจากนี่เป็นการขับรถเลนขวาเป็นครั้งแรก และวิวสองข้างทางที่ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นทุ่งหญ้า, ป่าสน และพื้นที่เขียว ๆ ทางการเกษตรช่วยให้กับขับรถของผมสุนทรีขึ้นอีกเยอะทีเดียว และหลังจากขับไปได้ไม่นานนักทุ่งดอกมัสตาร์ดสีเหลืองสดก็ทำให้ผมต้องฝืนคำสั่งของเจ้า GPS เบนหัวรถเข้าไปยังเมืองเล็ก ๆ ข้างทางเพื่อถ่ายภาพของดอกไม้สีเหลืองที่ถูกปลูกบนแปลงผืนใหญ่ ..

ถ่ายภาพกับทุ่งมัสตาร์ด

น่าเสียดายที่ยังไม่ทันหนำใจฝนก็โปรยปรายลงมาและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดในเวลาอันสั้น อีกทั้งสาว ๆ ของเราก็เรียกร้องจะเข้าห้องน้ำ ผมก็เลยขับแบบสุ่ม ๆ เข้าไปในหมู่บ้านและแวะที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเพื่อเข้าห้องน้ำ แต่ก็เหมือนโชคชะตาจะจงใจพาเรามาพบกับร้านอาหารแห่งนี้ เพราะนอกจากความอบอุ่นในร้าน และบรรยากาศที่ถูกจัดแบบดูดีสไตล์ตะวันตกแล้ว เรายังเหลือบเห็นว่าร้านนี้มีคนเข้ามาใช้บริการเยอะมาก ทั้ง ๆ ที่อยู่ในที่ห่างใกล้เมืองใหญ่ แถมมีป้ายประกาศรางวัลต่าง ๆ ติดไว้ในร้านด้วย ทุกคนจึงลงความเห็นว่าเราจะทานอาหารเที่ยงกันที่นี่ และก็ไม่ผิดหวังครับ เพราะอาหารแต่ละจาน น่าทานและรสชาติดีทีเดียว กาแฟก็รสนุ่มลิ้นคลายหนาวได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญราคาไม่แพงจนเกินไป ทำให้มื้อเที่ยงของเราวันนี้ทำเอาเจริญอาหารกันถ้วนหน้า  (เวปไซต์ของร้าน http://www.leinfellner.at/)

บรรยากาศในร้านอาหาร Lein’s Dorfwirtshaus

หลังจากทานมื้อเที่ยงเสร็จ ฝนก็หยุดตกพอดี เมฆสีดำหายไปเปลี่ยนเป็นท้องฟ้าใสและปุยเมฆขาว ผมจึงถือโอกาสหยิบกล้องมาถ่ายภาพสวนสวย ๆ ด้านหน้าและบนทุ่งหญ้าหลังร้านพักใหญ่

แต่ยังครับ ยังไม่ถึงที่พักของวันนี้ง่าย ๆ เพราะวิวข้างทางนั้นสวยจนเราต้องแวะจอดถ่ายภาพชุดใหญ่กันอีกสองรอบ

บรรยากาศอันสวยงามระหว่างทางไป Hallstatt บางภาพถ่ายตอนเกือบหนึ่งทุ่มแต่แดดยังแรงมาก นับเป็นกำไรของการเที่ยวยุโรปในช่วง summer หุหุ

เพื่อให้ครบสูตรความสุขก็แวะทานแกแฟกันอีกรอบก่อนที่จะเดินทางอย่างมีความสุขต่อไปยังอีกหนึ่งจุดหมายข้างหน้าที่ใกล้เข้ามาทุกที … Hallstatt หนึ่งในเมืองสุดโรแมนติกอีกเมืองหนึ่งของ Austria


13 Comments

  1. ออม

    สวัสดีค่ะ

    ภาพสวยมากๆ ตามอ่านทั้งพันทิพย์ และมาเจอที่นี่
    กำลังมีแพลนไปฮันนีมูนช่วงเดือนเมษา ที่ สวิส ออสเตรีย เยอรมัน รบกวนขอรายละเอียดทริปด้วยค่ะ

    ขอบคุณมากๆค่ะ ^ ^

  2. นายมด

    นายมด: ส่งให้ทางเมลแล้วนะครับ

    รบกวนขอรายละเอียดการเดินทางทั้งหมดนะคะ ajcharanukul@yahoo.com ขอบคุณมากค่ะ อรพินธ์

  3. อรพินธ์

    รบกวนขอรายละเอียดการเดินทางทั้งหมดนะคะ ajcharanukul@yahoo.com

    ขอบคุณมากค่ะ
    อรพินธ์

  4. Thitipong Kingkaeo (9MOT)

    9Mot: สถานี Hietzing ที่เลยสถานีเชิร์นบรุนไปอีกสถานีครับ

    รบกวนสอบถามว่าทางเข้าสวนพระราชวังเชิร์นบรุน ที่ไม่ต้องเสียตังค์ต้องลงรถไฟสถานีไหนคะใกล้สุด. ขอบคุณค่ะ

  5. Bee

    รบกวนสอบถามว่าทางเข้าสวนพระราชวังเชิร์นบรุน ที่ไม่ต้องเสียตังค์ต้องลงรถไฟสถานีไหนคะใกล้สุด. ขอบคุณค่ะ

  6. joy

    รบกวนขอรายละเอียดการเดินทาง สวิส ออสเตรีย หน่อยค่ะ พอดีมีแผนจะไปสองประเทศนี้เหมือนกันเลยค่ะ joyacid@gmail.com ขอบคุณมากๆค่ะ

  7. thitipong

    ผมไปกับทัวร์ครับ ชะโงกทัวร์ เห็นแล้วอยากไปอีก แต่งบน้อย คงต้องเก็บเงินอีกนาน ที่คุณถ่ายภาพมาสวยมาก ตอนผมไปไม่มีโอกาสปั้นแต่งเลยครับ ไกด์เร่งรีบตลอดช้าเดี๋ยวกลุ่มทัวร์ด้วยกันมองหน้า เราชอบดูและถ่ายภาพ เขาชอบเร็ว ช็อบของที่ระลึก ไม่เน้นการถ่ายเท่าไหร่ อยากไปพวกคุณบ้างแต่ไม่เก่งภาษา อายุ50แล้ว งบพอสะสมได้ หาเพื่อนร่วมอุดมการยากครับ

    ผมส่งรายละเอียดต่าง ๆ ที่ขอมาไปทาง e-mail แล้วนะครับ … เรื่องอายุไม่ใช่ปัญหาครับ ตอนเดินทางท่องเที่ยวผมรู้สึกเสมอว่าอายุเราน้อยลง กระฉับกระเฉงคล่องตัวเหมือนตอนวัยรุ่น 555 …

  8. eedsc

    ขอถามหน่อยครับ ถ้าไปเที่ยวแบบพวกคุณ พอมีรายละเอียดส่งให้ทางเมลไหมครับ ถ้าชวนลูกสาวกับลูกชายได้จะได้ลองไปดูครับ ช่วงปิดเทอม ถ้าไม่เป็นการรบกวนมากนักกรุณาส่งข้อมูลวิธีเจริญรอยตามด้วยครับ ขอบคุณมากครับ eedsc@yahoo.co.th4151@sanook.com ครับ (โปรแกรมเยอรมัน-เชก-ออสเตรียหรือที่น่าสนใจที่คุณมี ชอบยุโรปมากครับ สวยมากกกก ขอบคุณมากครับ)

  9. eedsc

    ผมไปกับทัวร์ครับ ชะโงกทัวร์ เห็นแล้วอยากไปอีก แต่งบน้อย คงต้องเก็บเงินอีกนาน ที่คุณถ่ายภาพมาสวยมาก ตอนผมไปไม่มีโอกาสปั้นแต่งเลยครับ ไกด์เร่งรีบตลอดช้าเดี๋ยวกลุ่มทัวร์ด้วยกันมองหน้า เราชอบดูและถ่ายภาพ เขาชอบเร็ว ช็อบของที่ระลึก ไม่เน้นการถ่ายเท่าไหร่ อยากไปพวกคุณบ้างแต่ไม่เก่งภาษา อายุ50แล้ว งบพอสะสมได้ หาเพื่อนร่วมอุดมการยากครับ

  10. ็Hathaichon Sirigrivatanawong

    ติดตามเกือบทุกทริป ถ่ายรูปได้สวยมากๆ การเขียนน่าอ่านและให้ข้อมูลได้ดีมากๆ ช่วยแนะนำรถเช่าที่ Innsbruck แล้วคืนที่ Salzburg ว่าใช้ของบริษัทอะไร ไปกัน 7 คนค่ะ จะไปตามเส้นทางของคุณมดนี้แหละค่ะ ขอบคุณมากค่า

  11. yali

    กำลังจะไปเที่ยวออสเตรียวันเสาร์นี้แล้วค่ะ เพิ่งจะมาหารถเช่าขับเหมือนกัน รบกวนถามว่า เวลาเราเข้าไปจองรถ มันจะมีระบุว่านั่งได้กี่คน กระเป๋ากี่ใบ เราไปกัน 7 คน หารถ 9 Seat แต่ทำไมให้ใส่กระเป๋าได้ใบเดียวเองอะคะ

    9MOT : ต้องขอโทษด้วยครับที่เพิ่งจะตอบเนื่องจากช่วงนี้ยุ่งเหลือเกิน ดูจากวันเดินทางแล้วผมคงตอบสายไปแหง ๆ เลย แต่ขอตอบไว้เป็นข้อมูลสำหรับเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ นะครับ … ถ้าผมเดาไม่ผิด ที่นั่งแถวหลังสุดของรถคันนั้นจะอยู่ิติดกับฝากระโปรงหลังมากจนทำให้เหลือที่วางกระเป๋าได้แค่ใบเดียวครับ ถ้าโชคดีหน่อยบางคันสามารถที่จะพับเบาะเพื่อเพิ่มพื้นที่ได้ แต่บางคันก็ทำไม่ได้ คงต้องเอากระเป๋าบางส่วนวางบนเบาะ

    คันที่ผมเช่าเป็นแบบ 7 ที่นั่ง แต่ท้ายที่สุดแล้วผมก็ต้องพับที่นั่งแถวหลังสุด แล้วนั่งแถวกลางสี่คนเนื่องจากกระเป๋าที่นำไปใบใหญ่มากจนวางไม่พอครับ

  12. Narin

    ถ่ายรูปสวยมากครับ เห็นแล้วอยากเปลื่ยนกล้องเลย

    9MOT : ขอบคุณที่แวะเข้ามาชมครับ อย่าให้ถึงขนาดเปลี่ยนกล้องเลยคร้าบ 555

  13. ra

    อยากไปอะครับ Austria สวยจริง ๆ ภาพสวยจังครับ

    9MOT : ใช่ครับสวยมาก ๆ