ไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นเหมือนผมหรือเปล่าที่เปิดเพลงคลาสสิค (ที่มักแถมมากับโปรแกรม windows สมัยก่อน) ฟังแล้วรู้สึกงั้นๆ ไม่เห็นน่าสนใจตรงไหน, ดูภาพวาดศิลปะแล้วไม่เข้าใจว่าทำไมเค้าถึงบอกว่าสวย …
แต่การเดินทางได้พาผมไปพบกับประสบการณ์ใหม่ ได้หลุดเข้าไปอยู่ในโลกของดนตรีคลาสสิคแบบไม่ได้ตั้งใจ บรรยากาศตรงหน้ามันเปิดประตูที่เคยปิดอยู่ให้ซึมซับความไพเราะที่ใช้หูฟังอย่างเดียวไม่ได้ ได้เห็นความงดงามที่ใช้ตาดูอย่างเดียวไม่พอ …
“การเดินทาง” เปิดประตูให้ผมเข้าถึงความงดงามของศิลปะได้มากกว่าเคย …
ผมยังห่างไกลกับคำว่า “เข้าใจ” ในศิลปะอยู่มาก แต่แค่ได้ก้าวย่างเข้าไปในชายแดนแห่งความสุนทรีย์ก็รู้สึกอิ่มเอมมากแล้ว … ผมว่ามีสัมผัสนี้อยู่ในตัวทุกคน อยู่ที่จะเปิดรับมันหรือไม่แค่นั้น … การออกเดินทางไปจากที่เดิมๆ อาจทำให้เราค้นพบประตูบานใหม่ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน …
“ปราก” คือหนึ่งในเมืองที่ทำให้ผมฟังเพลงคลาสสิคได้ไพเราะขึ้น จะว่าไปก็คล้ายคนถูกทิ้งที่เพิ่งซาบซึ้งกับเพลงอกหักก็ตอนเจอกับตัวเองนั่นแหละ … ผมเดินไปบนสะพานชาร์ลท่ามกลางนักท่องเที่ยวและชาวปรากที่มารวมตัวกันที่นี่อย่างคับคั่ง เดินชมวิวบ้าง, ถ่ายรูปบ้าง, จับกลุ่มคุยกันบ้าง, ขายของบ้าง … แรกๆ ผมเดินด้วยความระแวดระวังมากเพราะมีหลายคนเตือนเรื่องนักล้วงกระเป๋าที่หากินแถวๆ นี้ แต่ยิ่งเดินไปเหมือนถูกมนต์สะกดจากเสียงเพลงรอบตัวที่บรรเลงโดยเหล่าศิลปินเปิดหมวก … “ทำไมเพลงเพราะจัง” ทั้งๆ ที่โน้ตแบบนี้ก็เคยได้ยินบ่อยๆ นี่นา … แล้วผมก็พบว่าการเปิดเพลงจากเครื่องคอมพิวเตอร์ในห้องทำงาน มันต่างกับการได้ยินเสียงสดๆ ภายใต้บรรยากาศแบบนี้เหลือเกิน นึกไม่ออกเลยว่าถ้าได้ไปชมคอนเสิร์ตแบบเต็มรูปแบบจะขนลุกขนพองขนาดไหน หากมีโอกาสคงต้องพาตัวเองเข้าไปอยู่ในบรรยากาศแบบนั้นสักครั้ง
ภาพชุดนี้ไม่สามารถเล่าความรู้สึกของผมได้เลยแม้แต่น้อย เป็นแค่หลักฐานว่าครั้งหนึ่งผมได้มาเยือนเมืองแห่งนี้แล้ว … “ปราก”
ปล. บางภาพถ่ายช่วงเช้า นักท่องเที่ยวจะน้อยกว่ามากๆ เหมาะกับการถ่ายภาพ แต่ถ้าอยากสัมผัสกับอารมณ์ที่ผมบอกต้องไปช่วงเย็นๆ ครับ