Sponsor Review เป็นอีกครั้งที่ผมได้มีโอกาสเดินทางมาเที่ยวกระบี่ ครั้งนี้โชคดีที่ได้มีโอกาสเดินทางมาในช่วงปลายปีซึ่งอากาศดีกว่าครั้งก่อนซึ่งเป็นฤดูฝน … มาเที่ยวนี้ผมพักที่ Deevana Plaza Krabi Aonang อยู่ในอ่าวนางซอย 8 ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากทั้งอ่าวนางและหาดนพรัตน์ธารา
คนที่เคยมาเที่ยวกระบี่น่าจะพอทราบว่าหาดขาวๆ ทะเลสวยๆ ของกระบี่นั้นส่วนใหญ่อยู่บนเกาะครับ ไม่ว่าจะเป็นเกาะปอดะ, ทะเลแหวก (เกาะทับ เกาะหม้อ), เกาะห้อง ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องนั่งเรือไป แม้แต่อ่าวไร่เลย์อันโด่งดัง ถึงจะไม่ได้อยู่บนเกาะแต่ก็ต้องนั่งเรือไปเช่นเดียวกันเพราะถนนไม่สามารถเข้าถึงได้ … ส่วนอ่าวนางหรือหาดนพรัตน์ธารานั้นน่าจะเรียกว่าเป็น hub ของการท่องเที่ยวมากกว่า เนื่องจากมีที่พักมากมายและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ดังนั้นสำหรับผมแล้วที่พักอย่าง Deevana Plaza Krabi Aonang ที่อยู่ในซอยนั้นก็ไม่ได้เป็นข้อเสียใหญ่โตอะไร เพราะยังไงก็หากจะเล่นน้ำทะเลแบบแจ่มๆ ก็ต้องเดินทางไปเที่ยวบนอยู่ดี
ครั้งนี้ผมขับรถมาเองจากภูเก็ตเช่นเคย ปากซอยทางเข้าโรงแรม จะมีป้ายเห็นชัดเจนครับ ในซอยเดียวกันมีร้านค้ามากมายทั้งขายอาหารและสินค้าที่ระลึก ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะเหงาครับ ☺
โรงแรม Deevana Plaza Krabi Aonang ตั้งอยู่สุดซอย ราว 450 เมตรจากถนนใหญ่ ซึ่งถ้าจะเดินจากที่พักไปชายหาดก็ไม่ได้ไกลมากครับ เดินราว 10-15 นาที หรือจะใช้บริการ Shuttle ของโรงแรมก็ได้เช่นกัน
บรรยากาศหน้าโรงแรม ซึ่งตั้งอยู่สุดซอย 8 ของอ่าวนาง
Lobby ของโรงแรมเป็นทรงโปร่ง บรรยากาศสบายๆ … ใกล้ๆ กันเป็น Lobby lounge ติดแอร์ เหมาะกับการ check in ในวันอากาศร้อนๆ แบบนี้ …
ได้ welcome drink กับผ้าเย็นแล้วคลายความร้อนไปได้เยอะเลย
จาก lobby เดินผ่านห้องอาหาร Kingfisher ก็จะเข้าสู่บริเวณที่พักซึ่งประกอบด้วยอาคารที่วางตัวเรียงตัวไปตามความยาวของสระว่ายน้ำซึ่งแบ่งเป็นสระย่อยต่อเนื่องกันไปถึงด้านในสุดของรีสอร์ท พื้นที่พักผ่อนและ sun bed วางตัวอยู่เป็นระยะข้างสระ ให้แขกของโรงแรมเลือกพื้นที่พักผ่อนกันได้ตามอัทธยาศัย
ผมพักที่ตึกด้านในสุด อาจจะไกลจาก lobby สักหน่อยแต่ผมว่าโซนนี้เงียบกว่าโซนที่อยู่ใกล้ lobby ครับ ที่สำคัญสามารถนำรถมาจอดใกล้กับห้องพักได้เลย เพราะถนนเล็กๆ ภายในรีสอร์ทจะโอบล้อมอาคารไว้ทำให้สะดวกในการไปไหนมาไหน ไม่ต้องเดินออกมาเอารถด้านหน้าโรงแรม
ห้องพักของผมที่ Deevana Plaza Krabi Aonang ครั้งนี้เป็นแบบ Premier Pool Access ซึ่งสามารถเดินลงสระว่ายน้ำทางระเบียงหลังห้องได้เลย เก๋กู้ดจริงๆ อิอิ … ดีไซน์ในห้องตกแต่งแบบให้ดูอบอุ่นสบายๆ ผนังสีสดใสสะอาดตา มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไม่ว่าจะเป็น อ่างอาบน้ำ, amenities ในห้องน้ำ, เครื่องชงกาแฟ, safety box, mini bar, เตารีดพร้อมที่รองรีด … ด้านหลังห้องนอกจากเป็นระเบียงแล้วก็ยังมีเก้าอี้นั่งเล่นเก๋ๆ ขนาดใหญ่ไว้นอนเอกเขนกด้วย
บรรยากาศหลังห้องที่ระเบียงเชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำ
ช่วงเย็นผมออกมาเดินเก็บภาพบริเวณโดยรอบไว้หน่อย แสงกำลังสวยเลย
ฟิตเนสจะอยู่ใกล้สระว่ายน้ำเด็กและ Kid club ไม่ห่างจากห้องอาหาร
มื้อค่ำวันนี้ฝากท้องไว้ที่ห้องอาหาร Kingfisher (นกกระเต็น) ครับ อยู่ที่ชั้นล่างของอาคาร lobby ซึ่งเป็นห้องหารแบบ open air อยู่ติดกับสระว่ายน้ำเลย มีอาหารให้เลือกทั้งไทยและอินเตอร์ … เมนูที่สั่งผมเลือกจากรายการแนะนำ เป็นส้มตำแซลมอลย่าง มาพร้อมน้ำแตงโมปั่น แล้วก็สั่งปอเปี๊ยสดมาทานเป็นออเดิฟด้วย … ส่วนแฟนผมช่วงนี้เค้าเลี่ยงทานเนื้อก็เลยสั่งข้าวมาทานกับแกงจืดผักรวมกับบล็อกเคอร์รี่ผัดกุ้ง (กุ้งเป็นของผม อิอิ) … ทีแรกผมก็ไม่ได้คาดหวังกับส้มตำนะ แต่พอได้ทาน เอ้อ ใช้ได้แฮะ แม้รสชาติอาจไม่จัดจ้านเต็มรสแบบที่ชอบซะทีเดียว แต่ถือว่าอร่อยไม่ชืดเหมือนที่เคยทานในบางโรงแรม … ปอเปี๊ยน้ำจิ้มยังไม่โดนนัก ส่วนอาหารของแฟนรสชาติถูกปากฝากท้องได้เลยครับ … สำหรับราคาถือว่าไม่แรงครับ ส้มตำแซลมอนกับน้ำแตงโมปั่นของผม 210 บาท พอๆ กับ S&P ได้หรืออาจจะถูกกว่าด้วยซ้ำนะผมว่า
เช้าวันรุ่งขึ้นผมตื่นค่อนข้างสาย เพราะไม่มีโปรแกรมอะไรเป็นพิเศษ อยากพักผ่อนให้เต็มที่ (ขี้เกียจก็บอกมาเต๊อะ อิอิ) … กว่าจะฉุดตัวเองออกจากห้องได้ก็ 9 โมงเศษๆ แล้ว … ไม่รอช้าตรงดิ่งไปห้องอาหารเลย 555 มื้อเช้า (ตอนสาย) วันนี้ทานที่ห้องอาหาร Kingfisher เช่นเดิม ซึ่งไลน์ buffet ของที่นี่ถือว่าหลากหลายใช้ได้ครับ ชอบตรงมีกาแฟสดให้ด้วย หุหุ … สำหรับผู้ที่มาแบบครอบครัวจะมี corner ของหนูน้อยด้วยนะ 🙂
วันนี้เรามีโปรแกรมทำสปากันด้วยที่ Swan spa ที่อยู่ถัดมาจาก lobby ของโรงแรม ห้องนวดตัวของที่นี่มีทั้งแบบเตียงเดี่ยว และเตียงคู่ครับ ภายในกว้างขวางสะอาดสะอ้านดี … ไม่อยากบอกเลยว่าเวลา 60 นาทีสำหรับการนวดน้ำมันนั้นผ่านไปเร็วเหลือเกิน อยากต่อเวลาสบายๆ แบบนี้อีกสักชั่วโมง ☺
ก่อนเช็คเอาท์ ผมมาทานมื้อเที่ยงที่ห้องอาหารอีกรอบ คราวนี้ลองสั่งผัดไทยกุ้งมาทาน ทั้งหน้าตาและรสชาติผ่านฉลุยเลย กุ้งเต็มคำจริงๆ
โดยสรุปต้องบอกว่าเป็นอีกครั้งที่โรงแรมในเครือ Deevana ไม่ทำให้ผิดหวังครับ … ครบเครื่องทั้งเรื่องความสะดวกสบาย และการบริการ … ผมชื่นชมน้องๆ ที่ห้องอาหารเป็นพิเศษ อัทธยาศัยดีมาก เดินคุยกับแขกโต๊ะโน้นโต๊ะนี้อย่างเป็นกันเอง … สำหรับเรื่องของราคาห้องพัก ผมชอบ package ของ Deevana Plaza Krabi Aonang มากเลยเพราะดูแล้วคุ้มค่า ที่อยากจะแนะนำคือ Escape Package ที่นำเอาห้องพักพร้อมอาหารเช้า, ชุดอาหารค่ำ และนวดที่สปาสำหรับสองคนมารวมไว้ในราคาเริ่มต้นเพียงสี่พันกว่าบาทเท่านั้น นับว่าคุ้มค่ามากทีเดียว .. หากสนใจก็ดูข้อมูลกันเพิ่มเติมได้ที่
website : http://www.deevanaplazakrabi.com/
facebook : https://www.facebook.com/DeevanaPlazaKrabiAonang