ใครยังไม่เป็นสมาชิก Airbnb สมัครพร้อมรับเครดิตสำหรับจองที่พัก 1,100 บาทได้จาก link ด้านล่างได้เลย
https://goo.gl/KiuPLp
สำหรับ booking.com ดูรีวิวการจองที่พักแบบมีเครดิตเงินคืน 1,000 บาทได้ตาม link นี้
https://goo.gl/WztDkR
ส่วนรีวิวทริป Iceland พร้อมรายละเอียดการเดินทางและค่าใช้จ่ายเข้าไปดูได้จาก link ด้านล่างครับ
https://goo.gl/fQHrq6
เอาล่ะครับได้เวลามาไล่เรียงที่พักที่ละแห่งของทริปนี้กันแล้ว … วันแรกผมเดินทางถึง Iceland ช่วงบ่าย กว่าจะรับรถเช่าเรียบร้อยก็ตกเย็นแล้วจึงเดินทางถึงที่พักในเมือง Selfoss ที่ห่างสนามบินออกไปราว 100 กม.ตอนค่ำแล้ว ชื่อเมืองนี้บังเอิญเหมือนชื่อน้ำตกแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์ แต่จริงๆ แล้วอยู่กันคนละฝั่งของประเทศเลย ที่ตั้งเมือง Selfoss อยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวใน Golden Circle แต่ผมใช้เป็นที่พักระหว่างทางไปเที่ยวทางใต้ของประเทศครับ
ที่พักเมือง Selfoss
ชื่อที่พัก Bankavegur Apartment (ราคาที่จองสำหรับ 7 คน 8,975 บาท)
ลิ้งค์ไปจอง https://goo.gl/SpqMwD
Selfoss เป็นเมืองเล็กๆ ริมถนนสายหลักของไอซ์แลนด์ ที่พักหาไม่ยากครับ เป็นบ้านที่เจ้าของแบ่งห้องชั้นล่างให้เช่า มี 3 ห้องนอน, ห้องครัว, ห้องนั่งเล่นพร้อมโซฟาสามารถปรับเป็นเตียงนอนได้ เจ้าของบ้านใจดี เคยมาเมืองไทยและชอบเมืองไทยมาก บรรยากาศสวนรอบบ้านเงียบสงบมากแต่เราไม่ได้ไปดื่มด่ำกันมากนักเพราะมาถึงช่วงค่ำและวันรุ่งขึ้นก็ออกเดินทางกันแต่เช้าเลย … โดยรวมประทับใจนะครับ เป็นบ้านพักที่อบอุ่นดี
ห้องพักที่แบ่งเช่าจะอยู่ชั้นล่างนะครับ ด้านบนเป็นที่พักอาศัยของเจ้าของบ้าน
ห้องนั่งเล่นที่มีโต๊ะทานอาหารและโซฟาตัวนึงสามารถปรับเป็นเตียงนอนได้
ห้องนอนโทนสีขาวสบายตา
ที่พักเมือง Vik
ชื่อที่พัก Puffin Apartment Víkurbraut (ราคาที่จองสำหรับ 7 คน 10,160 บาท)
ลิ้งค์ไปจอง https://goo.gl/pyfqEx
วันถัดมาเราแวะเที่ยวรายทาง โดยมีจุดหมายอยู่ที่เมือง Vik เมืองริมทะเลทางตอนใต้ของ Iceland ผมเลือกพักในเมืองนี้เพราะตั้งใจจะไปเก็บภาพยามเย็นและยามเช้าของหาดทรายดำ โดยที่พักเป็นแบบ apartment แบบ 4 ห้องนอน ตั้งอยู่ในเมืองสามารถเดินไปชายหาดได้สบายๆ … ที่พักดูจากภายนอกเหมือน container แต่ภายในกว้างขวางสะดวกสบายที่ โดยเฉพาะครัวและห้องนั่งเล่นที่กว้างขวางมาก
ตอนเช็คอินน์จะต้องไปขอกุญแจห้องพักจากโรงแรม Puffin Hostel Vík ซึ่งอยู่ถัดไปจาก apartment เล็กน้อย
เมือง Vik ก็หน้าตาประมาณนี้แหละครับ ที่พักของผมตั้งอยู่บริเวณด้านขวาของภาพด้านล่าง
ห้องของผมเลขที่ 16 ครับ
ห้องนอนตกแต่งเรียบง่าย
ที่พักเมือง Hofn
ชื่อที่พัก Gerdi Guesthouse (ราคาที่จองสำหรับ 7 คน 13,249 บาท)
ลิ้งค์ไปจอง https://goo.gl/ymVWDi
สำหรับวันถัดมาเราเดินทางท่องเที่ยวจุดต่างๆ ด้านใต้ของ Iceland โดยผมตั้งใจว่าอยากจะพักบริเวณ Glacier Lagoon แต่เนื่องจากหาที่พักซึ่งราคาดีๆ สำหรับ 7 คนในบริเวณนั้นไม่ได้เลย จึงต้องเลือกพักที่ Guesthouse ซึ่งห่างออกไปราว 10 กม. เป็นที่พักเพียงแห่งเดียวในไอซ์แลนด์ของทริปนี้นี้ที่ไม่มีพื้นที่ทำอาหาร แต่ผมก็เอาหม้อมาหุงข้าวและต้มมาม่าทานกัน .. ผมเช่า 2 ห้อง เป็นห้องคู่กับ family room (ห้องนึงพัก 3 คน อีกห้องพัก 4 คน) ขนาดห้องไม่ใหญ่นัก และราคาสูงเมื่อเทียบกับที่อื่นๆ ในทริปนี้ … ที่นี่จะเป็นอารมณ์โรงแรมสักหน่อย ตอนเช็คอินน์มีพนักงานให้บริการ มีห้องอาหารด้านเล่างพร้อมเครื่องดื่มบริการฟรี บรรยากาศรอบๆ ก็ถือว่าเงียบสงบสวยงามนะครับเพราะอยู่ริมทะเลเลย
สำหรับที่นี่ผมวุ่นๆ เลยไม่ได้ถ่ายภาพห้องเก็บไว้ครับ
ห้องอาหารด้านล่าง
ที่พักเมือง Djúpivogur
ชื่อที่พัก Hólmfríður (ราคาที่จองสำหรับ 7 คน 6,725 บาท)
ลิ้งค์ไปจอง https://goo.gl/LmWkXX
วันถัดมาเราขับรถตามถนนสายหลักทวนเข็มนาฬิกามุ่งสู่ฝั่งตะวันออกของประเทศไอซ์แลนด์โดยพื้นแถบนี้มีลักษณะเป็นฟยอร์ด และผมก็เลือกพักที่เมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ชื่อ Djúpivogur บ้านพักสีขาวอยู่ติดๆ กับท่าเรือของเมืองบรรยากาศและวิวดีมากๆ จนไม่อยากย้ายที่พักเลย ห้องพักมี 4 ห้องนอนและมีครัวเช่นเคย ทานไปชมวิวนอกหน้าต่างไปฟินมากๆ ในห้องอาบน้ำจะมีเครื่องซักผ้าให้ด้วย ที่สำคัญราคาไม่แพง… ก่อนวันเข้าพัก เจ้าของบ้านจะส่งรายละเอียดการเช็คอินน์มาให้ซึ่งเป็นรหัสสำหรับเปิดกล่องกุญแจสำหรับไขเข้าบ้านครับ
ที่พักอยู่ติดท่าเรือในเมืองเลย
ที่พักอยู่บนชั้น 2 ครับ
มองออกไปนอกหน้าต่างเป็นวิวท่าเรือของเมืองเลย
ท่าเรือของเมือง
ที่พักเมือง Egilsstaðir
ชื่อที่พัก Vallnaholt Apartments (ราคาที่จองสำหรับ 7 คน 9,669 บาท)
ลิ้งค์ไปจอง https://goo.gl/a6xjMR
วันถัดมาเราพักกันที่ชานเมือง Egilsstaðir ซึ่งถือเป็นเมืองใหญ่ในฝั่งตะวันออก กว่าจะหาที่พักเจอก็ใช้เวลาพอสมควรเพราะ GPS พาไปหลง สุดท้ายต้องเปิดแผนที่จาก app ของ booking.com นำไปจึงถึงจุดหมายของเรา ตอนเช็คอินน์ต้องติดต่อคนดูแลซึ่งบ้านอยู่ใกล้ๆ กับที่พัก ก็ถือว่าไม่ได้ลำบากอะไรมากมาย และลุงแกก็อัทธยาศัยดีทีเดียว ผมเช่าห้องที่นี่ 2 ห้องครับเป็นแบบนอน 5 คน มี 3 ห้องนอน และอีกห้องนอน 2 คน มีครัวเช่นเคย ที่นี่บรรยากาศเงียบสงบดีครับ ราคาไม่แพงนักแต่เสียตรงที่ห้องนอนซอยย่อยจนบางห้องเล็กไปหน่อยแต่ก็ไม่ถึงกับอึดอัด
ที่นี่มีห้องพักหลายห้องเรียงกันไป
ห้องนอนเล็กหน่อย ไม่มีอะไรพิเศษ
ห้องน้ำค่อนข้างกว้างเลยสำหรับที่นี่
ห้องนอนอีกห้อง
หน้าห้องนอนเป็นพื้นที่ทำครัวและโต๊ะทานอาหาร
เมือง Laugar
ชื่อที่พัก CJA Guesthouse (ราคาที่จองสำหรับ 7 คน 13,163 บาท)
ลิงค์ไปจอง https://goo.gl/Y6MWmy
เมืองที่พักถัดไปของเราตั้งอยู่ใกล้กับเมืองน้ำพุร้อน Myvatn ห่างออกไปราว 30 กม. เป็น Guest house ที่ราคาห้องรวมอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว บรรยากาศแบบฟาร์มท่ามกลางธรรมชาติ เจ้าของบ้านน่ารักมาก มาทำอาหารเช้าแบบง่ายๆ ให้เราทานกันตอนเช้า เราเช่ากัน 3 ห้องสำหรับ 7 คน แต่เนื่องจากวันนั้นไม่มีแขกกรุ๊ปอื่นพื้นที่ทั้งหมดจจึงตกเป็นของกลุ่มเรา ข้อเสียของที่นี่เห็นจะเป็นเรื่องห้องน้ำที่ต้องแชร์กับแขกกลุ่มอื่นด้วย (ทั้งหมดมีด้วยกัน 4 ห้องนอน) แต่ถ้าแลกกับบรรยากาศก็ถือว่าคุ้มค่าเลย แถมที่นี่มีสระน้ำอุ่นเล็กๆ ให้แช่ตัวอยู่หน้าบ้านด้วยนะ สุดยอดไปเลย
พื้นที่ส่วนกลาง เหมาะสำหรับมานั่งเมาท์กัน
ห้องน้ำ
ห้องนอนก็ถือว่ากว้างดี
ตอนเช้าอาหารจารเสิร์ฟมุมนี้
มุมอาหารเช้าแบบง่ายๆ
เมือง Akureyri
ชื่อที่พัก Lava Apartments (ราคาที่จองสำหรับ 7 คน 9,750 บาท)
ลิ้งค์ไปจอง https://goo.gl/1a3n45
วันถัดมาเราออกเดินทางสู่ตอนเหนือของประเทศไอซ์แลนด์ และพักกันที่ Akureyri ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ ที่พักของเราถือว่าทำเลดีอยู่ใจกลางเมืองหาไม่ยาก ที่จอดรถสะดวกสบาย … แต่เนื่องจากเป็นเมืองใหญ่ห้องพักก็เลยจะกะทัดรัดสักหน่อย โดยผมเลือกเช่า 2 ห้อง แต่ละห้องจะมี 1 เตียงกับ Sofa bed และ pantry เล็กๆ สำหรับทำอาหาร ไม่เหมาะกับการปรุงอาหารไทย ควรเป็นเมนูง่ายๆ ที่ไม่มีกลิ่นและควันมากนัก … ห้องพักที่นี่ถือว่า modern และดูใหม่ที่สุดในทริปนี้ ในช่วงกลางวันจะมีพนักงานที่ reception คอยให้ข้อมูลต่างๆ ครับ
ส่วนของห้องนอน
พื้นที่ทำอาหารเล็กๆ ที่ฝั่งตรงข้ามเป็น Sofa bed
เมือง Hvammstangi
ชื่อที่พัก Hvammstangi (ราคาที่จองสำหรับ 7 คน 8,694 บาท)
ลิ้งค์ไปจอง https://goo.gl/gm8ufN
วันถัดมาผมเที่ยวทางตอนเหนือของ Iceland ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวจะอยู่ห่างๆ กันและมีไม่มากนัก จะว่าไปเมืองนี้ถือว่าเป็นทางผ่านมากกว่า แต่ผมดูภาพที่พักแล้วชอบเพราะเป็น Cottage อยู่บนเนินเขาดูน่ารักดี ไปถึงจริงก็ได้บรรยากาศแบบที่ต้องการ โดยผมจอง 2 หลัง มี pantry เล็กๆ ให้ทำอาหาร เตียงเป็นแบบ 2 ชั้นเพราะพื้นที่ในหห้องไม่มากนัก จะว่าไปก็ดูเหมือนบ้านน็อคดาวน์เลยแต่โดยรวมก็ถือว่าไม่ได้อึดอัดอะไรมากมายนัก … สำหรับกาเช็คอินน์เจ้าของบ้านจะส่งรายละเอียดมาให้ก่อนเข้าพักเป็นรหัสสำหรับเปิดกล่องใส่กุญแจไขเข้าบ้านครับ
ป.ล. ห้องพักจะมี smoke detector อย่าทำอาหารที่มีควันเยอะนะครับไม่งั้นจะมีเสียงร้องดังลั่นเหมือนกับที่ผมโดน 555
บรรยากาศที่พักเป็นกระท่อมบนเนินเขา
บรรยากาศยามค่ำ
มือค่ำมานั่งเบียดทานอาหารหารร้อนๆ กัน
เมือง Grundarfjörður
ชื่อที่พัก Grundargata 55 (ราคาที่จองสำหรับ 7 คน 8,730 บาท)
ลิ้งค์ไปจอง https://goo.gl/TpqJ34
จุดถัดมาถือเป็น highlight ของทริป เพราะเมืองนี้ถือเป็นที่ตั้ง landmark ของประเทศนี้ ผมจึงถือโอกาสพัก 2 คืน และก็ไม่ผิดหวังครับ จากที่พักไปยังจุดชมวิวที่น้ำตก Kirkjufellsfoss ห่างออกไปแค่ 1 กม.เท่านั้น เป็นบ้านพักที่แบ่งชั้นล่างให้เช่า มีด้วยกัน 3 ห้องนอนพร้อมห้องครัว สามารถใช้เครื่องซักผ้าได้ด้วย เจ้าของบ้านก็ใจดีคอยให้ข้อมูลการท่องเที่ยวอย่างตั้งอกตั้งใจ … ภายในบ้านสะอาดสะอ้านมีกีต้าร์ให้เล่นและล้อมวงร้องเพลงด้วย
Landmark ของ Iceland ห่างจากบ้านแค่ 1 กม.
ภูเขาลูกเดียวกันมองจากบ้านพัก
ห้องครัวและพื้นที่ทำอาหาร
ท่าทางเจ้าของบ้านจะชอบดนตรี
ห้องน้ำ
ที่พักเขต Golden circle
ชื่อที่พัก KirkjufellsfossHrísholt Private House (ราคาที่จองสำหรับ 7 คน 10,406 บาท)
ลิ้งค์ไปจอง https://goo.gl/ijumDT
ที่พักแห่งนี้ตั้งอยู่ริมทะเลสาบในเขตท่องเที่ยว Golden circle จะว่าไปมันคือบ้านพักตากอากาศดีๆ ทั้งหลังนั่นเอง เป็นที่พักหลังใหญ่ที่สุดในทริปนี้ มี 3 ห้องนอนและห้องครัวขนาดใหญ่ แต่ที่ชอบมากคือห้องนั่งเล่นกว้างขวางสบายสุดๆ ส่วนการเช็คอินน์ก็ใช้วิธีบอกรหัสกุญแจเช่นเดียวกับอีกหลายที่ในทริปนี้
ทั้งหมดนี้เป็นของเรา
ห้องนอน
ระเบียงนั่งเล่น แต่ออกมานั่งไม่ไหว หนาวมาก
เปิดหน้าต่างดูดาวยามค่ำ
ห้องนั่งเล่นและครัวใหญ่โตมาก
เมือง Keflavík
ชื่อที่พัก Línuhús (ราคาที่จองสำหรับ 7 คน 9,375 บาท)
ลิ้งค์ไปจอง https://goo.gl/aHDu4n
ที่พักแห่งนี้ผมเลือกเนื่องจากอยู่ใกล้สนามบินเพราะเราต้องเดินทางด้วยไฟลท์เช้าในวันถัดไป เป็นบ้านทั้งหลังที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้พักในบ้านจริงๆ เพราะข้าวของต่างๆ ของเจ้าของบ้านยังคงอยู่เยอะแยะไปหมด แต่ไม่ได้หมายความว่ารกนะ แต่มันดูอบอุ่น แถมเจ้าของบ้านยังเอาไข่ไก่ที่เก็บจากเล้าไก่หลังบ้านมาวางไว้ให้พร้อมกระดาษโน้ตเล็กๆ เขียนต้อนรับเรา นับว่าเป็นอีกที่ซึ่งประทับใจ แน่นอนว่าที่นี่มีครัวด้วยเช่นกัน มี 2 ห้องนอนโดยเราใช้ Sofa bed ในห้องนั่งเล่นเป็นเตียงนอนด้วย
อ้อแถมให้อีก 1 แห่งเป็นที่พักในเมือง Oslo ซึ่งผมพักก่อนเดินทางกลับเมืองไทยในวันรุ่งขึ้นครับ
เมือง Oslo
ชื่อที่พัก Citybox Oslo (ราคาที่จองสำหรับ 7 คน 10,750 บาท)
ลิ้งค์ไปจอง https://goo.gl/tF4euC
ผมเลือกที่นี่เพราะทำเลเยี่ยมอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟหลัก ราคาถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับที่อื่นๆ ในเมืองออสโลของนอร์เวย์ เราจอง 2 ห้องที่เป็นแบบ Family room ซึ่งดูทันสมัยดี แต่ห้องเล็กตามสไตล์ที่พักราคาประหยัดในเมือง จากโรงแรมสามารถเดินไปยังแหล่งท่องเที่ยวในเมืองในแบบสบายๆ ครับ
*** หมดแรงจากการเที่ยวมา 2 สัปดาห์เต็มเลยไม่ได้ถ่ายภาพที่นี่เก็บไว้นะครับ 🙂