Select Page

การเลือกประกันภัยเดินทางท่องเที่ยวและประกันรถเช่าสำหรับการขับรถเที่ยวเองใน Norway

Advertorial
สำหรับมือใหม่ที่กำลังวางแผนจะขับรถเที่ยวเองในยุโรป  นอกจากความกังวลเรื่องการขับรถคนละฝั่งกับเมืองไทยแล้ว อีกเรื่องที่ตัดสินใจยากไม่แพ้กันคือเรื่องประกันภัยสำหรับรถเช่า ที่มักมีคำถามอยู่บ่อยๆ ว่าควรเลือกแบบไหนดี รีวิวนี้จะมาให้คำตอบแถมด้วยการเลือกประภัยเดินทางท่องเที่ยวแบบที่มีความคุ้มครองเกี่ยวกับรถเช่าด้วย โดยผมจะยกตัวอย่างจากทริปล่าสุดที่ผมเพิ่งไปขับรถเที่ยวใน Norway เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมานี่เอง

 

รีวิวนี้จะแบ่งเป็นสองเรื่องคือประกันภัยเดินทางท่องเที่ยวและประกันภัยสำหรับรถเช่า  ทั้งสองอย่างนี้เกี่ยวกันอย่างไรไปดูกัน

ประกันภัยสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ เป็นข้อบังคับที่ต้องทำอยู่แล้วเพื่อขอวีซ่าเข้าประเทศ Norway รวมถึงทุกประเทศในกลุ่มเชงเก้น  เพียงแต่หลายคนเลือกที่จะซื้อแผนความคุ้มครองต่ำสุดเพื่อประหยัดเงิน ทั้งๆ ที่เพิ่มงบอีกเพียงหลักร้อยหรืออาจจะพันนิดๆ (ถ้าไปหลายวัน) ก็จะได้แผนการคุ้มครองที่ครอบคลุมเหตุไม่คาดฝันต่างๆ เพิ่มขึ้นอีกหลายอย่าง ซึ่งสำหรับผมแล้วคิดว่าคุ้มค่ามาก เนื่องจากหากต้องรักษาตัวในต่างประเทศโดยเฉพาะแถบยุโรปนั้นค่าใช้จ่ายสูงกว่าบ้านเราหลายเท่าตัว นอกจากนี้ยังมีแผนที่รวมการคุ้มครองค่าความเสียหายส่วนแรกจากรถเช่าได้ด้วย

จากตัวอย่างด้านล่างเป็นการแสดงแผนความคุ้มครองต่างๆ สำหรับการท่องเที่ยวประเทศนอร์เวย์ 7 วันของบริษัท ซมโปะ (https://traveljoy.sompo.co.th) ซึ่งผมใช้บริการอยู่

จะเห็นได้ว่าเบี้ยถูกสุดเพียงแค่ 411 บาทเท่านั้นสำหรับ plan A  แต่แผนที่ผมแนะนำกรณีขับรถเที่ยวในต่างประเทศคือแผน plan c ครับเพราะครอบคลุมความเสียหายส่วนแรกจากรถเช่าด้วยถึง 20,000 บาท  ซึ่งเดี๋ยวผมจะอธิบายภายหลังว่ามันคืออะไร  อย่างไรก็ตามให้คนที่จะลงนามในสัญญาเช่ารถซื้อแผนนี้แค่คนเดียวก็พอเพราะประกันจะคุ้มครองเฉพาะผู้ที่มีชื่อในสัญญาเช่ารถเท่านั้น  ส่วนคนอื่นๆ ให้เลือกแผนรอง top ซึ่งก็คือ plan B หรือ B+ ครับ  ราคาจะต่างกับ plan A แค่นิดหน่อยแต่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลต่อเนื่องเมื่อถึงเมืองไทย และเหตุการณ์ต่างๆ ที่กระทบกับการเดินทางของเราเช่น กระเป๋าเดินทางล่าช้า, การสูญหายของเอกสารเดินทาง, การสูญหายของเงินสด,​ การลดวันเดินทาง, การจี้เครื่องบินเป็นต้น  ทั้งนี้ประกันทุกบริษัทมีเงื่อนไขและข้อยกเว้นของความคุ้มครอง ควรศึกษาและทำความเข้าใจก่อนซื้อทุกครั้ง โดยของซมโปะสามารถอ่านเงื่อนไขได้ที่ http://bit.ly/2yrMugF

ประกันภัยรถเช่า เป็นเรื่องที่มีคนถามผมมาบ่อยมากว่าควรทำแบบไหนดี ควรซื้อเพิ่มไหม ซื้อกับใคร และอีกหลายคำถาม … ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมก็จะบอกว่าเอาแค่ประกันมาตรฐานที่มากับรถก็พอ ไม่ต้องซื้อเพิ่มแล้วก็จงขับด้วยความระมัดระวัง  แต่จากการเดินทางแบบขับรถเองหลายครั้งทำให้ผมตกผลึกแล้วว่าการต้องมาเครียดและกดดันระหว่างเดินทางมันทำให้เที่ยวไม่สนุก และหลายครั้งอุบัติเหตุมันเกิดขึ้นโดยที่เราไม่คาดฝัน ดังนั้นคำแนะนำของผมในวันนี้จึงเปลี่ยนไป … เอาล่ะเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังว่าควรเลือกอย่างไร แต่ก่อนอื่นขออธิบาย basic ของประกันรถเช่าก่อนว่ามีตัวเลือกอะไรบ้าง

ผมเชื่อว่ารถเช่าเกือบทุกประเทศมีประกันติดมากับรถอยู่แล้วซึ่งจะเรียกว่า CDW (collision damage waiver) และบางประเทศหรือบางบริษัทอาจมีประกันกรณีรถสูญหายมาควบคู่กันด้วย  ซึ่งในกรณีนี้ถ้าเกิดความเสียหายขึ้นกับรถเช่าของเราอันเนื่องมาจากความผิดของผู้เช่า  เราจะต้องรับผิดชอบไม่เกินค่าใช้จ่ายส่วนแรก (excess) ซึ่งค่าใช้จ่ายตรงนี้จะแตกต่างกันไปตามมูลค่ารถ  …​ ยกตัวอย่างรถยนต์ที่ผมเช่าล่าสุดในทริป Norway มีค่าใช้จ่ายส่วนแรกอยู่ที่ 12,000 Nok (ราว 48,000 บาท) หมายความว่าถ้ารถเกิดเสียหายอันเนื่องมาจากความผิดของผม ค่าใช้จ่ายสูงสุดที่ผมจะต้องรับผิดชอบจะไม่เกิน 12,000 Nok นั่นเอง แต่ถ้าค่าซ่อมน้อยกว่านี้ก็จ่ายกันไปตามจริง

ซึ่งตรงนี้แหละครับการเลือกแผนประกันเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศแบบคุ้มครองค่าใช้จ่ายส่วนแรกเข้ามาช่วยเราได้ (แผน C ตามที่ผมเล่าก่อนหน้านี้)  ในกรณีที่เราไม่ซื้อประกันรถเช่าเพิ่มเติม เราสามารถนำค่าใช้จ่ายที่ทางบริษัทรถเรียกเก็บไปเคลมจากประภัยเดินทางได้  อย่างเช่นแผนที่ผมยกตัวอย่างข้างต้น  สามารถเคลมได้สูงสุด 20,000 บาท  ดังนั้นถ้าไม่ได้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงหรือหนักจริงๆ ก็น่าจะครอบคลุมได้อยู่  และต้องไม่ลืมว่าประกันภัยเดินทางแผน C ยังคุ้มครองกรณีบาดเจ็บด้วยวงเงินที่สูงกว่าแผน A และ B อีกด้วย

แต่สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อความสบายใจ ก็สามารถเลือกซื้อความคุ้มครองอีกแบบที่เรียกว่า zero excess ได้เช่นกัน  ซึ่งหมายความว่าถ้าเกิดความเสียหายขึ้นกับรถเช่า เราไม่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเลยแลกกับเบี้ยประกันที่สูงขึ้นนั่นเอง  ทั้งนี้การซื้อ Zero excess นั้นมีทางเลือกสองแบบหลักๆ

1.     ซื้อกับบริษัทรถเช่า (พนักงานมักจะถามเราทุกครั้งตอนรับรถ ถ้าสนใจก็ซื้อตรงนั้นได้เลย) วิธีนี้ดีตรงที่เราไม่จำเป็นต้องสำรองเงินกรณีเกิดเหตุ และไม่ต้องกังวลกับการเก็บภาพก่อนและหลังการเช่ารถ เพราะถือว่าเราได้ซื้อความคุ้มครองสูงสุดไปแล้ว แต่ที่เราควรทราบคือ

  • ราคามักจะสูงกว่าการซื้อจาก agency
  • บางบริษัทและบางประเทศไม่รวมความเสียหายที่เกิดกับยาง, กระจก (อันนี้ผมเจอด้วยตัวเองเลย  บริษัทรถส่งบิลเรียกเก็บค่ารอยบนกระจกหน้ารถ)

2.     ซื้อผ่าน agent ซึ่งสามารถทำได้กรณีที่เราเช่ารถผ่านเวปไซต์ agent ต่างๆ อาทิ rentalcars.com ที่จะเสนอขายประกันแบบ zero excess ให้หลังจากที่เราเลือกรถเช่าแล้ว  ซึ่งข้อดีคือราคามักจะต่ำกว่าซื้อโดยตรงกับบริษัทรถเช่าและจะระบุชัดเจนว่ารวมค่าเสียหายที่เกิดกับยางและกระจกด้วย ..​ข้อดีอีกอย่างที่ผมเจอกับตัวสำหรับทริป Norway ล่าสุดคือ  ผมพบว่าบริษัทรถเช่า Budget มีการคิดค่าธรรมเนียมการใช้สนามบินทั้งๆ ที่ตอนจองในเวปของ rentalcars.com ระบุว่ารวมค่าใช้จ่ายในส่วนนี้แล้ว  นอกจากนี้ยังคิดค่าคนขับเพิ่มในราคาสูงกว่าที่ระบุไว้ในเวป rentalcars.com (ทั้งหมดชาร์จเข้ามาในบัตรเครดิตหลังจบทริป)  ซึ่งผมได้ทำเรื่องแย้งผ่านเวปไซต์ rentalcars.com พร้อมเอกสารหลักฐานต่างๆ  เพียงแค่วันเดียวทาง rentalcars.com ก็แจ้งว่าจะทำการ refund ยอดเงินคืนให้กับผม ถัดจากนั้นอีก 2-3 วันเงินก็คืนกลับมาทางบัตรเครดิตที่ใช้รูดค่ารถเช่า … แม้จะไม่เกี่ยวกับเรื่องประกันโดยตรง แต่ผมจะบอกว่าในกรณีนี้ถ้าผมจองตรงกับบริษัทรถ เราจะติดต่อเค้ายากมาก ยิ่งเราเดินทางกลับด้วยแล้ว การขอเงินคืนอาจต้องต่อสู้กันยาวนานพอสมควรทีเดียวผ่านบริษัทบัตรเครดิต แต่หากเราจองผ่านเวป  agent (ที่น่าเชื่อถือ)  ทำให้เราแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ง่ายขึ้นมาก งานนี้ผมยกเครดิตให้ rentalcars.com ครับ

สำคัญมาก … อย่าลืมศึกษาเงื่อนไขความคุ้มครองด้วย เช่น

  • ในประเทศ Norway บางบริษัทรถเช่าหรือ agency จะให้เราแจ้งด้วยว่ามีการนำรถขึ้นเรือเฟอร์รี่หรือไม่ ถ้าจำเป็นต้องใช้เฟอร์รี่อย่าลืมบอก ไม่เช่นนั้นอาจเป็นเหตุให้บริษัทรถปฏิเสธการคุ้มครองกรณีที่เกิดเหตุเนื่องจากการใช้เรือเฟอร์รี่
  • ถ้ามีการนำรถออกนอกประเทศต้องแจ้งให้บริษัทรถเช่าทราบด้วย  ซึ่งบางครั้งจำเป็นต้องซื้อ cross border option
  • รถบางรุ่นไม่อนุญาตให้นำไปใช้ในบางประเทศ เช่น Mercedes benz อาจไม่ให้นำเข้าโรมาเนียเป็นต้น
  • ถ้ามีคนขับมากกว่าหนึ่งคน ให้แจ้งกับบริษัทรถเช่าทุกครั้ง (ส่วนใหญ่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม) เพราะหากเกิดเหตุขณะที่คนซึ่งไม่ได้แจ้งไว้เป็นคนขับ ประกันอาจไม่ครอบคลุม
  • ในประเทศ Iceland แม้จะซื้อแบบ zero excess แล้วแต่อาจต้องซื้อประกันเพิ่มเติมสำหรับความเสียหายที่เกิดกับประตูรถอันเนื่องจากลม, ความเสียหายที่เกิดกับตัวถังรถอันเนื่องจากหินและทราย  ทั้งนี้เพราะภูมิประเทศและสภาพอากาศของประเทศนี้โหดร้ายจริงๆ
  • ประกันทุกประเภทไม่คุ้มครองกรณีเกิดจากผู้ขับมึนเมา หรือไม่ได้เป็นคนขับที่ระบุในสัญญา