ยุโรปเป็นทวีปที่มีแรงดึงดูดคนไทยเสมอ ด้วยความที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตหนาวต่างจากบ้านเรา ทำให้สภาพภูมิประเทศ สิ่งปลูกสร้าง รวมถึงวิถีชีวิตแตกต่างจากบ้านเรามาก ของที่ดูธรรมดาๆ สำหรับคนพื้นที่อย่างดอกหญ้า สัตว์เลี้ยง บ้านเรือนหรือวิถีชีวิตในยุโรปจึงถูกจริตคนไทยเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเส้นทางที่ผมจะเขียนถึงต่อไปนี้น่าจะถูกใจคนรักธรรมชาติและชื่นชอบความน่ารักของบ้านเรือน เพราะนี่คือเส้นทางบรรจงคัดเลือกให้ผ่านไฮไลต์ของ 3 ประเทศคือเยอรมนี-ออสเตรีย-อิตาลี
แผนการเดินทาง
เส้นทางการท่องเที่ยวครั้งนี้เน้นไปที่เที่ยวชมธรรมชาติ โดยเฉพาะเทือกเขาในแคว้นบาวาเรียของเยอรมนี, ทิโรลในออสเตรีย และทิโรลใต้ของอิตาลี แทรกด้วยแวะเที่ยวเมืองสวยๆ ที่อยู่บนเส้นทาง โดยเดินทางด้วยรถเช่าขับเป็นวงเริ่มจากมิวนิคและกลับมาจบทริปที่มิวนิคเช่นเดียวกัน
- 20 พ.ค. เดินทางถึงมิวนิค ขับรถไปเมือง Schwangau (เยอรมนี)
- 21 พ.ค. เช้าเที่ยวปราสาทนอยชวานสไตน์ บ่ายเดินทางไปที่พักใน Stubaital (ออสเตรีย) แวะเที่ยวสะพานแขวน Highline 179
- 22 พ.ค. เช้าขับรถไปเที่ยวเมือง Mittenwald (เยอรมนี) ขากลับแวะเที่ยว Innsbruck (ออสเตรีย)
- 23 พ.ค. ขับรถเข้าไปเที่ยวในหุบเขา Stubai และขึ้นกระเช้าไปบนยอดเขา ช่วงบ่ายเดินทางไป Funes (อิตาลี)
- 24 พ.ค. นั่งกระเช้าขึ้นไปเที่ยวบน Alpe di Siusi
- 25 พ.ค. เดินทางไป Cortina d’ Ampezzo แวะเที่ยว Lake Misurina, Lake Braies
- 26 พ.ค. เดินทางไป Maria Alm (ออสเตรีย)
- 27 พ.ค. เที่ยว Berchtesgaden (เยอรมนี)
- 28 พ.ค. ขับรถไปเที่ยว Gosau และ Hallstatt (ออสเตรีย)
- 29 พ.ค. เที่ยวเมือง Salzburg เดินทางกลับ Munich
- 30 พ.ค. เดินทางกลับ
สถานที่ท่องเที่ยวโดยย่อ
ปราสาทนอยชวานสไตน์, เมือง Fussen, Highline 179
ช่วงที่เดินทางไป (21 พ.ค. 62) ปราสาทกำลังซ่อมฝั่งประตูทางเข้าพอดี ทำให้ถ่ายภาพไม่ค่อยสวยนักจาก platform ที่เค้าทำไว้ให้ถ่ายภาพ แต่ถ้าดูมาจากด้านหลังหรือจากทางสะพานก็พอได้อยู่
เมือง Fussen ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับปราสาทเป็นเมืองเก่าที่ควรแวะ เดินง่าย มีของให้ช้อปราคาสบายกระเป๋า … อีกหนึ่งสถานที่น่าสนใจใกล้กันคือ Highline 179 สะพานแขวนข้ามหุบเขาและป้อมปราการตั้งอยู่ฝั่งประเทศออสเตรียไม่ไกลจากเมือง Fuseen นัก
Mittenwald / Walchensee
Mittenwald เป็นเมืองเล็กน่ารักชายแดนเยอรมนี (ติดออสเตรีย) ที่มีจุดเด่นคืออาคารบ้านเรือนซึ่งถูกเพ้นท์ลายดูมีเสน่ห์ ถนนคนเดินในเมืองมีคูพาดกลางน้ำใสแจ๋ว และเป็นเมืองที่รายล้อมด้วยภูเขาสูงสวยงาม
ส่วน Walchensee เป็นทะเลสาบที่อยู่ห่างจาก Mittenwald ไปไม่ไกล บรรยากาศเงียบสงบสวยงาม และคนไทยคงไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่
Innsbruck
เมืองใหญ่อีกเมืองของประเทศออสเตรียที่ชัยภูมิดี มีแม่น้ำ Inns ไหลผ่าน รายล้อมด้วยภูเขา มีตึกเก่าสีสันสวยงามกับประวัติยาวนาน
Stubai valley
หมู่บ้านในหุบเขาใกล้ Innsbruck ซึ่งวิวคล้ายสวิส เป็นจุดที่คนนิยมมาทำกิจกรรมกลางแจ้งรวมถึงเล่นสกี ช่วงปลายเดือนพฤษภาทุ่งหญ้าในหุบเขาเขียวขจี ออกดอกบานสะพรั่ง ส่วนบนยอดเขายังมีหิมะฟูๆ ให้เห็น เรียกว่าได้สองอารมณ์เลย
Dolomites (Val di Funes, Alpe di Siusi)
กลางเดือนพฤษภา แถบพื้นที่ในหุบเขาด้านล่างของภูเขาในเขต Dolomites จะเริ่มเขียวขจีและเต็มไปด้วยดอกไม้ แต่นั่งกระเช้าขึ้นไปบนเขาอาจจะยังมีหิมะอยู่อย่างไรก็ตามกระเช้าส่วนใหญ่ยังปิดทำการ
Dolomites (Cortina d’ Ampezzo, Misurina Lake, Braies Lake)
อีกฝั่งของ Dolomites ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเยอะโดยเฉพาะทะเลสาบต่างๆ ซึ่งช่วงเดือนพ.ค. ทะเลสาบบางแห่งยังเป็นน้ำแข็ง และยังเจอหิมะได้ในบางจุดที่อยู่สูง ส่วนเมืองในหุบเขาทุ่งหญ้ากำลังเขียวขจีสวยงาม
Maria Alm
เมืองเล็กๆ ใกล้ Zell am see ใครพักเมืองนี้สามารถขอบัตรเพื่อขึ้นกระเช้าไปชมวิวและเล่น roller coaster ในเขตเมืองได้ฟรี
Berchtesgaden (Hintersee, Konigsee, Ramsau)
อีกเมืองชายแดนเยอรมนีที่ห้ามพลาดเพราะเป็นเมืองที่น้ำใสมาก ไม่ว่าจะเป็นในแม่น้ำ หรือทะเลสาบ จุดท่องเที่ยวแต่ละแห่งสวยสะดุดตาทั้งนั้น
Gosau/Hallstatt
Gosau และ Hallstatt เป็นสองเมืองที่อยู่ใกล้กันและต่างก็มีทะเลสาบด้วยกันทั้งคู่ Gosau นั้นรู้จักกันในหมู่นักท่องเที่ยวน้อยกว่า Hallstatt มากจึงเงียบสงบกว่า แต่ก็สวยงามไปคนละแบบ
Salzburg
เมืองบ้านเกินของ Mozart ที่มีจุดท่องเที่ยวเยอะ รวมถึงสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ The Sound of Music อันโด่งดังด้วย
มิวนิค
ที่จริงแล้วทริปนี้แวะเข้าเมืองมิวนิคด้วย แต่แค่ไปเดินเล่นและหาของอร่อยทานจึงไม่ได้เอากล้องไปเก็บภาพครับ
การเตรียมตัว
วีซ่า
ทั้งสามประเทศใช้เชงเก้นวีซ่าจึงค่อนข้างสะดวก สามารถยื่นขอวีซ่าได้จากประเทศที่เราพักนานที่สุด และถ้าใครยังมีวีซ่าแบบมัลติเพิลเหลืออยู่ก็สามารถเดินทางเข้าทั้งสามประเทศได้เลย
ประกันการเดินทาง
ทุกครั้งที่เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ แนะนำอย่างยิ่งว่าควรทำประกันการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งปกติการขอวีซ่าเชงเก้นนั้นบังคับให้ต้องทำอยู่แล้ว แต่บางคนที่มีวีซ่าเหลืออยู่อาจลืมทำ ขอบอกว่าให้ทำเถอะเพราะหากเกิดอะไรขึ้นค่าใช้จ่ายในต่างประเทศนั้นสูงมาก การทำประกันเดินทางด้วยเงินเพียงเล็กน้อยสามารถช่วยบรรเทาค่าใช้จ่ายได้อย่างมากมาย
ผมเองเดินทางไปต่างประเทศบ่อยจึงเลือกทำประกันเดินทางแบบรายปีกับ MSIG ซึ่งราคาเริ่มต้นเพียง 3 พันกว่าบาทเท่านั้น ส่วนการเดินทางเป็นครั้งๆ ราคายิ่งถูกแค่หลักร้อยเรียกว่าคุ้มแสนคุ้มกับความคุ้มครองที่เราได้มา
สำหรับประกันเดินทางของ MSIG นั้นสามารถซื้อได้ง่ายๆ ผ่านระบบออนไลน์ที่
https://www.msig-thai.com/th/news/promotions/item/870-travel-insurance-promotion-052019
ช่วงนี้มีโปรโมชั่นแถม Starbucks card ด้วยนะ
ที่สำคัญควรอ่านเงื่อนไขและทำความเข้าใจกรมธรรม์ให้ดี จะได้เข้าใจว่ากรณีไหนบ้างที่เป็นข้อยกเว้น จะได้ไม่มีปัญหาในภายหลัง แต่บอกได้เลยว่าเท่าที่ติดตามและศึกษามา MSIG เป็นหนึ่งในบริษัทประกันที่มีประวัติดีมากในแง่ของการบริการ
เงินและบัตรเครดิต
ทั้งสามประเทศใช้เงินสกุล Euro โดยร้านค้าส่วนใหญ่รับเครดิตการ์ดดังนั้นไม่จำเป็นต้องแลกเงินสดไปเยอะ แต่ควรมีติดตัวไปบ้างเพราะก็มีร้านอาหารในเขตนอกเมืองบางแห่งไม่รับบัตร นอกจากนี้ควรเตรียมมี pin code ของบัตรเครดิตติดไปด้วย เนื่องจากเครื่องรูดบัตรอัตโนมัติบางแห่งต้องใช้ pin code เพื่อทำการชำระเงิน
เพิ่งทราบ trick อย่างนึงเรื่อง pin code จากการเดินทางครั้งนี้คือ ในกรณีที่เราไม่เคยใช้ pin code ให้ลองกด 0000 ดูอาจใช้ได้ ที่ทราบเพราะตอนจ่ายค่าตั๋วรถไฟที่สนามบินมิวนิค เครื่องออกตั๋วอัตโนมัติถาม pin code เจ้าหน้าที่ของการรถไฟแนะนำให้ลองกด 0000 ปรากฏว่าใช้ได้ (อันนี้ไม่รับรองว่าใช้ได้ทุกสถานการณ์นะ กรณีนี้อาจเป็นเพราะบัตรใบนี้ไม่ได้ผูกกับ pin code ก็เป็นได้)
อุปกรณ์ถ่ายภาพ
ทริปนี้เป็นทริปที่ตัดสินใจลดจำนวนอุปกรณ์ถ่ายภาพอย่างจริงจัง และเป็นครั้งแรกที่ไม่เอาซูมตัวเก่ง 24-70 f2.8 ติดตัวไปด้วย แต่ใช้เลนส์ fix 3 ตัวตลอดทริปคือ 20 f1.8, 35 f1.8 และ 85 f1.8 ทั้งหมดเป็นของ Nikon ใช้กับกล้อง Nikon D850 … จากการใช้งานตลอดทริปก็รู้สึกไม่ได้อย่างใจบ้างเป็นบางครั้งแต่ไม่ใช่อุปสรรคใหญ่นัก รู้สึกว่าน้ำหนักที่ลดลงทำให้สบายกว่าเดิมเยอะ และภาพ portrait ที่ได้จาก 85 f1.8 สวยกว่าใช้ซูมมาก โดยทริปนี้เลนส์ที่ใช้น้อยสุดคือ 20 f1.8
อาหาร
ทริปนี้ผสมผสานทั้งการทำอาหารทานเองแบบง่ายๆ เป็นบางมื้อ และทานตามร้านบ้างแล้วแต่ความสะดวก … ยังคงพวกหม้อหุงข้าวไปเหมือนเดิม ส่วนข้าวสาร, ผัก, เนื้อและเครื่องปรุงหลายอย่างไปซื้อเอาที่โน่น วิธีนี้ทำให้ประหยัดงบประมาณได้เยอะพอสมควรทีเดียว แต่ต้องเลือกที่พักแบบที่เป็น apartment ด้วยนะเพราะมีครัวให้เราสามารถทำอาหารได้ และขอแนะนำว่าอย่าทำอาหารที่มีกลิ่นแรงหรือควันเยอะเพราะไม่เหมาะกับระบบดูดอกาศของครัวแบบตะวันตก
รถเช่า
เนื่องจากสมาชิกมี 7 คนเลยจองรถ Mercedes Benz Vito แบบ 7 ที่นั่งไป เพราะเคยใช้ก่อนหน้านี้ก็สามารถบรรจุสัมภาระได้พอสมควร แต่ทริปนี้ไปเจอรถแบบที่จัดให้มีพื้นที่วางกระเป๋าด้านหลังน้อยมาก จึงตัดสินใจเพิ่มเงิน upgrade เป็น Ford transit 9 ที่นั่งซึ่งมีพื้นที่เก็บของด้านหลังเหลือเฟือสำหรับ 7 คน และที่นั่งก็สะดวกสบาย ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่ขับดีทีเดียวครับแถมประหยัดน้ำมันด้วย
ผมจองรถผ่าน Rentalcars.com พร้อมซื้อประกันแบบ full coverage (0 excess) จากเวปนี้ โดยบริษัทรถคือ Bushbinder
SIM internet
ทริปนี้ใช้ TRAVELSIM WORLD ของ TrueMoveH ซึ่งสามารถใช้งานได้ดีเกือบตลอดเส้นทาง มีช่วงที่เป็นภูเขาตอนข้ามจากเยอรมนีมาออสเตรีย (ใกล้ Fussen) สัญญาณขาดไปช่วงนึงแต่ Google map ก็ยังนำทางต่อได้แต่ใช้ social media ไม่ได้ … นอกจากนี้ก็มีที่ Hintersee ในเมือง Berchtesgaden ของเยอรมนีและ Lake Braies ในอิตาลีซึ่งใช้ social media ไม่ได้ สรุปแล้วสัญญาณจะครอบคลุมราว 90-95% ของพื้นที่ซึ่งผมเดินทางไปเที่ยว ส่วนความเร็วในการใช้งานก็ ok เลยสามารถ LIVE สดได้สบายๆ
สำหรับ TRAVELSIM สามารถหาซื้อได้ที่ True shop ทุกสาขาราคา 899 บาทใช้ data ได้ 6 GB ภายใน 15 วันนับจากวันที่ใช้ในต่างประเทศครั้งแรก โดยสามารถเปิดใช้ล่วงหน้าได้ตั้งแต่อยู่เมืองไทยด้วย data ที่แถมมาอีก 500 MB (มีประโยชน์ตอนรอเครื่องที่สนามบิน) อ้อ! ก่อนใช้งานซิมต้องลงทะเบียนที่ทรูช้อปก่อนออกเดินทางไปต่างประเทศนะ
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงประเทศที่ครอบคลุมการบริการ รวมถึง TRAVELSIM สำหรับใช้ในประเทศโซนอื่นๆ สามารถดูได้ที่ https://truemoveh.in.th/travelsim/
ที่พัก
ทริปนี้จองที่พักผ่าน booking.com เป็นหลักเช่นเคยเพราะเป็น member ระดับ genius แล้ว อิอิ
ที่พักในเมือง Schwangau ประเทศเยอรมนี
Hotel Weinbauer
ลิ้งค์ไปจอง https://www.booking.com/hotel/de/weinbauer.en-gb.html?aid=922261
เป็นที่พักริมทางในเมืองเล็กๆ ซึ่งเป็นที่ตั้งปราสาทนอยชวานสไตน์ ห้องพักดี ไม่เล็ก ไม่ใหญ่ บางห้องเห็นวิวปราสาทด้วย ชั้นล่างของที่พักมีห้องนั่งเล่นที่เห็นวิวปราสาท สรุปแล้วชอบมาก ข้อเสียคือไม่มีลิฟท์ ต้องยกกระเป๋าขึ้นที่พักบนชั้น 2
ลิ้งไปจอง https://www.booking.com/hotel/de/weinbauer.en-gb.html?aid=922261
ที่พักใน Stubai valley ประเทศออสเตรีย
Frühstückshotel Montana
ลิ้งค์ไปจอง https://www.booking.com/hotel/at/montana-telfes-im-stubaital.en-gb.html?aid=922261
ที่พักบนเนินเขา วิวสวย ห้องพักค่อนข้างกว้าง สะดวกสบายดี แต่มี staff น้อย หากต้องการความช่วยเหลือก็อาจจะไม่สะดวกนัก แต่โดยรวมเค้าเตรียมทุกอย่างไว้ค่อนข้างลงตัวอยู่แล้ว
ลิ้งค์ไปจอง https://www.booking.com/hotel/at/montana-telfes-im-stubaital.en-gb.html?aid=922261
ที่พักในเขต Dolomites ฝั่งตะวันตก ประเทศอิตาลี
Gasserhof
https://www.booking.com/hotel/it/gasserhof-barbiano.en-gb.html?aid=922261
เป็นอีกที่พักซึ่งประทับใจมาก ทำเลอยู่บนภูเขาวิวดี บรรยากาศเงียบสงบ เป็น apartment ท่ามกลางไร่แอปเปิ้ลของเจ้าของ ที่พักสะดวกสบาย เจ้าของน่ารัก ข้อเสียอย่างเดียวคือถนนทางขึ้นแคบมาก รถที่จะสวนกันต้องหลบหลีกตามช่วงที่เค้าทำไหล่ถนนไว้ หากเป็นการขับรถไปเที่ยวครั้งแรกก็อาจจะลำบากหน่อย
https://www.booking.com/hotel/it/gasserhof-barbiano.en-gb.html?aid=922261
ที่พักในเมือง Cortina d’ Ampezzo, Dolomites (ฝั่งตะวันออก) ประเทศอิตาลี
Hotel Menardi
ลิ้งค์ไปจอง https://www.booking.com/hotel/it/menardi.en-gb.html?aid=922261
เป็นที่พักใกล้ตัวเมือง Cortina d’ Ampezzo ที่อยู่ท่ามกลางภูเขา Dolomites ที่รายล้อม บรรยากาศห้องพักดี วิวเห็นยอดเขา เดินไปในเมืองใช้เวลาราว 15 นาที ถ้าขับรถก็ไม่ถึง 5 นาที
ลิ้งค์ไปจอง https://www.booking.com/hotel/it/menardi.en-gb.html?aid=922261
ที่พักในเมือง Maria Alm ประเทศออสเตรีย
Haus Stablerkrämer
ลิ้งค์ไปจอง https://www.booking.com/hotel/at/haus-stablerkramer.en-gb.html?aid=922261
Apartment น่ารักใจกลางเมือง Maria Alm ใกล้กับ Zell am see ห้องพักกว้าง สิ่งอำนวยความสะดวกครบ เจ้าของน่ารักมาก … ที่จริงชอบที่นี่มากแต่วันที่เดินทางไปถึงวุ่นวายกับการเตรียมของกินมื้อเย็นเลยลืมเก็บภาพไว้ครับ
ลิ้งค์ไปจอง https://www.booking.com/hotel/at/haus-stablerkramer.en-gb.html?aid=922261
ที่พักใกล้เมือง Salzburg ประเทศออสเตรีย
บ้านพัก Salzburg โฮมสเตย์
เป็นบ้านคนไทยในหมู่บ้านชานเมือง Salzburg ที่สามารถนั่งรถไฟไปลงสถานีใกล้ๆ ระยะห่างราว 700 เมตรได้อย่างสะดวก พี่ดำเจ้าของบ้านอัธยาศัยดีมาก ทำอาหารอร่อย แถมคุยสนุก รู้สึกอบอุ่นและอุ่นใจมากเมื่อได้พักที่นี่ ในบ้านจะมีห้องด้านบนสำหรับแขก 2 ห้อง และมีห้องใต้ดินอีก 1 ห้อง รวมๆ แล้วก็พักได้หลายคน แต่ถ้าเอาแบบสบายๆ แนะนำว่าสัก 4 คนกำลังดีโดยพักห้องด้านบนเพราะห้องน้ำจะอยู่ชั้นเดียวกันทำให้สะดวกกว่าห้องชั้นใต้ดินที่ห้องส้วมต้องเดินขึ้นมา 1 ชั้น
ลิ้งค์ไปจอง https://www.facebook.com/Pattra.Salzburg
ที่พักใกล้สนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมนี
Novotel München Airport
ลิ้งค์ไปจอง https://www.booking.com/hotel/de/novotel-munchen-airport.en-gb.html?aid=922261
Novotel ห่างจากสนามบินมิวนิคนิดเดียว สามารถใช้รถบัสเพื่อเดินทางไป-กลับได้ (คนละ 1.5 Euro) ห้องพักใหม่ สะอาด ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ สะดวกสบายดี
ลิ้งค์ไปจอง https://www.booking.com/hotel/de/novotel-munchen-airport.en-gb.html?aid=922261
บทสรุป
ช่วงสองสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤษภาคมเป็นอีกช่วงที่เหมาะสมสำหรับการเที่ยวบนเส้นทางสายนี้ บนพื้นราบดอกไม้กำลังบานสวยงาม ต้นไม้ผลิใบอ่อนดูสดใส บางจุดที่เป็นภูเขายังมีหิมะให้สัมผัส อากาศเย็น-หนาวแต่ก็ไม่มากจนทรมาน กลางวันยาวกว่าจะมืดก็ 3 ทุ่ม แต่ก็เป็นอีกช่วงที่อากาศแปรปรวนมีโอกาสเจอได้ทั้งฝน แดดและหิมะ จึงเตรียมชุดออกจะยากสักหน่อย ดังนั้นใกล้ๆ วันเดินทางควรเช็คพยากรณ์อากาศเพื่อดูสถาการณ์คร่าวๆ จะได้เตรียมตัวถูก
สำหรับใครที่สนใจเที่ยวแบบกลุ่มเล็กๆ กับนายมด สามารถลงชื่อที่ลิ้งค์ด้านล่างได้เลย หากมีทริปแล้วจะแจ้งให้ทราบครับ