ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาประเทศ Croatia กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวร้อนแรงอย่างรวดเร็วเพราะซีรีย์ Game of Thrones ที่ใช้เมืองเก่า Dubrovnik ทางตอนใต้ของประเทศเป็นฉากสำคัญในเรื่อง ทำให้แฟนคลับพากันหลั่งไหลไปดูสถานที่จริงให้เห็นกับตา … อัญมณีเม็ดงามแห่งทะเลอะเดรียติกจึงได้มีฉายความโดดเด่นให้บรรดานักท่องเที่ยวได้รู้จัก ไม่เพียงเฉพาะ Dubrovnik เท่านั้นแต่รวมถึงอีกหลายเมืองริมทะเลและอุทยานแห่งชาติสวยๆ ของ Croatia ด้วย … ทริปนี้แม้จะเน้นที่ Croatia เป็นหลักแต่ก็ถือโอกาสเที่ยวประเทศรอบๆ อย่าง Slovenia, Bosnia & Herzegovina และ Montenegro ด้วย เพราะประเทศเหล่านี้มีเที่ยวบินมาลงน้อย สะดวกสุดคือการพ่วงกับโครเอเชียนี่แหละ … และข่าวดีสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคน ตอนนี้ Traveloka กำลังจะจัดแคมเปญ EPIC SALE แคมเปญลดราคาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด โดยมอบส่วนลดสูงสุดถึง 80% จองได้ตั้งแต่ 25-29 กันยายน 2019 และเดินทางได้ถึงกลางปี 2020 เลย กดรับส่วนลดและดูรายละเอียดได้จากลิ้งค์นี้ https://www.traveloka.com/th-th/promotion/epicsaleth ส่วนตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษไป Croatia รวมถึงอีกหลากหลายประเทศทั่วโลกก็หาได้จากลิ้งค์นี้เลย https://www.traveloka.com/th-th/flight
แผนการเดินทาง
ทริปนี้เราเดินทางกันด้วยการบินไทยไปลงเวียนนา จากนั้นจึงต่อเครื่องไปลง Dubrovnik ซึ่งอยู่เกือบใต้สุดของประเทศ Croatia โดยเช่ารถขับลงไปเที่ยวประเทศ Montenegro แบบ Day-trip แล้วขับขึ้นเหนือเที่ยวตามเมืองชายฝั่งทะเลของ Croatia โดยแวะเข้าไปเที่ยวและพักใน Bosnia & Herzegovina 1 คืน จากนั้นขับขึ้นเหนือต่อเข้าประเทศ Slovenia เพื่อเที่ยวอีก 4 วัน 3 คืนก่อนจะกลับมาคืนรถและขึ้นเครื่องที่ Zagreb เมืองหลวงของ Croatia ไปยัง Vienna เพื่อบินต่อกลับไทย โดยแผนการเดินทางแต่ละวันมีดังนี้
ช่วงเวลาเดินทาง 15-28 มิถุนายน 2562
- 15 มิ.ย. : Check in ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
- 16 มิ.ย. : เช้าตรู่ถึง Vienna จากนั้นต่อเครื่องไปยัง Dubrovnik และรับรถเช่า
- 17 มิ.ย. : Day-trip ไปเที่ยวเมือง Perast และ Kotor ประเทศ Montenegro
- 18 มิ.ย. : เที่ยวเมืองเก่า Dubrovnik ช่วงบ่ายเดินทางไปยัง Mostar ประเทศ Bosnia & Herzegovina
- 19 มิ.ย. : เที่ยว Mostar และ Blagaj แล้วเดินทางกลับเข้า Croatia ไปยัง Split
- 20 มิ.ย. : เที่ยวเมือง Split เดินทางต่อไปยัง Zadar ชมพระอาทิตย์ตกในเมืองเก่า
- 21 มิ.ย. : เดินทางไปยัง Rastoke
- 22 มิ.ย. : เที่ยวอุทยาน Plivice
- 23 มิ.ย. : เดินทางไปยัง Bled ประเทศ Slovenia
- 24 มิ.ย. : Day trip เมือง Kranjska Gora
- 25 มิ.ย. : Day Trip เมือง Postojna
- 26 มิ.ย. : เดินทางกลับไปยังประเทศ Croatia เมือง Zagreb
- 27 มิ.ย. : บินจาก Zagreb ไปยัง Vienna เพื่อต่อเครื่องกลับกรุงเทพฯ
- 28 มิ.ย. : เดินทางถึงกรุงเทพฯ
สถานที่ท่องเที่ยวโดยย่อ
Dubrovnik (King’s landing ใน Game of Thrones) ประเทศ Croatia
เมืองเก่ามรดกโลกที่ยังคงความสมบูรณ์อยู่มาก ยิ่งเมืองนี้ถูกเลือกใช้เป็นฉากสำคัญในซีรีย์ Game of Thrones ก็ยิ่งเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวและเหล่าแฟนคลับซีรีย์ให้หลั่งไหลมาที่นี่มากขึ้น มาแล้วห้ามพลาดการขึ้นไปเดินรอบกำแพงเมือง (ค่าขึ้น 200 Kuna) เดินเที่ยวภายในเมืองเก่า และไปชมวิวเมืองเก่าจากป้อม (ค่าขึ้นรวมอยู่กับตั๋วกำแพงเมืองแล้ว)
Perast เมืองเก่าริมอ่าว Kotor ประเทศ Montenegro
เมืองเล็กที่ไม่ได้มีแค่ประวัติศาสตร์น่าสนใจ แต่ได้บรรยากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนแบบเต็มๆ … นอกจากเดินเที่ยวเก็บภาพสวยในเมืองแล้วยังสามารถนั่งเรือออกไปเที่ยวเกาะเล็กๆ Our Lady of the Rocks และ St. George ได้อีกด้วย
ใครมาเมืองนี้แนะนำให้ทานข้าวที่ร้านอาหารริมทะเลซึ่งเป็นของ Hotel Conte พนักงานบริการดี อาหารอร่อย ราคาสมเหตุสมผล (ไม่ถูกนะ แต่คุ้มค่ากับรสชาติ)
Kotor เมืองท่าและท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ Montenegro
Kotor (กอตอร์) เป็นเมืองเก่าสมัยกรีกและโรมันอายุกว่า 2,000 ปี อยู่ริมอ่าว Kotor ของประเทศมอนเตเนโกร ในอดีต Kotor เป็นศูนย์กลางการค้าของแถบนี้ … รอบเมืองมีกำแพงเมืองขนาดใหญ่ล้อมจากทะเลไปจนถึงบนภูเขาเพื่อป้องกันผู้รุกรานและปัจจุบันก็ยังคงสภาพสมบูรณ์มาก … ตัวเมืองมีขนาดไม่ใหญ่นัก บ้านเรือนด้านในส่วนใหญ่ถูกดัดแปลงเป็นที่พัก, ร้านอาหาร รวมถึงร้านขายของที่ระลึกเพราะ Kotor กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญไปแล้วหลังจากได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกตั้งแต่ปี 1979
ถ้าหากเวลาและกำลังเอื้ออำนวย แนะนำให้เดินขึ้นไปชมวิวเมืองจากมุมสูง เสียดายที่รอบนี้สมาชิกเพลียแดดเดินไม่ไหว เลยไม่ได้เก็บภาพมาฝาก
Mostar เมืองท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศ Bosnia & Herzegovina
เป็นเมืองที่เพิ่งผ่านสงครามกลางเมืองมาได้ราว 20 ปี จึงยังคงเห็นร่องรอยของสงครามอยู่ตามสถานที่หลายแห่ง แม้ฟังดูแล้วเป็นเรื่องน่าหดหู่แต่บรรยากาศของเมือง Mostar กลับดูมีชีวิตชีวา เขตเมืองเก่าและสะพานประวัติศาตร์คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวและร้านรวงที่เปิดต้อนรับแขกผู้มาเยือน จะว่าไปการเดินเที่ยวเมืองที่ดูเหมือนจะน่ากลัวแห่งนี้ กลับรู้สึกว่าปลอดภัยกว่าเมืองใหญ่ชื่อดังหลายเมืองในยุโรปซะอีก แถมค่าครองชีพยังถูกมากซะด้วย
Blagaj อารามริมลำธารที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของ Bosnia & Herzegovina
Blagaj เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในประเทศ Bosnia and Herzegovina อยู่ไม่ไกลจาก Mostar เป็นที่ตั้งของ Blagaj Tekija, อารามริมลำธารที่มีความสำคัญทางประวัติศาตร์ …. มาที่นี่นอกจากได้ชมความงามของลำธารใสสีเขียวมรกตแล้วแนะนำให้ทานข้าวเที่ยงที่ร้านริมลำธารด้วย โดยเมนูเด็ดคือปลาเทร้าซ์ย่างเกลือ
Split เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ Croatia
ตั้งอยู่ริมทะเลอะเดรียตริก เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มาแต่โบราณทั้งในด้านการค้าและคมนาคม ปัจจุบันส่วนเมืองเก่าของ Split ถูกโอบล้อมด้วยความเจริญ แต่อาคารต่างๆ ก็ยังคงความสมบูรณ์อยู่มาก หินสีขาวที่ใช้ทำผนังอาคารและทางเดินทำให้เมืองนี้ดูสง่า โปร่งไม่ทึบหรือดูแข็งเหมือนเมืองเก่ายุคกลางที่ใช้หินสีเข้ม ส่วนตัวแล้วผมชอบ Split มากเพราะดูมีชีวิตชีวา สวนหย่อมริมท่าเรือก็ถูกจัดอย่างสวยงามได้บรรยากาศแนวเมดิเตอร์เรเนียน ส่วนด้านในแม้ตึกเก่าจะกลายเป็นร้านค้าไปเกือบหมดแต่ก็ยังคงสภาพภายนอกที่สวยคลาสสิคไม่มีเปลี่ยน … ในแต่ละวันในบริเวณเมืองเก่าจะจัดให้มีการแสดงทั้งดนตรีและพาเหรดเพื่อสร้างบรรยากาศให้ Split กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
Zadar เมืองริมทะเลแสนโรแมนติกประเทศ Croatia
ไป Zadar รอบนี้ตั้งใจไปเก็บเกี่ยวบรรยากาศพระอาทิตย์ตกโดยเฉพาะ เลยเลือกนั่งร้านอาหารที่เห็นวิวทะเล ใช้เวลาส่วนใหญ่ถ่ายภาพแสงสีทองช่วงเย็นริมฝั่ง พอช่วงใกล้พระอาทิตย์ตกก็เดินไปฟังเสียง sea organ … แม้ไม่ได้เดินเที่ยวเมืองเก่าแบบจริงจัง แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆ
Rastoke หมู่บ้านน้ำตกในประเทศ Croatia
Rasktoke หมู่บ้านน้ำตกเล็กๆ ใกล้อุทยาน Plivice ในประเทศโครเอเชีย เป็นอีกจุดท่องเที่ยวที่ผมชอบมาก … ลำพังตัวน้ำตกนั้นไม่ได้ยิ่งใหญ่อลังการสักเท่าไหร่ เหมือนที่หลายๆ คนแซวว่าภาพชุดนี้ถ่ายที่น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นหรือเปล่า จะว่าไปมันก็คล้ายๆ นะ น้ำสีเขียวพอกันเลย … แต่ความสุขของการชมน้ำตกที่ Rastoke มันคือการได้ไปพักอยู่ท่ามกลางสายน้ำตก นอนฟังเสียงน้ำทั้งคืน เพราะหมู่บ้านแห่งนี้แทรกตัวอยู่ท่ามกลางน้ำตก เรียกได้ว่าน้ำตกไหลผ่านใต้บ้านเลยทีเดียว และเค้าก็ใช้แรงของสายน้ำไปปั่นกังหันเล็กๆ ด้วย … ภายในตัวหมู่บ้านยังมีการจัดสวนดอกไม้ บ่อเลี้ยงปลาเทร้าซ์ แค่เดินชมก็เพลินแล้ว … ที่พักของผมในหมู่บ้านแห่งนี้เป็นเพียงแห่งเดียวของทริปที่ไม่มีแอร์ แต่อากาศกลับเย็นสบายตลอดวันแม้จะเป็นช่วงฤดูร้อนก็ตาม และนี่แหละคือเสน่ห์ของ Rastoke ที่มากกว่าการเป็นแค่สายน้ำตกธรรมดา
Plitvice อุทยานน้ำตกขนาดใหญ่ที่สวยที่สุดของ Croatia
ที่นี่คือสถานที่ท่องเที่ยวที่ทำให้ผมรู้จัก Croatia เมื่อหลายปีก่อน ก่อนที่จะมีซีรีย์ Game of Thrones … Plitvice มีพื้นที่กว้างขวาง ตัวน้ำตกแบ่งเป็น 2 โซนคือ upper lake และ lower lake โดยอุทยานได้ทำทางเดินโดยรอบไว้ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด แต่ไม่อนุญาตให้ลงเล่นน้ำ มีเส้นทางแนะนำให้เลือกหลายแบบตั้งแต่ใช้เวลาน้อยๆ 2-3 ชั่วโมงไปจนถึงแบบเต็มวัน โดยภายในจะมีจุดบริการรถ, เรือเพื่อความสะดวก แต่ส่วนใหญ่ก็ต้องใช้การเดินเป็นหลัก ทั้งนี้ไฮไลต์ของอุทยานจะอยู่ที่ Lower lake ใกล้ทางเข้าประตู 1
Bled เมืองท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศ Slovenia
ไป Bled รอบนี้ใช้เวลาส่วนใหญ่ที่ร้านอาหารริมทะเลสาบ กับชายหาดเล็กๆ ที่อยู่ด้านหน้าซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยจุดหนึ่งของ Bled ส่วนจุดอื่นๆ แค่นั่งรถชมบรรยากาศเพราะรอบทะเลสาบ Bled หาที่จอดรถค่อนข้างยาก … เช้าวันก่อนเดินทางออกจาก Bled ผมแวะขึ้นไปชมวิวมุมสูงจากปราสาท Bled ซึ่งอากาศดีทำให้วิวสวยมากๆ
นอกจากทะเลสาบ Bled แล้วห่างออกไปไม่ไกลมีอีกแหล่งท่องเที่ยวที่ควรแวะ นั่นคือ Vintgar gorge ซึ่งเป็นโตรกธารที่เปิดให้เข้าชมในช่วงฤดูร้อน ลักษณะเป็นเส้นทางเดินชมลำธารที่ไหลผ่านโตรกผาหิน น้ำสีเขียวใสสวยสดชื่นมาก
Postojna ประเทศ Slovenia
เป็นที่ตั้งของที่เที่ยวสำคัญ 2 แห่งคือ ถ้ำ Postojna และปราสาท Postojna ซึ่งอยู่ห่าง Bled ไปราว 100 ก.ม. แต่ใช้เวลาไม่นานเพราะเส้นทางเป็นทางด่วนตั้งแต่ Bled ถึงเมือง Postojna เราสามารถซื้อตั๋วเข้าชมถ้ำและปราสาทคู่กันได้เลยโดยมีส่วนลดให้นิดหน่อย แต่แนะนำว่าถ้าไม่อินเรื่องประวัติศาสตร์มากก็ไม่จำเป็นต้องซื้อตั๋วปราสาท เราสามารถถ่ายภาพจากด้านนอกได้ ส่วนด้านในปราสาทไม่ได้สวยงามนัก เน้นไปเรื่องข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ และประวัติมากกว่าซึ่งเราสามารถค้นหาข้อมูลได้เองจาก internet ส่วนตัวถ้ำ Postojna นั้นยอมรับว่ายิ่งใหญ่อลังการกว่าที่คิดมาก แต่ก็ถ่ายภาพให้สวยยากเช่นกันครับ
Kranjska Gora เมืองชายแดนของ Slovenia ที่โด่งดังในเรื่องสกีรีสอร์ท แต่หน้าร้อนก็สวยไม่แพ้กัน
เป็นอีกครั้งที่ได้แวะไปที่ยว Kransjska Gora โดยเลือกไปนั่งทานข้าวเที่ยงริมทะเลสาบ Jasna ซึ่งรอบนี้อากาศดีเช่นเคย ต้นไม้โดยรอบเขียวขจี น้ำยังใสเหมือนเดิม แต่หิมะบนภูเขาละลายเกือบหมดแล้ว ดังนั้น background ก็จะเป็นภูเขาหินปูนสีเทาๆ แทนที่จะเป็นภูเขามีหิมะบนยอดเหมือนตอนมาช่วง spring
Zagreb เมืองหลวงของ Croatia ที่น่าเดินเล่น
Zagreb ถ้าเป็นวัยรุ่นต้องบอกว่าเมืองนี้ cool … แม้จะเป็นเมือง “เก่า” แต่ก็ดู “เก๋า” ไม่เชย … รถราง จักยาน รถยนต์ สัญจรร่วมบนถนนเดียวกันได้อย่างสามัคคี แถมดูเป็นระเบียบเรียบร้อยดี จำได้ว่าขับรถแบบเกร็งมาก กลัวจะไปชนรถราง 555 …. พอลงมาเดินในเมืองเก่าก็มีมุมเก๋ๆ ให้ถ่ายภาพเต็มไปหมด … สำหรับเรื่องความปลอดภัยก็คงไม่ 100% หรอกแต่บอกได้ว่าโจรล้วงกระเป๋าน้อยกว่าปารีสหรือโรมเยอะ … สรุปว่าเป็นอีกเมืองที่น่าเดิน น่าถ่ายภาพจ้า
การเตรียมตัว
วีซ่า
วีซ่าเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวสุดแล้วล่ะสำหรับทริป 4 ประเทศนี้ สรุปแบบย่อๆ ให้แบบนี้นะครับ
- Slovenia ต้องใช้เชงเก็นวีซ่าเท่านั้น
- Croatia ใช้วีซ่าของ Croatia หรือเชงเก็นวีซ่าแบบ multiple ที่ยังไม่หมดอายุ (สามารถเข้า Croatia ได้ตั้งแต่วันเริ่มต้นของ เชงเก็นวีซ่า โดยไม่จำเป็นต้องผ่านประเทศกลุ่มเชงเก็นก่อน)
- Bosnia and Herzegovina สามารถใช้วีซ่าของ Croatia หรือ Schengen VISA แบบ multiple ได้ แต่ไม่สามารถเดินทางตรงเข้า Bosnia ได้ จะต้องผ่านโครเอเชียหรือมอนเตเนโกร
- Montenegro ใช้วีซ่าของ Montenegro หรือเชงเก็นวีซ่าแบบ multiple ที่ยังไม่หมดอายุได้เช่นกัน
โดยสรุป การเข้าไปเที่ยว 4 ประเทศนี้แบบง่ายที่สุดคือ การใช้เชงเก็นวีซ่าแบบ multiple เพราะการไปขอแยกแต่ละประเทศนั้นเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเยอะมาก แต่ปัญหาคือการขอวีซ่าสโลวีเนียในประเทศไทยต้องทำผ่านสถานทูตออสเตรีย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะแจ้งเลยว่าวีซ่าเชงเก็นที่ออกให้จะไม่รวมวันที่อยู่ในโครเอเชีย หรือจะให้พูดแบบตรงๆ ก็คือเค้าไม่สนับสนุนการเที่ยวโครเอเชียโดยใช้ประโยชน์จากเชงเก็นวีซ่าที่ขอผ่านประเทศเค้านั่นเอง
ดังนั้นถ้าจะไปเที่ยวผมคิดว่าดีที่สุดคือมีวีซ่าเชงเก็นเหลือจากทริปอื่นแล้วไปเที่ยวครับ ส่วนใครจะใช้วิธีการใดๆ ให้ได้มาซึ่งเชงเก็นวีซ่าแบบศรีธนนชัยก็อาจต้องรับความเสี่ยงและแผนรองรับเอาเองถ้าเกิดการตรวจสอบเมื่อเราเดินทางไปถึง
ประกันการเดินทาง
เนื่องจากผมมีประกันเดินทางแบบรายปีจาก MSIG อยู่แล้ว ทริปนี้จึงไม่ต้องทำประกันใหม่ ทุกครั้งที่เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ แนะนำอย่างยิ่งว่าควรทำประกันการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งปกติการขอวีซ่าเชงเก็นนั้นบังคับให้ต้องทำอยู่แล้ว แต่บางคนที่มีวีซ่าเหลืออยู่อาจลืมทำ ขอบอกว่าให้ทำเถอะเพราะหากเกิดอะไรขึ้นค่าใช้จ่ายในต่างประเทศนั้นสูงมาก การทำประกันเดินทางด้วยเงินเพียงเล็กน้อยสามารถช่วยบรรเทาค่าใช้จ่ายได้อย่างมากมาย
ผมเองเดินทางไปต่างประเทศบ่อยจึงเลือกทำประกันเดินทางแบบรายปีกับ MSIG ซึ่งราคาเริ่มต้นเพียง 3 พันกว่าบาทเท่านั้น ส่วนการเดินทางเป็นครั้งๆ ราคายิ่งถูกแค่หลักร้อยเรียกว่าคุ้มแสนคุ้มกับความคุ้มครองที่เราได้มา
สำหรับประกันเดินทางของ MSIG นั้นสามารถซื้อได้ง่ายๆ ผ่านระบบออนไลน์ที่ http://bit.ly/2Unm5cT
ช่วงนี้มีโปรโมชั่นแถม Starbucks card ด้วยนะ
ที่สำคัญควรอ่านเงื่อนไขและทำความเข้าใจกรมธรรม์ให้ดี จะได้เข้าใจว่ากรณีไหนบ้างที่เป็นข้อยกเว้น จะได้ไม่มีปัญหาในภายหลัง แต่บอกได้เลยว่าเท่าที่ติดตามและศึกษามา MSIG เป็นหนึ่งในบริษัทประกันที่มีประวัติดีมากในแง่ของการบริการ
เงินและบัตรเครดิต
การแลกเงินก็น่าปวดหัวนิดหน่อย เพราะ Croatia ใช้เงิน Kuna … Montenegro และ Slovenia ใช้เงิน Euro ส่วน Bosnia & Herzegovina ใช้เงิน mark (BAM) แต่ก็รับ Euro ด้วย ทริปนี้จึงแลก Euro ไปจากเมืองไทย จากนั้นเอา Euro บางส่วนไปแลกเป็น Kuna ที่สนามบิน Dubrovnik ส่วนใน Bosnia ตามร้านใหญ่ๆ สามารถใช้บัตรเครดิตหรือเงิน Euro แทนได้ โดยอัตราแลกเงินช่วงที่ผมเดินทาง (ปลายมิถุนายน 62) มีดังนี้
1 Euro = 36 THB
1 Euro = 7.4 Kuna
1 Euro = 2 BAM
สำหรับเครื่องจ่ายเงินอัตโนมัติ อาจต้องใช้ pin code คู่กับบัตรเครดิตด้วยนะครับ อย่าลืมเตรียมไป (เช่นที่จอดรถ, ปั้มน้ำมันบางแห่ง)
อุปกรณ์ถ่ายภาพ
ทริปนี้เป็นทริปที่สองที่จำกัดน้ำหนักอุปกรณ์ด้วยการตัดสินใจนำไปเฉพาะเลนส์ fix 3 ตัวได้แก่ 20 f1.8, 35 f1.8 และ 85 f1.8 ทั้งหมดเป็นของ Nikon ใช้กับกล้อง Nikon D850 และยอมซื้อขาตั้งกล้องตัวใหม่ Manfrotto BeFree Advance Carbon Fiber ที่ขนาดเล็กและเบาลงเอาไว้สำหรับเดินทางทริปต่างประเทศ … จากการใช้งานตลอดทริปก็รู้สึกได้เลยว่าสบายข้อมือและคอขึ้นมาก เพราะน้ำหนักเลนส์ fix เบากว่า zoom 24-70 f2.8 เยอะ ส่วนความคล่องตัวก็อาจจะน้อยลง แลกกับความเบาและภาพที่ได้จากเลนส์ fix ซึ่งมีมิติมากขึ้น … สำหรับขาตั้งกล้องตัวใหม่ ได้หยิบออกมาใช้ไม่กี่ครั้ง แต่ประทับใจมากเรื่องน้ำหนักที่เบากว่าตัวเดิมมาก ในขณะที่ยังคงรักษาความมั่นคงได้อย่างดีในสถานการณ์ทั่วไป แต่หากเจอลมแรงๆ ก็คงไม่เหมาะนัก
อาหารการกิน
ทริปนี้เลือกที่พักแบบมีครัวเกือบทุกวัน วันไหนที่สะดวกก็จะทำอาหารทานกันเอง โดยเตรียมหม้อหุงข้าวขนาดเล็กกับอาหารแห้งไปเล็กน้อย ที่เหลือก็ไปซื้อวัตถุดิบและของสดเอาตามร้านสะดวกซื้อรายทาง … บางมื้อก็ทานร้านข้างนอกเพราะสมาชิกในทริปอยากนั่งเสพบรรยากาศสบายๆ ดื่มไวน์ไปชมวิวไป
รถเช่า
ทริปนี้ไปด้วยกัน 9 คนจึงจองรถ Minivan แบบ 9 ที่นั่ง Renault traffic ซึ่งกว้างขวางดีทั้งในส่วนที่นั่งผู้โดยสารและพื้นที่วางของด้านหลัง แต่ที่แถวหน้าสุดคนนั่งข้างคนขับ 2 คนก็จะเบียดกันสักหน่อย แต่สภาพรถที่ได้มีแผลค่อนข้างเยอะจากคนเช่าคนก่อนๆ แถมใกล้วันสุดท้ายมีไฟเตือน Adblue หมด ลองหาข้อมูลดูพบว่ามันคือน้ำยาสำหรับเติมไปผสมกับน้ำมันเพื่อลดมลภาวะ ที่จริงบริษัทรถเช่าควรบำรุงรักษาไม่ให้ขาด แต่เพื่อไม่ให้มีปัญหาก็เลยเติมไปเองเพราะราคาแค่ 2-3 ร้อยบาท
ผมจองรถผ่าน Rentalcars.com พร้อมซื้อประกันแบบ full coverage (0 excess) จากเวปนี้ โดยบริษัทรถคือ AVANTCAR
Pocket Wi-Fi สำหรับใช้งาน Internet
โจทย์ใหญ่เรื่องการใช้ Internet ในทริปนี้คือต้องหา SIM หรือ Pocket WIFI ที่สามารถใช้ได้ทุกประเทศ เพราะนอกจากไว้ upload ภาพบน social media แล้วยังต้องใช้ Google map ในการนำทางและใช้ app อื่นๆ ในการหาข้อมูลและติดต่อ host ไม่ว่าจะเป็น google, booking.com, waze, skype เป็นต้น …ทั้งนี้ SIM ของ operator รายใหญ่ที่ขายในบ้านเราไม่สามารถใช้ใน Montenegro กับ Bosnia & Herzegovina ได้ (True, AIS, DTAC)
ผมเองเคยเจอปัญหานี้มาแล้วเมื่อปีก่อน จึงพยามหา SIM หรือ Pocket WiFi แบบที่ใช้ได้ทุกประเทศของทริปรวมถึงการ transit ใน Austria ด้วยเพื่อให้การเดินทางและการค้นหาข้อมูลไม่สะดุด … แล้วก็มาเจอกับเจ้านี้ครับ Instasim ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการหลากหลายมากทั้ง SIM, Pocket WiFi และ GPS สามารถเลือกบริการได้ตามความต้องการของเราเลย และหนึ่งในนั้นคือ 4G World Pocket WiFi ซึ่งครอบคลุมการใช้งานทุกประเทศที่ผมเดินทาง เพราะ Pocket WiFi ตัวนี้สามารถใช้ได้ใน 44 ประเทศของยุโรปและอีก 60 ประเทศทั่วโลก โดยมีให้เลือกแบบ 4G data 500 MB ต่อวันกับ 1 GB ต่อวัน (หลังจากนั้นจะลดลงเหลือ 512 mbps – 2 mbps ขึ้นกับประเทศ) … ทั้งนี้ผมเลือกแบบ 1 GB/วัน ในราคาวันละ 350 บาท (เช่า 5 วันแถม 1 วัน) สามารถแชร์กันได้ 5 เครื่อง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมของ package นี้สามารถดูได้จากลิ้งค์ด้านล่างนี้
https://www.instasim.com/th/pocketwifi/pocket-wifi-euday-1gb.html
ในด้านการใช้งานผมได้ใช้ตั้งแต่ตอน Transit ที่ Vienna จากนั้นเดินทางไปยัง Croatia และมี Day trip ไปประเทศ Montenegro, โฉบเข้าไปพักใน Bosnia 1 คืนก่อนจะกลับเข้า Croatia แล้วเดินทางไป Slovenia และกลับมาคืนรถปิดทริปใน Croatia อีกครั้ง … จะเห็นได้ว่าถ้าใช้วิธีการซื้อ local sim จะยุ่งยากมากๆ เพราะมีการเดินทางเข้า-ออกประเทศกลับไป-กลับมา อาจต้องเปลี่ยน sim กันวุ่นเลย ที่สำคัญด่านตรงชายแดนในประเทศเหล่านี้ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลเมือง ไม่มีร้านค้าให้สามารถซื้อ sim ได้เลย จึงถือว่า Instasim ตอบโจทยร์ตรงนี้มากๆ
ในเรื่องสัญญาณ internet นั้นครอบคลุมทุกประเทศที่เดินทาง และความเร็วในการใช้งานโดยรวมถือว่า ok ความเร็วดีมากในเขตเมือง และก็ยังสามารถใช้งานได้ในเขตนอกเมือง ซึ่งหลักๆ เลยจะใช้งาน Google map และ Social media โดยตลอดทริปความเร็วเพียงพอที่จะใช้งานได้อย่างลื่นไหล จุดที่ความเร็วจะช้าหน่อยคือที่ประเทศ Bosnia & Herzegovina ครับ
สรุปการใช้งาน Instasim แบบสั้นๆ ให้อีกครั้งตามนี้ครับ
ข้อดีของ 4G World Pocket Wifi
- ใช้งานง่ายมาก แค่เปิดก็สามารถเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fiได้เลย
- ใช้แชร์กันได้สูงสุด 5 อุปกรณ์
- สัญญาณครอบคลุมในหลายประเทศ รวมถึงประเทศที่ซิมเมืองไทยไม่ค่อยรองรับอย่าง Bosnia & Hezegovina หรือ Montenegro
- เมื่อ data ในแต่ละวันหมดยังคงใช้ได้ที่ความเร็วสูงสุด 2 mbps
ข้อสังเกต
- ควรปิดบริการการเก็บภาพขึ้น cloud เพราะจะทำให้สิ้นเปลือง data มาก
- ขณะใช้งานตัวเครื่องจะค่อนข้างร้อนคล้ายกับ power bank
- อาจมีความสะดวกน้อยกว่าซื้อ SIM แยกเป็นคนๆ เพราะผู้ใช้งานต้องอยู่ในบริเวณเดียวกัน หากไปเที่ยวแล้วแยกกันเดินอาจจะไม่ตอบโจทย์นัก
- ใช้ได้วันละไม่เกิน 3 ประเทศ โดยต้องแจ้งให้กับบริษัททราบก่อนเดินทางเพื่อเปิดสัญญาณให้
โดยสรุปต้องบอกว่า instasim เป็นหนึ่งตัวเลือกที่ดีเลย เพราะมีสินค้าหลากหลายให้เลือกตามความต้องการ ยังไงลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เวปไซต์ครับ https://www.instasim.com/th/
ที่พัก
ทริปนี้จองที่พักผ่าน booking.com เป็นหลักเช่นเคยเพราะเป็น member ระดับ genius level 2 แล้ว อิอิ … ใครที่กำลังจะเดินทางอย่าลืมจองผ่าน link นี้ (http://bit.ly/2WuIEAN) เพื่อรับเครดิตเงินคืน 1000 บาทเมื่อยอดจองมากกว่า 2000 บาท ยังจองได้ถึง 31 สิงหาคม 62 แต่เดินทางหลังจากนั้นได้
เนื่องจากทริปนี้ไม่มีเวลาเก็บภาพห้องพักแบบจริงจังเลย จึงขอนำภาพจากเวป booking.com มาให้ดูแทนนะครับ โดยพยายามเลือกจากภาพที่เห็นว่าใกล้เคียงกับที่ไปเจอมามากที่สุด
ที่พักในเมือง Dubrovnik ประเทศ Croatia
Apartments My Dubrovnik
ตั้งอยู่ห่างจากย่านเมืองเก่ามาเล็กน้อย ข้อดีคือมีที่จอดรถฟรี เดินทางเข้าเมืองก็ไม่ยากไม่ว่าจะด้วยรถสาธารณะหรือขับรถเอง ตัวที่พักเป็นแบบอพาร์ทเม้นต์มีครัวเล็กๆ ห้องมีหลายแบบ โดยรวมสะอาดและสะดวกสบายพอสมควร แต่วิวบางห้องอาจไม่สวยเหมือนที่เห็นในภาพเพราะอยู่ชั้นล่าง
ลิ้งค์ไปจอง https://www.booking.com/hotel/hr/apartmani-bakoa.th.html?aid=922261
ที่พักในเมือง Mostar ประเทศ Bosnia & Herzegovina
Inn Town
เป็นที่พักที่แนะนำมากๆ ถ้ามาเที่ยว Mostar … ห้องพัก, สิ่งอำนวยความสะดวกดีมากถ้าเทียบกับราคา บางห้องวิวสวยสุดๆ มองเห็นเมืองเก่าเต็มตา จากที่พักเดินไปสัก 3-4 นาทีก็ถึงสะพานซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวแล้ว อย่างไรก็ตามที่พักแห่งนี้ไม่มีลิฟต์ต้องยกกระเป๋าขึ้น 2-3 ชั้นถ้าพักด้านบน และทางเข้าอาจแคบหน่อยทำให้การขับรถขึ้นไปจอดนั้นต้องใช้ทักษะพอสมควร
ลิ้งค์ไปจอง https://www.booking.com/hotel/ba/inn-town-mostar.th.html?aid=922261
ที่พักในเมือง Split ประเทศ Croatia
Tajla Rooms
เป็นอีกที่พักซึ่งทุกคนในกลุ่มชอบมาก อันที่จริงเค้าทำเหมือนเป็น hostel เล็กๆ มี 5 ห้องนอนพร้อมห้องน้ำส่วนตัว มีครัวส่วนกลาง และมีลานระเบียงขนาดใหญ่ด้านบนพร้อมโต๊ะเก้าอี้ จากระเบียงนี้สามารถเห็นวิวทะเลสวยมาก … เนื่องจากพวกเราจอง 5 ห้องก็เลยกลายเป็นว่าพื้นที่ทั้งหมดเป็นของพวกเราไปโดยปริยาย ส่วนที่ตั้ง apartment นั้นจะห่างจากย่านเมืองเก่าออกมาหน่อย ถ้าเดินไปก็ใช้เวลาราว 15 นาที … ใต้ตึกที่พักมีที่จอดรถแบบเก็บเงินราคาสูงหน่อยแต่ก็ดีกว่าไปจอดที่ลานจอดรถฟรีซึ่งห่างออกไปราว 500 เมตรที่อาจไม่สะดวกในการเอาของขึ้นลงรถสักเท่าไหร่
ลิ้งค์ไปจอง https://www.booking.com/hotel/hr/tajla-rooms-xx-new-in-2017-xx.th.html?aid=922261
ที่พักในเมือง Zadar ประเทศ Croatia
Apartments and a Room Ina
ผมมาพักที่นี่เป็นครั้งที่สอง รอบนี้จองไป 2 apartment กับ 1 ห้องนอน สถานที่สะดวกสบายพอสมควร ห้องใหญ่สุดจะมีครัวที่มีเครื่องครัวพร้อมมาก พื้นที่ทานอาหารก็สะดวกสบาย แต่ต้องออกแรงขนกระเป๋ากันหน่อยเพราะห้องอยู่ชั้นบนสุด … ตำแหน่งที่ตั้งจะอยู่ห่างจากเมืองเก่าออกมาราว 10-15 นาทีถ้าเดินทางด้วยรถ
ลิ้งค์ไปจอง https://www.booking.com/hotel/hr/apartmani-ina.th.html?aid=922261
ที่พักในหมู่บ้านน้ำตก Rastoke ประเทศ Croatia
Guesthouse Slovin Unique – Rastoke
เป็นที่พักที่อยู่ในเขตหมู่บ้านน้ำตก Rastoke เลย เราจองเป็นอพาร์ตเม้นต์แบบ 2 ห้องนอน กับอีก 3 ห้องนอนธรรมดา ตัวอพาร์ตเม้นต์กว้างขวางและสะดวกสบาย ลานระเบียงมองเห็นวิวของตัวหมู่บ้านบรรยากาศดีมากๆ แต่ของในครัวที่ให้อาจจะน้อยไปสักหน่อย อย่างกระติกต้มน้ำก็ต้องขอ ไม่มีให้ในห้อง ส่วนห้องแบบธรรมดาจะอยู่คนละอาคาร ตกแต่งด้วยไม้ ห้องไม่ใหญ่นัก ไม่ได้ดูใหม่มากแต่ก็เข้ากับบรรยากาศโดยรวม …อ้อ! ที่นี่ไม่มีแอร์นะ มีเพียงพัดลมเพดาน แต่เนื่องจากอากาศเย็นสบายก็เลยไม่รู้สึกทรมาน ถ้ามาช่วงที่อากาศร้อนมากๆ ก็อาจจะไม่สบายตัวเท่าไหร่
ลิ้งค์ไปจอง https://www.booking.com/hotel/hr/guesthouse-slovin-unique-rastoke.th.html?aid=922261
ที่พักใกล้ทะเลสาบ Bled ประเทศ Slovenia
Apartments & Rooms Aleksandra
เป็นที่พักอีกแห่งที่ปลื้มมาก ตั้งอยู่ในเขตพักอาศัยที่เงียบสงบ มองเห็นวิวปราสาท Bled และภูเขารายรอบ มีแแปลงผักสวนครัวและแปลงดอกไม้เล็กๆ ในบริเวณบ้านรวมถึงบ้านข้างเคียงทำให้ดูสดชื่น ตัวห้องพักดูใหม่ สะอาด ที่สำคัญเจ้าของน่ารักมาก คุยเก่ง และให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์หลายอย่าง ที่พักมีทั้งแบบ apartment และห้องธรรมดาไม่มีครัว
ลิ้งค์ไปจอง https://www.booking.com/hotel/si/apartment-amp-rooms-aleksandra.th.html?aid=922261
ที่พักใกล้สนามบิน Zagreb ประเทศ Croatia
London Rooms Zagreb Airport
ตั้งอยู่ใกล้สนามบิน Zagreb มีที่จอดรถฟรี ด้านล่างเป็นร้านอาหารเล็กๆ กับบาร์ ด้านบนทำเป็นห้องพักแบ่งเช่า มีหลายแบบ หลายขนาด โดยรวมกว้าง สะดวกสบาย และสะอาดดี แต่วันที่เราไประบบน้ำมีปัญหา ไหลอ่อยๆ ก็เลยลดความประทับใจไปนิดนึง ถ้าไม่เจอปัญหานี้ถือว่าเป็นที่พักที่ดีและคุ้มค่าทีเดียว
ลิ้งค์ไปจอง https://www.booking.com/hotel/hr/london-rooms-zagreb-airport.th.html?aid=922261
บทสรุป
ช่วงปลายเดือนมิถุนายนเป็นช่วงที่ยุโรปเข้าสู่หน้าร้อนแล้ว ฟ้าใส ต้นไม้เขียวชอุ่มสดชื่น ดอกไม้หลายชนิดกำลังบานสะพรั่ง ปริมาณฝนน้อย แดดค่อนข้างร้อนจัดทำให้เพลียได้ง่าย แต่ข้อดีคือพระอาทิตย์ตกช้ามากคือราว 3 ทุ่มทำให้มีเวลาเที่ยวเยอะ … ช่วงนี้แทบจะหมดสิทธิ์ได้สวมเสื้อกันหนาวสวยๆ คู่กับวิวโชว์ความเป็นยุโรป แต่ต้องใส่เสื้อยืดบางๆ กันเลยทีเดียว ถ้ามาเร็วกว่านี้สักเดือนนึงจะมีบางแห่งที่อากาศยังค่อนข้างเย็นสบายแลกกับโอกาสที่อาจต้องเจอกับฝนมากกว่า
ส่วนแผนการเดินทางที่ใช้วิธีบินลงไปเริ่มทริปจาก Dubrovnik ทำให้ประหยัดเวลามากกว่าการเริ่มที่ Zagreb ขับรถลงไปแล้วขับวนกลับขึ้นมา แต่ก็ต้องเสียค่าเครื่องบินภายในยุโรปเพิ่มขึ้นพอสมควร
บทเรียนจากทริปนี้
แม้จะไปยุโรปมาหลายรอบ แต่ละครั้งก็ยังมีบทเรียนดีๆ ให้เสมอ อย่างครั้งนี้ก็ได้มาเพียบ ลองมาดูว่ามีอะไรบ้าง
- ได้มีโอกาสขับรถเกียร์แมนนวลครั้งแรกในยุโรป วันแรกเกือบเอาตัวไม่รอดเพราะหาเกียร์ถอยหลังไม่เจอ .. ดูจากสัญลักษณ์ที่หัวเกียร์เขียนบอกไว้ว่าจะอยู่ถัดมาทางซ้ายบนติดกับเกียร์ 1 (บ้านเราจะอยู่ทางขวาล่าง) แต่มันเลื่อนไปเลยไม่ได้ทันที ต้องยกหัวเกียร์ขึ้นเล็กน้อยก่อนเข้าเกียร์ถอยหลัง คงเพื่อป้องกันการสับสนระหว่างเกียร์ 1 กับเกียร์ถอยหลังนั่นเอง
- ที่พักประเภท Apartment หลายแห่งที่บอกว่ามีแอร์ บางครั้งจะมีเฉพาะที่ห้อง living room เท่านั้นแต่ไม่มีในห้องนอน ดังนั้นถ้าจะใช้แอร์จะต้องเปิดประตูห้องนอนไว้ หากมาช่วง summer ต้องเช็คเรื่องนี้ให้ดีเพราะอากาศร้อนไม่แพ้บ้านเรา ถ้าไม่มีแอร์ในห้องนอนอาจเย็นไม่พอทำให้นอนหลับไม่สบาย
- รถดีเซลในยุโรปบางรุ่นต้องมีการเติม Adblue ซึ่งเป็นสารที่เติมลงไปผสมกับน้ำมันเพื่อลดมลพิษ หากระดับต่ำเกินไปเครื่องอาจจะสตาร์ตไม่ติด โดยปกติบริษัทรถเช่าควรเช็คระดับสารตัวนี้เหมือนเช็คน้ำมันเครื่อง แต่รถคันนี้กลับโชว์ไฟเตือนที่หน้าปัดให้เติม Adblue จึงต้องหาข้อมูลว่ามันคืออะไร และตัดสินใจเติมที่ปั้มน้ำมันใน Slovenia ซึ่งบางปั๊มจะมีหัวจ่าย Adblue โดยเฉพาะ ทั้งนี้รถที่ผมเช่าช่องเติม Adblue อยู่ติดกับช่องใส่น้ำมัน และมีสัญลักษณ์ว่าเติมได้ทั้งแบบหัวจ่ายในปั๊มและซื้อแบบขวด (แสดงว่ารถบางรุ่นอาจจำกัดรูปแบบการเติม)
ก็หวังว่ารีวิวนี้จะมีประโยชน์กับคนที่กำลังวางแผนเดินทางไปประเทศเหล่านี้นะครับ … สำหรับผู้ที่สนใจทริปโครเอเชียสวยๆ แบบนี้ หรือทริปยุโรปอื่นๆ สามารถลงชื่อได้ได้ในแบบฟอร์มนี้ ถ้าเปิดทริปเมื่อไหร่จะแจ้งให้ทราบครับ