รีวิวทั้ง 9 ตอนของทริปนี้
- เยือนดินแดนแห่งปราสาทในเทพนิยาย
- เมืองงามแห่งแม่น้ำ inns และถนนสายงามแ่ห่ง Austria
- อยากให้เวลาเดินช้าลง… ที่ Hallstatt
- สัมผัสเมืองมรดกโลก … Cesky Krumlov
- ลมหายใจแห่ง “ปราก”
- Karlovy Vary เมืองนี้สีลูกกวาด
- Rothenburg ในวันฝนพรำ
- มิวนิค สีสันแห่งเยอรมัน
- บทสรุปท่องเที่ยว-ถ่ายภาพ เยอรมัน-ออสเตรีย-เช็ก
– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –
ต่อจากตอนที่แล้ว พวกเราออกจากปรากในช่วงบ่าย ๆ เพื่อเดินทางสู่อีกหนึ่งเมืองของสาธารณรัฐเช็ก … เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ชื่อ “Karlovy Vary” เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งน้ำแร่และสปา เพราะเมืองแห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวและสปาระดับโลกก็เพราะน้ำแร่ที่เชื่อกันว่าช่วยรักษาและบรรเทาโรคนั่นเอง
เมืองแห่งนี้สร้างขึ้นโดยพระเจ้าชาร์ลที่ 4 (Charles IV) ซึ่งค้นพบสถานที่นี้จากการที่สุนัขล่าเนื้อของพระองค์ตกลงในบ่อน้ำพุร้อน หลังจากนั้นจึงมีการสร้างเมืองนี้ขึ้นมาในศริสศตวรรษที่ 13 และกลายเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวและเหล่าคนดังได้มาเยือนเป็นจำนวนมาก เพื่อสัมผัสและทดลองดื่มน้ำแร่จากบ่อน้ำพุร้อนที่มีอุณหภูิมิตั้งแต่ 34-73 องศาเซลเซียส จึงไม่แปลกเลยที่เราจะเจอคนถือแก้วมีที่มีลักษณะมีปากยาว ๆ เหมือนกาน้ำขนาดเล็กลวดลายน่ารักอยู่ทั่วเมือง ซึ่งเรียกกันว่าแก้วพอร์ชเลน ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าดื่มด้วยแบบแก้วแบบอื่นจะทำให้น้ำแร่เสียคุณภาพไปหรือเปล่า หุหุ .. แต่ที่แน่ ๆ ทุกคนในกลุ่มที่ดื่มน้ำแร่ยืนยันตรงกันว่า “มันกร่อยมาก” อิอิ
เมือง Karlovy Varty เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งขนาบแม่น้ำ Tepla อาคารส่วนใหญ่เป็นร้านค้าและโรงแรม ที่ใ้ช้สีหวาน ๆ บนสถานปัตยกรรมแบบยุโรป ทำให้เมืองแห่งนี้ดูมีเสน่ห์น่าหลงไหล แต่ก็แน่นอนว่าเมื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวตากอากาศแบบนี้ โรงแรมในเมืองจึงหรูหรา ไฮโซซะเหลือเกิน และหนึ่งในนั้นคือ Grandhotel Pupp ที่ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ James bond ตอน Casino Royal
เราสามารถเดินชมเมืองทั้งหมดได้ในเวลาครึ่งวัน เพราะอย่างที่บอกว่าเป็นเมืองเล็ก ๆ …ผมแนะนำว่าถ้าอยากได้มุมมองที่แปลกออกไป ให้ลองขึ้นไปชมวิวบนถนนที่ตัดขึ้นไปบนเนินเหนือตัวเมืองครับ จะได้เห็นตึกสีลูกกวาดตั้งเรียงรายกันโดยมีแม่น้ำอยู่ตรงกลางสวยงามมากทีเดียว
จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่น ๆในเืมืองได้แก่โบสถ์ Russian Orthodox Church of St. Peter and St. Paul, The Hot Spring Colonnade อาคารที่มีบ่อน้ำพุร้อนพุ่งสูงที่สุดของเมืองนี้, Mill Colonnade เป็นอาคารที่มีน้ำพุร้อนด้านใน 5 บ่อด้วยกัน ตัวอาคารมีเสาจำนวนมากดูสวยงามโดดเด่นจากอาคารอื่น ๆ
สำหรับที่พักในเมือง Karlovy Vary ของพวกเราคือ Slunecni Lazne ซึ่งเ็ป็น Apartment ห่างจากตัวเมืองราว 2 กิโลเมตร ซึ่งมีรถประจำทางผ่านด้านหน้าด้วย ทำให้สะดวกกรณีที่ไม่อยากขับไปหาที่จอดรถในเมืองเพราะมีที่จอดรถค่อนข้างจำกัด ทั้งนี้ห้องพักที่นี่กว้างขวางมาก ๆ ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ีมี Sofa bed กรณีที่้ต้องการเตียงเพิ่ม ห้องน้ำทันสมัยและสะดวกสบาย อีกทั้งมีเครื่องครัวครบครันเหมาะสำหรับการไปพักเป็นกลุ่ม ที่สำคัญมี internet ให้เล่นฟรีด้วย เสียตรงที่ว่าด้วยความที่เป็น Apartment จึงไม่มีพนักงานที่ให้การดูแลเหมือนโรงแรม ตอนที่ผมไปถึงซึ่งเป็นช่วงเย็น พนักงานประจำเคาท์เตอร์กลับแล้ว แต่มี security มานั่งแทน ซึ่งเขาใ้้ช้ภาษาอังกฤษได้ไม่ดีนัก จึงทำให้สื่อสารยากไปนิดนึง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่เพราะเทียบกับค่าที่พัก 25 Euro/คน ถือว่าไม่แพงเลยจริง ๆ
หลังจากที่นำของไปเก็บบนห้องพักแล้ว ผมพาเพื่อน ๆ เข้าเมืองไปสำรวจกันก่อนหนึ่งรอบก่อนที่จะมาลุยกันเต็มที่ในเช้าวันรุ่งขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงเย็นและตัวอาคารส่วนใหญ่อยู่ระหว่างเนินเขา ทำให้แสงตกไม่ถึง เลยไม่เหมาะกับการถ่ายภาพมากนัก เราจึงตัดสินใจว่าค่อยมาเก็บภาพกันพรุ่งนี้เช้าดีกว่า ส่วนตอนนี้ได้เวลาทานอาหารมื่อค่ำกัน …
บรรยากาศยามเย็นในเมือง ยังพอมีแสงบ้าง แต่ตึกบางส่วนอยู่ในเงามืด
อันที่จริงระหว่างทางมา Karlovy Vary ผมมองหา Minimart มาตลอด เพื่อจะซื้อของสดแต่หาที่แวะไม่ได้เลย จึงลองถามพนักงานเฝ้า apartment ดูได้ความว่ามี supermarket ห่างออกไปราว 10 กม. ผมเห็นว่าก็ไม่เสียหายที่จะลองไปดู จึงขับรถออกจากเมืองไปตามทิศทางที่พนักงานคนนั้นบอก ทีแรกนึกว่าจะหลงซะแล้ว แต่ในที่สุดก็เจอ Super market ขนาดใหญ่ที่ชื่อ Globus ถ้าจำไม่ผิดมี Makro อยู่ใกล้ๆ ด้วย … จะว่าไปเจ้า Globus ก็เหมือน Lotus บ้านเรานี่แหละครับ มีของให้เลือกซื้อมากมาย ซึ่งพวกเราได้ทั้งผักสด,ไ่ข่ไก่ และ น้ำมันสำหรับทอดไข่เจียวจากที่นี่แหละ ทำให้มื้อค่ำของเราวันนี้จัดเต็มไปด้วยอาหารที่คุ้นเคยแบบไทย ๆ … ไข่เจียวร้อน ๆ ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นของ Karlovy Vary นี่มันสุดยอดจริง ๆ
เช้าวันรุ่งขึ้นเราไม่เร่งรีบนัก ผมเองก็ไม่ได้ตื่นเช้าแบบทุกวันเพราะเชื่อว่าเช้าตรู่ในเมืองคงไม่สวยมากนักจึงเลือกที่จะนอนบนเีตียงอุ่น ๆ ดีกว่า … หลังจากทานอาหารเช้าแล้วก็ขับรถเ้ข้าเมือง กว่าจะหาที่จอดรถได้ก็แย่เหมือนกันเพราะไม่ค่อยเข้าใจสัญลักษณ์ว่าอันไหนจอดได้ อันไหนไม่ได้ กลัวจะโดนค่าปรับ … สุดท้ายได้ที่จอดหน้าโรงละครเทศบาลพอดี หุหุ
พวกเราแยกย้ายกันเดิน ผมก็ถ่ายภาพความสวยงามของอาคารไปเรื่อย ๆ โชคดีที่วันนี้ในเมืองมีการจัดงานอะไรสักอย่าง มีขบวนพาเหรดสวย ๆ สร้างบรรยากาศครื้นเครงให้กับเมืองเงียบ ๆ แห่งนี้ได้เยอะเลย
บรรยากาศสวย ๆ ยามเช้าของเมือง Karlovy Vary
ใช้เวลาเดินเที่ยวกันพักใหญ่ในจุดท่องเที่ยวหลักซึ่งเป็นร้านค้า, อาคารบ่อน้ำพุ เราก็ย้ายไปเก็บภาพที่โรงแรม Grandhotel Pupp ที่ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ James bond ตอน Casino Royal กันซะหน่อย และเพื่อให้ได้ซึมซับบรรยากาศหรูหราซะหน่อย ก็เลยไปนั่งที่ร้านกาแฟของโรงแรม ราคาก็พอ ๆ กับ star buck บ้านเรา … แถมด้วยแอบไปใช้บริการห้องน้ำของโรงแรมแห่งนี้ซะหน่อย … สาว ๆ ในกลุ่มกระซิบมาว่าทิชชูของโรงแรมนี้มันนุ่มมาาาาก …ใครไปอย่าลืมไปลองดูนะครับ อิอิ
มื้อเที่ยงวันนี้เรากะว่าจะใช้เงิน CZK ให้หมด จึงตัดสินใจว่าไปจัดเต็มกันที่ห้าง Globus ซึ่งไปถึงช่วงเที่ยง ๆ มีคนมาเข้าแถวซื้ออาหารเยอะมาก พนักงานก็แทบจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย แต่เราก็ใช้วิธีชี้ภาพเอาสลับกับภาษาใบ้ก็สามารถได้อาหารมามากมายหลายอย่าง แต่เงินเหลือเพียบเพราะอาหารถูกมาาาาาก … ทั้งนี้คงเ็ป็นเพราะห้างเหล่านี้ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวนั่นเอง ราคาจึงเป็นราคาสำหรับคนท้องถิ่น ทำให้เราทราบได้เลยว่าที่จริงแล้วเช็กไม่ได้มีค่าครองชีพสูงเลย น่าจะเท่า ๆ กับบ้านเรา
เนื่องจากมีเงินเหลือพอสมควร ก็เลยเอาไปเติมน้ำมันที่เป็นของ Globus เช่นกัน เพราะวันนี้้เราจะออกจากเช็กเข้าสู่เยอรมันกันอีกครั้งจึงไม่อยากเหลือเงินเช็กไว้เพราะคงแลกแล้วไม่ได้ rate ที่ดีนัก
จาก Karlovy Vary … วันนี้เราจะเิดินทางกลับเข้าสู่เยอรมันอีกครั้ง โดยมีจุดหมายที่เมือง Rothenburg ob der Tauber แต่เราจะแวะกันที่เมือง Nuremberg หรือที่คนเยอรมันเขาออกเสียงว่า “เนินแบก” กันก่อน เพราะผมมีนัดกับเพื่อนที่นั่น … เพื่อนคนนี้เป็นช่างภาพและหัวหน้าทัวร์ตอนที่ผมไปเมืองจีน คงเป็นเพราะชอบถ่ายภาพเหมือนกันเลยคุยกันถูกคอ ซึ่งเขาเพิ่งจะย้ายมาอาศัยที่เยอรมันได้ไม่นานนี้เอง ผมจึงถือโอกาสแวะมาหาและเอาน้ำพริกจากภูเก็ตติดไม้ติดมือมาฝากเล็กน้อย
เืมือง Nuremberg จะว่าไปแล้วก็ไม่ใช่เมืองเล็ก ๆ เงียบ ๆ ออกจะดูแล้วพลุกพล่านด้วยซ้ำ กว่าผมจะหาที่จอดรถในเมืองได้ก็แทบแย่ ต้องใช้บริการที่จอดรถสาธารณ แถมฝนก็ตกปรอย ๆ ซะอีก … เดิมทีเหล่าสาว ๆ กะว่าจะรอผมบนรถ เพราะไม่อยากเดินตากฝน แต่สุดท้ายไม่รู้อะไรดลใจก็เลยตัดสินใจเดินไปด้วยกัน โดยจุดนัดพบนั้นอยู่บริเวณใจกกลางเมืองซึ่งบริเวณนั้นเป็นแหล่งช็อปปิ้งดี ๆ นี่เอง กลายเป็นว่าสาว ๆ ของผมก็เลยได้เพลิดเพลินสนุกสนานกับการช็อปปิ้งไปโดยปริยาย … ด้วยสายเลือดหัวหน้าทัวร์เก่า เพื่อนผมก็เลยคะยั้นคะยอให้พวกเราเดินชมเมืองกันเล็กน้อย เพราะเมืองนี้เป็นเมืองที่สวยและมีสถานที่โบราณมากมาย แต่คนไทยไม่ค่อยนิยมมาเที่ยวมากนัก ส่วนใหญ่จะมาประชุมสัมนาซะมากกว่า .. ผมได้มีโอกาสเข้าไปเยือนโบสถ์ขนาดใหญ่ในเมือง แถมด้วยการเดินขึ้นไปยังป้อมปราการเ่ก่าของเมือง ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าถ้าไม่ได้ขึ้นมาึคงเสียดายแย่เพราะสวยไม่แพ้เมืองอื่น ๆ ที่ผ่านมาเลย แม้ว่าอากาศวันนี้จะไม่ดีก็เถอะ … กลายเป็นว่าที่เมืองทางผ่านแห่งนี้กลับมีภาพถ่ายของผมมากที่สุด เพราะมีช่างภาพมืออาชีพคอยถ่ายให้นั่นเอง หุหุ
เมือง Nuremberg สวยงามไม่แพ้เมืองอื่น ๆ เลย
ขากลับลงมาจากป้อมปราการ เราแวะทานไส้กรอกต้นตำหรับที่ไกด์กิติมศักดิ์ของเราบอกว่านี่แหละคือไส้กรอกเยอรมันที่อร่อยที่สุด ที่ร้านชื่อ Bratwurst Hausle ซึ่งพวกเราก็เห็นด้วย เพราะยังไม่ทันเดินออกพ้นเขตร้าน ไส้กรอกทั้งหมดมันก็หายไปกับตา หรือว่าพวกเราหิวกันแน่เนี่ย … เกือบลืมบอกไปว่าให้ทานคู่กับมันบดนะครับ เข้าก้านเข้ากัน
หลังจากทัวร์แบบด่วน ราว 2 ชั่วโมง เราก็ออกจาก Nuremberg มุ่งสู่ Rothenburg ob der Tauber ซึ่งกว่าจะถึงก็เกือบจะมืดแล้ว จนทำให้เจ้าของบ้านที่เราจะพักในคืนนี้คิดว่าเราจะเบี้ยวซะแล้ว 🙂 จะมีอะไรใน Rothenburg หนึ่งในเมืองสาย German Romantic Road คอยติดตามได้ในตอนต่อไปครับ
มี plan จะไปประชุมที่ Nuremberg กลางเดือน พ.ย.นี้ เห็น Blog ของคุณมดแล้วทำให้อยากขับรถเที่ยวด้วยตัวเองเลย แต่ถ้าเราไปเที่ยวคนเดียว การขับรถมันจะยากไปมั้ยคะ ต้องบอกว่าไปเที่ยวยุโรปทุกครั้งก้อใช้การนั่งรถไฟ แต่ถ้าได้ขับรถก้อน่าจะได้ภาพอีกบรรยากาศหนึ่ง ถ้ายังงัยรบกวคุณมดแนะนำด้วย และขอรบกวนส่งรายละเอียดทริปมาทาง email ได้มั้ยคะ จะได้ลองดูรายละเอียดและตัดสินใจ