คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำงานทุกวันนี้เกี่ยวข้องกับข้อมูล digital อยู่ตลอดเวลา อุปกรณ์ IT และ gadget ต่างๆ ไม่ว่าสำหรับทำงานหรือเพื่อความบันเทิง มาพร้อมกับประสิทธิภาพแต่ในขณะเดียวกันก็ต้องการพื้นที่มหาศาลในการจัดเก็บข้อมูล อย่างเช่นไฟล์ของกล้อง digital หรือ VDO ที่ไปถึงระดับ 4K, 8K ล้วนต้องการความจุของสื่อบันทึกข้อมูลมากกว่าแต่ก่อน … แม้แต่การจัดเก็บฐานข้อมูลที่ซับซ้อนทุกวันนี้ก็หนีไม่พ้นการพึ่งพาอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีความจุมากขึ้นเช่นกัน
NAS นับเป็นอุปกรณ์สำคัญที่เข้ามาช่วยในการจัดเก็บข้อมูลต่างๆ เพราะมีคุณสมบัติต่างกับ external harddisk ทั่วไปตรงที่สามารถทำงานร่วมกันบนเครือข่ายได้ มีระบบ RAID ที่เสริมประสิทธิภาพด้านความเร็วและความปลอดภัย … อย่างไรก็ตาม Harddisk ที่ใช้กับ NAS นั้นต้องถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อรองรับการทำงานแบบ 24/7 รวมถึงการใช้อ่าน-เขียนข้อมูลที่มากกว่าการใช้งานบนคอมพิวเตอร์ทั่วไป
Seagate ซึ่งเป็นผู้นำในตลาด Harddisk เองก็มีผลิตภัณฑ์ Harddisk ที่ถูกออกแบบให้ใช้งานกับ NAS โดยเฉพาะ โดยหนึ่งในนั้นคือ IronWolf series ที่นอกจากจะมีความทนทานเหมาะกับการใช้งานแบบ 24 ชั่วโมงแล้วยังมาพร้อมความเร็วที่อยู่ระดับหัวแถวของ Harddisk แบบจานหมุนในตลาดเลยทีเดียว (อ้างอิงรีวิวจาก PCWorld https://www.pcworld.com/article/3298537/ironwolf-pro-14tb-hard-drive-review-seagates-best-gets-more-capacity-and-speed.html)
และรีวิวนี้จะพาไปสัมผัสกับเจ้า HD Iron Wolf 14TB จาก Seagate ครับ … ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับเจ้า IronWolf Series กันก่อนเลย
IronWolf series ของ Seagate นั้นแบ่งเป็นสองประเภทย่อยคือ IronWolf ธรรมดาและตัว IronWolf Pro โดยในด้านของความเร็วทั้งสองตัวนี้ไม่แตกต่างกัน และมีคุณสมบัติพิเศษ vibration detection ที่ตัว harddisk จะสามารถตรวจจับแรงสั่นสะเทือนจากการทำงานของ harddisk ตัวข้างเคียงได้และใช้กลไกภายในลดแรงสั่นสะเทือนดังกล่าวทำให้ยืดอายุการทำงานของ harddisk ได้ ส่วนตัว Pro จะมีคุณสมบัติด้านจำนวนชั่วโมงการใช้งานที่สูงกว่า เหมาะสำหรับองค์กรหรือหน่วยงานที่ต้องอ่านเขียนข้อมูลบน NAS เยอะๆ ส่วนรุ่นธรรมดาเหมาะกับการใช้งานตามบ้านหรือธุรกิจขนาดเล็กนั่นเอง
จุดที่แตกต่างกันเพิ่มเติมด้านบริการคือรุ่นธรรมดาจะรับประกัน 3 ปี ส่วนรุ่น Pro รับประกัน 5 ปีและรวมบริการกู้ข้อมูลให้อีก 2 ปีเมื่อลงทะเบียน ซึ่งแน่นอนว่าข้อได้เปรียบเหล่านี้ทำให้รุ่น Pro มีราคาที่แพงกว่ารุ่นธรรมดาอยู่ประมาณนึง
ผมเองได้ Harddisk IronWolf Series แบบธรรมดาและแบบ Pro อย่างละหนึ่งตัว มีความจุเท่ากันที่ 14TB ซึ่งบอกได้เลยว่าเหมาะกับการใช้เป็นอุปกรณ์เก็บภาพและ VDO ของผมมากๆ เพราะแต่ละทริปผมถ่ายภาพและ VDO ราว 500 GB ดังนั้นความจุระดับ 14 TB จะทำให้ผมสามารถเก็บภาพได้ถึง 25-30 ทริปโดยไม่ต้องมาคอย upgrade อุปกรณ์ให้ยุ่งยากเลย
ตอนได้รับ Harddisk มาตั้งใจว่าจะเอามาใส่ใน NAS ที่ตัวเองมีอยู่ (Synology ds218+) แต่พอนำมาใช้จริงปรากฏว่าตัว NAS เองมองเห็นความจุ harddisk ไม่เต็ม โดยเห็นเพียง 12 TB โดยประมาณ ซึ่งเกิดจากตัว NAS ยังไม่มี firmware ตัวใหม่ที่สามารถทำงานได้กับ Harddisk ความจุสูงขนาดนี้นั่นเอง และเมื่อลองทดสอบการอ่านเขียนข้อมูลพบว่า ความเร็วที่ได้ไม่สูงตาม spec ของ harddisk ตามที่ควรจะเป็นเนื่องจากระบบ network ที่บ้านของผมนั้นเป็นแบบธรรมดาไม่ใช่อุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงนั่นเอง …จะว่าไปก็เหมือนพยายามจะทดสอบรถ BMW บนถนนราชพัสดุแถวบ้านนอกนั่นแหละจะให้รถวิ่งเต็มกำลังได้อย่างไร … ว่าแล้วก็เลยทดลองสั่ง harddisk docking แบบ USB 3.0 มาทดสอบดู เพื่อที่จะได้รู้ประสิทธิภาพที่แท้จริงของ harddisk แบบไม่มีข้อจำกัดของระบบ network
ตอนทดลองเสียบตัว IronWolf ทั้งสองตัวลงใน docking ก็แอบลุ้นว่าจะใช้งานได้ไหม จะเห็นความจุเต็มไหม และความเร็วจะเป็นอย่างไร ปรากฏว่าดีเกินคาด เครื่อง Macbook Pro ของผมสามารถมองเห็นเจ้า IronWolf และ IronWolf Pro ได้ 14 TB หลังจาก format เรียบร้อยแล้วก็ใช้งานได้เลยง่ายๆ เหมือน external harddisk ทั่วไป ซึ่งส่วนนึงก็ต้องยกความดีให้กับ docking station ของ Orico แบบ 2 bays ด้วย
หลังจากติดตั้งทุกอย่างพร้อมก็ได้เวลาทดสอบความเร็วอ่านและเขียนกัน ทั้งนี้ผมใช้วิธีทดสอบด้วยโปรแกรม ซึ่งกำหนดให้ทดสอบการอ่านและเขียนข้อมูลแบบหลายไฟล์ (ไม่ใช่ไฟล์ใหญ่ไฟล์เดียว) ซึ่งผลการทดสอบ เทียบตัวธรรมดากับตัวโปร รวมถึง SSD และ external harddisk ของ Seagate รุ่นอื่นเป็นไปตามภาพด้านล่างนี้
จะเห็นได้ว่าประสิทธิภาพด้านความเร็วของ IronWolf และ IronWolf Pro ใกล้เคียงกันมาก (ผมทดสอบหลายรอบ แต่ละรอบความเร็วใกล้เคียงกัน บางครั้งตัวธรรมดาเร็วกว่าเล็กน้อย บางครั้งตัวโปรเร็วกว่าเล็กน้อย จึงสรุปได้ว่าเป็นไปตามที่ Seagate แจ้งไว้คือทั้งสองตัวนี้มีคุณสมบัติด้านความเร็วที่ไม่ต่างกัน) ส่วนเมื่อเทียบกับ SSD จะเห็นได้ว่าความเร็วในการเขียนนั้นทำได้ใกล้เคียง SSD เลยซึ่งดีงามมากๆ ส่วนความเร็วด้านการอ่านยังคงเป็นรอง SSD อยู่พอสมควรซึ่งก็เข้าใจได้เพราะเทคโนโลยีคนละแบบกัน และการนำไปใช้งานก็ต่างกัน (SSD ไม่เหมาะกับการนำไปทำงานกับ NAS หรือการอ่านเขียนบ่อยๆ เพราะอายุการใช้งานขึ้นกับจำนวนครั้งของการอ่านเขียนข้อมูล) … และเมื่อเทียบ IronWolf ทั้งสองแบบกับ External Harddisk ของ Seagate ที่เราใช้ๆ กันอยู่จะเห็นว่าความเร็วต่างกัน 4-5 เท่าเลยทีเดียว จึงสรุปได้ว่าความเร็วของ IronWolf และ IronWolf Pro นั้นจัดจ้านตามที่เคลมไว้จริงๆ
บทสรุป
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาพื้นที่เก็บข้อมูลขนาดใหญ่ ที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความน่าเชื่อถือด้านความทนทาน นับว่า Seagate IronWolf และ Seage IronWolf Pro เป็นตัวเลือกที่เหมาะมาก เพราะมีความจุให้เลือกตั้งแต่ 1-16 TB (สำหรับรุ่นธรรมดา) และ 2-16 TB สำหรับรุ่น Pro ซึ่งนอกจากความจุ, ความเร็วแล้ว ยังมาพร้อมกับระบบที่เพิ่มอายุการใช้งานให้นานขึ้นอีกด้วย
ข้อสังเกต
- เมื่อ Harddisk มีการทำงาน จะได้ยินเสียงการอ่านเขียนข้อมูลอยู่บ้าง หากต้องการความเงียบควรตั้งไว้ห่างจากพื้นที่ทำงานเล็กน้อย
- ก่อนนำไปใช้กับ NAS ควรตรวจสอบว่า NAS รองรับความจุของ Harddisk ได้เต็มหรือไม่ ถ้าให้ชัวร์ 8 หรือ 10 TB น่าจะเป็นความจุที่ NAS ส่วนใหญ่รองรับได้ (ณ ต.ค. 2562)
- เมื่อนำไปใช้งานกับ NAS ความเร็วจะน้อยกว่าผลทดสอบข้างต้น เพราะการอ่านเขียนข้อมูลบน network อาจมีคอขวดและขึ้นกับประสิทธิภาพของเครือข่ายด้วย
- แม้ Seagate IronWolf และ Seage IronWolf จะสามารถนำมาใช้กับ docking หรือ harddisk encloser ได้ แต่ถ้าต้องการใช้คุณสมบัติตรวจสอบสถานการณ์ทำงานของ harddisk (health monitoring) จะต้องทำผ่าน application ของ NAS เท่านั้น
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมของ Harddisk IronWolf series สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.seagate.com/as/en/internal-hard-drives/hdd/ironwolf/